
‘สนธิญา’ ยื่นร้อง อสส. สอบโหวต ‘ประธาน-รอง ปธ.สภาฯ’ ไม่ถูกต้องเป็นโมฆะ ฝากถึง ‘พิธา’ เดินสายขอบคุณหรือโหมม็อบกดดัน
10 ก.ค. 2566 – ที่สำนักงานอัยการสูงสุด แจ้งวัฒนะ นายสนธิญา สวัสดี ได้เข้ายื่นหนังสือ ต่ออัยการสูงสุด (อสส.) เพื่อร้องสอบข้อเท็จจริง กรณีการลงคะแนนเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎร และรองประธานทั้ง 2 คน เมื่อวันที่ 4 ก.ค. ที่ผ่านมา เป็นการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ จึงยื่นเรื่องต่ออัยการสูงสุด เพื่อส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้กระบวนการเลือกดังกล่าวเป็นโมฆะ ยุติการปฏิบัติหน้าที่ โดยมี นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด รับหนังสือ
นายสนธิญา เปิดเผยว่า การโหวตเลือกประธานสภา และรองสภาฯ ทั้ง 2 คน ดังกล่าว ขัดกับรัฐธรรมนูญมาตรา 116 ผู้ใดกระทําให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา หนังสือหรือวิธีอื่นใดอัน มิใช่เป็นการกระทําภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ หรือมิใช่เพื่อแสดงความคิดเห็นหรือติชมโดยสุจริต โดยในวันดังกล่าว นายวิโรจน์ เปาอินทร์ ประธานในที่ประชุมชั่วคราว อ้างข้อบังคับการประชุมสภาฯ เพราะเห็นว่า มีผู้เสนอชื่อ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา แต่เพียงชื่อเดียว จึงยกให้เป็นประธานสภาฯ อย่างเลี่ยงไม่ได้ แต่กฎหมายรัฐธรรมนูญ เขียนไว้ว่า การรับเป็นประธานสภาฯ จะต้องมีมติจากที่ประชุมโดยชัดเจน ซึ่งต้องได้รับการลงมติจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ด้วยการเสียบบัตร ส.ส. แต่วันนั้นกลับไม่มีเลย
นอกจากนี้ ยังได้ร้องเรียนให้ตรวจสอบ กรณีที่เรื่องที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกล ที่มีการพูดหลังแถลงข่าวร่วมกับพรรคเพื่อไทย ในวันที่ 3 ก.ค.ที่ผ่านมา ว่าจะมีการเสนอชื่อนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา เป็นการทำผิดมาตรา 114 หรือไม่ เพราะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภาย่อมเป็นผู้แทนปวงชนชาวไทย ไม่อยู่ในความผูกมัดแห่งอาณัติมอบหมาย หรือความครอบงําใดๆ และต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เพื่อประโยชน์ส่วนรวมของประเทศชาติและความผาสุกของประชาชนโดยรวม โดยปราศจากการขัดกันแห่งผลประโยชน์ แต่การที่พิธาพูดไว้ก่อนเลือกประธานสภาฯ ถือเป็นการบังคับ ส.ส.หรือไม่รวมไปถึงการที่พิธาพูดว่า 8 พรรคร่วม จะโหวตตนเองเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ถือว่าเป็นการบังคับ ส.ส. หรือไม่
“สุดท้ายนี้ ยังได้ฝากไปบอกพรรคก้าวไกลว่า การที่ไปเดินสายขอบคุณตามสถานที่ต่างๆ เป็นการขอบคุณคะแนนเสียง หรือเป็นการชุมนุมเพื่อกดดัน และถ้าหากอัยการสูงสุด ไม่ส่งเรื่องไปที่ศาลรัฐธรรมนูญ ผมก็จะนำเรื่องนี้ไปร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญด้วยตนเอง” นายสนธิญา ระบุ.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
‘เท้ง’พลาดซ้ำ รีบผลัก‘ภท.’ พา‘พรรคส้ม'ผูกมัดตัวเอง
ไม่ว่าจะคิดมาดีแล้ว หรือไม่ทันระวัง การรีบประกาศว่า หากพรรคภูมิใจไทยเป็นรัฐบาล พรรคประชาชนจะไปเป็นฝ่ายค้านของ ‘เท้ง’ นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ถือเป็นเรื่องที่นักเลือกตั้งซึ่งมีประสบการณ์ทางการเมืองสูงไม่เลือกจะทำ
อสส. ไฟเขียว 'อัยการธนกฤต' นั่งที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน
อัยการสูงสุด ได้อนุญาตให้ ดร.ธนกฤต วรธนัชชากุล อัยการผู้เชี่ยวชาญ สํานักงานอัยการพิเศษฝ่ายสัญญาและหารือ 4 สํานักงานที่ปรึกษา กฎหมายปฏิบัติหน้าที่เป็นที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดินได้
ซวยแล้ว! อสส. รับคดีพ่อลูกตระกูลฮุนสั่งยิง เป็นคดีนอกราชอาณาจักร
อัยการสูงสุดรับคดี พ่อลูกตระกูลฮุนฯ สั่งยิงระเบิดตกในไทยรอบเเรกเป็นคดีนอกราชอาณาจักรเเล้ว “วัชรินทร์”อธ.อัยการสอบสวน จัดคณะอัยการลงพื้นที่ภาค 3 ร่วมสอบคดี
พรรค‘ปชน.’ขอโทษจากใจ วอน‘ประชาชน’ไปต่อด้วยกัน
ภาพที่หัวหน้าพรรคสีส้มทุกยุคสมัยมาปรากฏตัวพร้อมหน้าบนเวทีเดียวกันไม่ได้เกิดขึ้นให้เห็นบ่อยนัก เอาเข้าจริงอาจจะยิ่งกว่าเวทีปราศรัยใหญ่ก่อนเลือกตั้งทุกครั้งด้วยซ้ำ เพราะในกิจกรรม
'ธนาธร' กล้าพูด หาก 'พิธา' เป็นนายกฯ สถานการณ์ชายแดนจะไม่มาถึงจุดนี้เด็ดขาด
นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กล่าวในกิจกรรม “ปิกนิก พรรคประชาชนพบประชาชน ขอโทษจากใจขอไปต่อด้วยกัน”
อัยการวัชรินทร์ ตั้งทีมงานชุดใหญ่สอบคดีกัมพูชายิงถล่มไทย เอาผิดฮุนเซน-ฮุนมาเนต
ผบช.ภ.3 ส่งสำนวนเขมรยิงระเบิดใส่ไทย ให้ อสส.เเล้ว "วัชรินทร์" อธ.อัยการสอบสวน เตรียมตั้งคณะทำงานเกือบยกสำนักงาน ลุยคดีให้ 2 พ่อลูกตระกูลฮุนรับผิดชอบความสูญเสีย

