8 ก.ค.2566 - รศ.หริรักษ์ สูตะบุตร อดีตรองอธิการบดีฝ่ายบริหารบุคคล มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว Harirak Sutabutr ว่าหลังจากที่เราได้ตัวประธานสภาผู้แทนราษฎรแล้วในที่สุด วันที่ 13 กรกฎาคมก็จะเป็นวันที่เราจะได้รู้กันว่า การลงคะแนนเลือกนายกรัฐมนตรีจะเสร็จสิ้นลงในการประชุมครั้งเดียวหรือหลายครั้ง หรือจะลงคะแนนกันไปเรื่อยๆจนกว่าจะถึงเดือนพฤษภาคมปีหน้า จนกว่าสมาชิกภาพของวุฒิสมาชิกจะสิ้นสุดลง อย่างที่มีคนชี้ช่องว่าทำได้เพื่อให้ได้คุณพิธาเป็นนายกรัฐมนตรี
ขอย้อนกลับไปดูข้อตกลงครั้งสุดท้ายบ 4 ข้อ ระหว่างพรรคก้าวไกลกับพรรคเพื่อไทย ในวันก่อนวันเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎร
1.เสนอชื่อ นาย วันมูหะหมัดนอร์ มะทา เป็นประธานสภาผู้แทนราษฎร โดยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากพรรคก้าวไกล เป็นรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากพรรคเพื่อไทย เป็นรองประธานสภาคนที่ 2 โดยพรรคประชาชาติ พรรคไทยสร้างไทย พรรคเสรีรวมไทย พรรคเป็นธรรม พรรคเพื่อไทยรวมพลัง และพรรคพลังสังคมใหม่ พร้อมให้การสนับสนุนตามข้อตกลงนี้
2.บุคคลที่จะปฏิบัติหน้าที่เป็นประธานสภาผู้แทนราษฎรและรองประธานสภาผู้แทนราษฎร พร้อมผลักดันวาระที่ทำให้รัฐสภาไทยก้าวหน้า ให้เกิดความโปร่งใส ตรวจสอบได้ มีประสิทธิภาพ และเป็นของประชาชน
3.ข้อตกลงเรื่องตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรและรองประธานสภาผู้แทนราษฎรในครั้งนี้ เป็นไปเพื่อสร้างความเป็นเอกภาพระหว่าง 8 พรรคในการจัดตั้งรัฐบาล เสนอและสนับสนุน นาย พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรี อย่างสุดความสามารถ โดยดำเนินการตามข้อตกลง MOU ที่ได้แถลงร่วมกันเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2566
4.พรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทยยืนยันร่วมกันให้ความเห็นชอบกฎหมายสำคัญเพื่อประชาชน ซึ่งรวมถึงการนิรโทษกรรมคดีแสดงออกทางการเมือง และการแก้ไขกฎหมายเกี่ยวกับการปฏิรูปกองทัพ ได้แก่ ร่างพระราชบัญญัติจัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม ร่างพระราชบัญญัติกฎอัยการศึก และร่างพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ตามที่พรรคก้าวไกลเสนอ
ข้อ 1 เป็นเรื่องการกำหนดตัวประธานสภาและรองประธานสภาคนที่ 1 และคนที่ 2 ว่าจะเป็นของพรรคใด
ข้อ 2 เป็นข้อความที่เขียนไว้เพื่อความเท่ ตามแบบฉบับของพรรคก้าวไกล
ข้อ 3 เป็นข้อตกลงที่แสดงให้เห็นว่า พรรคก้าวไกลยอมลงให้พรรคเพื่อไทยเพื่อให้พรรคเพื่อไทย "สนับสนุน นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรีอย่างสุดความสามารถ" แสดงว่าพรรคก้าวไกลกลัวมากว่าจะไม่ได้เป็นรัฐบาล
ข้อ 4 เป็นข้อที่พรรคก้าวไกลต้องการผูกมัดพรรคเพื่อไทยให้สนับสนุน กฎหมายนิรโทษกรรมคดีแสดงออกทางการเมือง การแก้ไขกฎหมายเกี่ยวกับการปฏิรูปกองทัพ เพื่อยุบสภากลาโหม และให้การแต่งตั้งโยกย้ายตำแหน่งต่างๆในกองทัพกลับมาเป็นอำนาจของฝ่ายการเมือง การจัดทำกฎหมายกฎอัยการศึกฉบับใหม่เพื่อตัดอำนาจกองทัพ และสุดท้ายคือการยุบกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน เพื่อแลกกับการยอมให้ประธานสภาผู้แทนราษฎรเป็นคนที่พรรคพื่อไทยเลือก
ที่ต้องจับตาดูคือ กฎหมายนิรโทษกรรมคดีแสดงออกทางการเมือง ซึ่งแม้เขียนไว้กลางๆ แต่เชื่อได้เลยว่าจะต้องรวมถึงผู้ที่ถูกดำเนินคดีตามมาตรา 112 อย่างแน่นอน และก็เชื่อได้ด้วยว่า พรรคก้าวไกลต้องผลักดันให้มีการแก้ไขมาตรา 112 และหากเป็นไปได้ก็จะยกเลิก และจะพยายามต่อไปอย่างไม่ลดละจนกว่าจะสำเร็จ ซึ่งพรรคเพื่อไทยก็ต้องรู้แต่แกล้งทำเป็นไม่รู้ เพราะพรรคเพื่อไทยต้องการเปิดทางเลือกในการได้เป็นรัฐบาลไว้ทุกทางเลือก ไม่ว่าจะร่วมกับพรรรร่วมอีก 7 พรรค หรือย้ายขั้วไปร่วมกับพรรคร่วมรัฐบาลเดิมก็ตาม
ต้องขอชมเชยพรรครวมไทยสร้างชาติที่แสดงจุดยืนอย่างชัดเจน แม้จะรู้ว่าแพ้แน่ๆแต่ก็ยังส่งคุณวิทยา แก้วภราดัย เข้าแข่งขันเพื่อเป็นรองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 เพราะรู้ดีว่าผู้ที่พรรคก้าวไกลเสนอมีทัศนคติอย่างไรต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ต่างจากพรรคร่วม 8 พรรค ที่ดูเหมือนจะให้ความสำคัญกับการได้ร่วมรัฐบาลมากไว้เหนือสิ่งอื่นใด แต่ก็ไม่ว่ากัน ไม่ว่าจะมีความจงรักภักดี หรือเห็นความสำคัญของสถาบันพระมหากษัตริย์หรือไม่ ทุกคนย่อมมีเสรีภาพที่จะเชื่อหรือรู้สึกอย่างไรก็ได้ แต่พรรคการเมืองหลายพรรค ปากบอกไม่เห็นด้วยกับการแก้มาตรา 112 ปากบอกมีความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ แต่กลับเข้าร่วมกับพรรคการเมืองที่เป็นที่ทราบดีว่า มีทัศนคติอย่างไรต่อสถาบันพระมหากษัตริย์
ฉะนั้น ก็แสดงตัวกันให้ชัดเจนกันเลยดีกว่า อย่าเอาแต่อ้อมๆแอ้มๆกันอยู่เลย ประชาชนเขาจะได้ตัดสินใจได้ถูกในการเลือกตั้งครั้งต่อไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ระทึกสุดขีด! 22 พ.ย. ศาลรธน.ลงมติ 'รับ-ไม่รับ' คำร้อง 'ทักษิณ-เพื่อไทย' ล้มล้างการปกครอง
คอนเฟิร์ม ศุกร์นี้ 22 พ.ย. 9 ตุลาการศาลรธน.นัดประชุมวาระพิเศษ หลังงดมาสองรอบ เตรียมนำหนังสือ-ความเห็นอัยการสูงสุด กางบนโต๊ะประชุม ก่อนลุ้นโหวตลงมติ”รับ-ไม่รับคำร้อง”คดีทักษิณ-เพื่อไทย โดนร้องล้มล้างการปกครองฯ
'แพทองธาร' โชว์วิชั่น การเมืองมีเสถียรภาพ ประเทศไทยจะดีขึ้น!
นายกฯ โชว์วิชั่น Forbes ไทยสงบ สันติ หวังรัฐบาลเปลี่ยน นายกฯเปลี่ยน แต่นโยบายเพื่อปชช.เดินหน้า บอกต่างชาติเจอคำถามแรกถามพ่อ-อาเป็นอย่างไร ย้ำการเมืองมั่นคง มีเสถียรภาพแน่นอน
ไทยในสายตาต่างชาติ (ตอนที่ 48: พระราชกฤษฎีกา 1 เมษายน 2476 คือ การทำรัฐประหารเงียบหรือ ?)
ในตอนที่แล้ว ผู้เขียนได้สรุปเหตุการณ์สำคัญต่างๆที่เป็นเงื่อนไขที่นำมาสู่การประกาศพระราชกฤษฎีกาวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2476
รู้ไว้ซะ 'ปิยบุตร' เผย 'ทักษิณ' ได้กลับบ้าน เพราะก้าวไกลชนะเลือกตั้ง!
นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า โพสต์เฟซบุ๊กว่า สัปดาห์ที่ผ่านมา มีเรื่องหนึ่งที่ถูกหยิบยกมาถกเถียงกันอีกครั้ง
ปากไว! นายกฯ อบรม 'พ่อนายกฯ' รอที่ประชุมเคาะก่อนไปพูดบนเวทีแจกเงินหมื่น
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณี นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ขึ้นเวทีปราศัยหาเสียงเลือกตั้งท้องถิ่น มอง
พิราบขาว ตามจิกทักษิณ ยกปราศรัยหาเสียงที่อุดร หลักฐานมัดครอบงำเพื่อไทย
ที่สำนักคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายนพรุจ วรชิตวุฒิกุล แกนนำกลุ่มพิราบขาว 2006 ยื่นเอกสารเพิ่มเติมต่อกกต.กรณีคำร้องยุบ 6 พรรคการเมือง