ป.ป.ช.ลุ้นระทึกอีกรอบ! 10 โมงเช้า ศาลปกครองสูงสุดนัดอ่านคำพิพาษาเรื่องเผยแพร่ข้อมูลปมนาฬิกาเพื่อน หลังจาก ป.ป.ช.ยื้อให้แบบกระท่อนกระแท่น
15 มิ.ย.2566 - มีรายงานว่าในวันศุกร์ที่ 16 มิถุนายน 2566 เวลา 10.00 น. ศาลปกครองกลางนัดอ่านคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด ในคดีหมายเลขดำที่ 2557/2562 คดีหมายเลขแดง ที่ 1327/2564 ระหว่างนายพงศ์พิพัฒน์ บัญชานนท์ (ผู้ฟ้องคดี) กับสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)ที่ 1 กับพวกรวม 3 คน (ผู้ถูกฟ้องคดี) คดีพิพาทเกี่ยวกับการที่หน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐละเลยต่อหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดให้ต้องปฏิบัติ หรือปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวล่าช้าเกินสมควร ณ ห้องพิจารณาคดี 11 ชั้น 3 อาคารศาลปกครอง ถนนแจ้งวัฒนะ
สำหรับคดีนี้ผู้ฟ้องคดีฟ้องว่า สำนักงาน ป.ป.ช.ที่ 1 กับพวกรวม 3 คน ละเลยการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย กรณีผู้ฟ้องคดีมีหนังสือถึงผู้ถูกฟ้องคดีเพื่อขอให้เปิดเผยข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับคดีนาฬิกาหรูของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ จำนวน 6 รายการ ได้แก่ รายการที่ 1 เหตุผลซึ่งที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. (ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 3) มีมติยกคำร้องไม่รับคดีนี้ไว้ไต่สวน, รายการที่ 2 คำวินิจฉัยส่วนตนของกรรมการ ป.ป.ช. แต่ละท่าน ที่ให้ยกคำร้องไม่รับคดีนี้ไว้ไต่สวน, รายการที่ 3 รายงานสรุปผลการแสวงหาข้อเท็จจริงและรวบรวมพยานหลักฐาน ซึ่งคณะทำงานรวบรวมข้อเท็จจริงเสนอต่อที่ประชุมผู้ถูกฟ้องคดีที่ 3 ในวันที่ 27 ธันวาคม 2561 และเอกสารอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง, รายการที่ 4 คำชี้แจงของ พล.อ.ประวิตรในคดีนี้ทั้ง 4 ครั้ง ที่ยื่นต่อผู้ถูกฟ้องคดีที่ 3, รายการที่ 5 ข้อเท็จจริงทั้งหมดเกี่ยวกับนาฬิกา มียี่ห้ออะไรบ้าง ซีเรียลนัมเบอร์ มูลค่า และรายการที่ 6 รายชื่อของเพื่อน ๆ ที่นายปัฐวาท สุขศรีวงศ์ ให้ยืมนาฬิกาสวมใส่เช่นเดียวกับ พล.อ.ประวิตร แต่ผู้ฟ้องคดีได้รับมาให้เพียง 2 รายการ คือ รายการที่ 1 และรายการที่ 2 ผู้ฟ้องคดีจึงอุทธรณ์คำสั่งไม่เปิดเผยข้อมูลข่าวสารดังกล่าวต่อคณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสาร ซึ่งคณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารสาขาสังคม การบริหารราชการแผ่นดิน และการบังคับใช้กฎหมายได้มีคำวินิจฉัยให้ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 เปิดเผยข้อมูลข่าวสารรายการที่ 3 ถึงรายการที่ 6 ผู้ฟ้องคดีจึงไปยังที่ทำการของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 เพื่อรับข้อมูลข่าวสารตามคำวินิจฉัยดังกล่าว แต่ได้รับการบ่ายเบี่ยงเรื่อยมา จึงนำคดีมาฟ้อง
ศาลปกครองชั้นต้นพิพากษาให้ผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสาม เปิดเผยข้อมูลข่าวสารรายการที่ 3 และรายการที่ 4 ให้แก่ผู้ฟ้องคดีตามคำวินิจฉัยของคณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารสาขาสังคม การบริหารราชการแผ่นดินและการบังคับใช้กฎหมาย ที่ สค 334/2562 ลงวันที่ 22 สิงหาคม 2562 ภายใน 15 วัน นับแต่วันที่คดีถึงที่สุด เนื่องจากศาลพิจารณาแล้วเห็นว่า การเปิดเผยข้อมูลข่าวสารตามคำขอของผู้ฟ้องคดีเป็นส่วนหนึ่งของรายงานการแสวงหาข้อเท็จจริงและรวบรวมพยานหลักฐานที่เสนอต่อผู้ถูกฟ้องคดีที่ 3 กรณีกล่าวหาว่าจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ ซึ่งได้ดำเนินการเสร็จสิ้นไปแล้วย่อมไม่เป็นอุปสรรคต่อการไต่สวนข้อเท็จจริงของผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสามอันจะทำให้การบังคับใช้กฎหมายเสื่อมประสิทธิภาพหรือไม่อาจสำเร็จตามวัตถุประสงค์ได้ และรายงานข้อเท็จจริงหรือข้อมูลข่าวสารที่นำไปใช้ในการทำคำวินิจฉัยของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 3 เป็นการวินิจฉัยของกรรมการ ป.ป.ช. แต่ละคน เมื่อไม่ปรากฏว่าข้อมูลข่าวสารที่ผู้ฟ้องคดีขอให้เปิดเผยนั้น เป็นข้อมูลข่าวสารอันจะก่อให้เกิดความเสียหายต่อความมั่นคงของประเทศ หรืออาจทำให้การบังคับใช้กฎหมายของผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสามเสื่อมประสิทธิภาพ หรือจะกระทบต่อการปฏิบัติหน้าที่ของผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสามหรือประการอื่นใด ตามบทบัญญัติ มาตรา 36 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 หรือเป็นความลับเนื่องจากเป็นส่วนหนึ่งของงานในกระบวนการยุติธรรมทางอาญาตามคำกล่าวอ้างของผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสาม ซึ่งเป็นข้อมูลข่าวสารของราชการที่มีกฎหมายคุ้มครองมิให้เปิดเผย ตามพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ.2540 และผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสามมีหน้าที่ตามกฎหมายที่จะต้องปฏิบัติตามคำวินิจฉัยของคณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสาร โดยไม่ปรากฏเหตุที่ผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสามจะต้องไม่เปิดเผยข้อมูลข่าวสารดังกล่าว ประกอบกับการเปิดเผยจะแสดงให้เห็นถึงความโปร่งใสและตรวจสอบได้ อันจะก่อให้เกิดความน่าเชื่อถือและศรัทธาในการปฏิบัติงานของผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสาม ข้อกล่าวอ้างของผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสามดังกล่าวจึงไม่อาจรับฟังได้
ผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสามจึงยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาศาลปกครองชั้นต้นต่อศาลปกครองสูงสุด.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
มาแล้ว! ศาลปกครอง ร่อนเอกสารชี้แจงปม 'บิ๊กโจ๊ก' ยังไม่มีคำพิพากษาใดๆ
ศาลปกครอง เผยแพร่เอกสารชี้แจง กรณีที่มีสื่อมวลชนนำเสนอผลการพิจารณาคดีของศาลปกครองสูงสุด ในคดีที่พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล ยื่นฟ้องขอเพิกถอนคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ให้ผู้ฟ้องคดีออกจากราชการไว้ก่อน นั้น
เปิดหนังสือ ‘หมอวรงค์’ ร้อง กกต. สอบ 4 ประเด็นใหญ่ ฟัน ‘ทักษิณ’ ปราศรัยอุดรฯเข้าข่ายผิดกม.
ในการปราศรัยที่อุดรที่ผ่านมา จริงอยู่คุณมีสิทธิ์เสรีภาพที่จะพูด อยากจะปราศรัย เป็นเรื่องของคุณ แต่คุณต้องรับรู้นะครับว่า บ้านเมืองมีขื่อมีแป ถ้าคุณทำให้สงสัยได้ว่า มีความเสี่ยงที่ทำผิดกฏหมาย
‘เรืองไกร’ สบช่องร้อง ป.ป.ช. เช็คบิล ‘กิตติรัตน์’ ว่าที่ปธ.บอร์ดธปท.
เรืองไกร ร้อง ป.ป.ช. ตรวจ กิตติรัตน์ ป.กมธ.งปม.2555 เข้าข่ายมีความผิดแบบ สมหญิง หรือไ
ชาวบ่อทอง ชลบุรี เฮ!ศาลปกครองสูงสุดสั่งเพิกถอนใบอนุญาตโรงงานยางพาราแล้ว
ที่ศาลปกครองสูงสุด ถ.แจ้งวัฒนะ นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน เปิดเผยว่า ตามที่ชาวบ้านบ้านหนองใหญ่-ทับสูง ตำบลบ่อทอง อำเภอบ่อทอง จังหวัดชลบุรี
'แก้วสรร' แพร่บทความ 'นิติสงคราม' คืออะไร?
นายแก้วสรร อติโพธิ นักวิชาการอิสระ อดีตรองอธิการบดี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ อดีตคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ออกบทความเรื่อง “นิติสงคราม” คืออะไร???
ผบ.ตร. ไม่ขอก้าวล่วง ศาลปกครองสูงสุด ชี้ขาด 'บิ๊กโจ๊ก' ขอคุ้มครองชั่วคราว
พล.ต.อ.กิตติรัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เปิดเผยถึงกรณีที่ศาลปกครองยกคำร้องคุ้มครองชั่วคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนของ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล ว่า ตนขอให้ความเห็นแบบกว้าง ๆ