"อัษฎางค์ ยมนาค" นักวิชาการอิสระ ถาม "นางงามเวียดนามแหกสนธิสัญญาระหว่างประเทศหรือคนไทยระยำ ยืมมือต่างชาติ ทำลายชาติตัวเอง" จี้กองประกวดรับผิดชอบ
6 ธ.ค.2564-นายอัษฎางค์ ยมนาค นักวิชาการอิสระ โพสต์เฟซบุ๊กเรื่อง "นางงามเวียดนามแหกสนธิสัญญาระหว่างประเทศหรือคนไทยระยำ ยืมมือต่างชาติ ทำลายชาติตัวเอง" ระบุว่า เมื่อเวลา 19.00 น. ของวันที่ 4 ธันวาคม กองประกวดมิสแกรนด์อินเตอร์เนชั่นแนล 2021 จัดการประกวดรอบตัดสิน (Final Competition) ณ โชว์ดีซีฮอลล์ (SHOW DC HALL)
โดยมีมิสแกรนด์เวียดนาม “เหงียน ตุ๊ก ตุย เตียน” (Nguyen Thuc Thuy Tien) เป็นผู้ชนะการประกวดมิสแกรนด์อินเตอร์เนชั่นแนล 2021 คว้ามงกุฏและครองตำแหน่งมิสแกรนด์อินเตอร์เนชั่นแนล คนที่ 9 ของโลกได้สำเร็จหลังจากกล่าวสุนทรพจน์รณรงค์แคมเปญ “Stop the war and violence” ยุติสงครามและความรุนแรงทุกรูปแบบ
ก่อนทิ้งท้ายเป็นภาษาไทยว่า “ทำให้โลกเป็นที่ที่ดีขึ้นกว่าเดิมสำหรับทุกคน ” พร้อมชูสามนิ้ว ซึ่งการชู้สามนิ้วในเมืองไทยคือสัญลักษณ์ของคนกลุ่มใด ด้วยวัตถุประสงค์ทางการเมืองใด คนไทยรู้อยู่เต็มหัวใจทุกคน เนื่องจากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยแล้วว่าม็อบสามนิ้ว นั้นเป็นการชุมนุมเพื่อประชาธิปไตยที่ซ่อนเร้นการล้มล้างการปกครอง หมายความว่า นางงามเวียดนามให้การสนับสนุนกลุ่มคนที่ชุมนุมเพื่อประชาธิปไตยที่ซ่อนเร้นการล้มล้างการปกครองในประเทศไทย นางงามเวียดนามพยายาม "แทรกแซงภายใน โค่นล้มอธิปไตย ด้วยการบีบบังคับจากภายนอก" ซึ่งเป็นการกระทำผิดตาม "สนธิสัญญาไมตรีและความร่วมมือของประเทศสมาชิกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (TAC)"
สนธิสัญญาไมตรีและความร่วมมือของประเทศสมาชิกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรือ (TreatyofAmityand CooperationinSoutheastAsia-TAC) ซึ่งจัดทําขึ้นโดยประเทศสมาชิกอาเซียน 5 ประเทศ ต่อมาสมาชิกอาเซียนเพิ่มเป็น 10 ประเทศ ปัจจุบันสนธิสัญญา TAC มีอัครภาคี 29 ประเทศ กับ 1 องค์กรระหว่างประเทศ ประกอบด้วย ไทย เวียดนาม อินโดนีเซียฟิลิปปินส์ มาเลเซีย สิงคโปร์ บรูไน ลาว กัมพูชา ลาว เมียนมา ปาปัวนิวกินี อินเดีย ญี่ปุ่น ปากีสถาน เกาหลีใต้ รัสเซีย มองโกเลีย นิวซีแลนด์ ออสเตรเลีย ฝรั่งเศส ติมอร์เลสเต ศรีลังกา บังกลาเทศ เกาหลีเหนือ สหรัฐฯ ตุรกี แคนาดา และสหราชอาณาจักร มีข้อกําหนดหลักการพื้นฐานของความร่วมมือ และการดําเนินความสัมพันธ์ระหว่างกันของประเทศสมาชิก
หลักการสําคัญของสนธิสัญญา ซึ่งมีผลบังคับใช้มาตั้งแต่วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2519 โดยประเทศสมาชิกอาเซียนและประเทศสมาชิกอื่นๆ ทั้ง 29 ชาติต้องยึดถือ ยอมรับและปฏิบัติตามหลักการดําเนินความสัมพันธ์ในภูมิภาค ได้แก่ เคารพในเอกราช การมีอํานาจอธิปไตย ความเท่าเทียมกัน ความมั่นคงทางดินแดนและเอกลักษณ์แห่งชาติของทุกประเทศ ปราศจากการแทรกแซงจากภายนอก การโค่นล้มอธิปไตย หรือการบีบบังคับจากภายนอก การไม่แทรกแซงกิจการภายในซึ่งกันและกัน การกระทำของนางงามเวียดนามเข้าข่ายการกระทำในข้อ "การแทรกแซงจากภายนอก การโค่นล้มอธิปไตย หรือการบีบบังคับจากภายนอก"
เนื่องจากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยแล้วว่า ม็อบสามนิ้วเป็นการชุมนุมเพื่อประชาธิปไตยที่ซ่อนเร้นการล้มล้างการปกครอง เมื่อนางงามเวียดนามชูสัญลักษณ์สามนิ้ว ก็เป็นการแสดงออกว่าสนับสนุนม็อบล้มล้างการปกครอง เท่ากับสนับสนุนการโค่นล้มอธิปไตย นางงามเวียดนามและรัฐบาลเวียดนามจะรับผิดชอบและตอบคำถามนี้กับประเทศไทยและอาเซียนอย่างไร?
คนไทยและอาเซียนรอคำแถลงการณ์ของนางงามเวียดนามและรัฐบาลเวียดนาม เป็นเรื่องเหลือเชื่อหากนางงามเวียดนามจะอ้างว่าติดตามการเมืองไทย นางงามเวียดนามให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า "ฉันทราบถึงสถานการณ์ในประเทศไทยเมื่อประมาณ 2-3 เดือนก่อนเกี่ยวกับการที่ประชาชนออกมาต่อสู้เรียกร้องและต่อสู้ภายในประเทศไทย เพราะฉะนั้นฉันจึงเพียงต้องการชูสามนิ้วด้วยความหมายของประโยคภาษาไทยที่ว่า 'ทำให้โลกเป็นที่ ที่ดีขึ้นสำหรับทุกคน'"
ถ้านางงามเวียดนามติดตามสถานการณ์ในประเทศไทยเมื่อประมาณ 2-3 เดือนก่อนจริง นางต้องทราบข่าวว่า ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยแล้วว่าการที่ประชาชนกลุ่มหนึ่ง ซึ่งเป็นกลุ่มที่ชูสามนิ้วเป็นสัญลักษณ์ เป็นการออกมาต่อสู้เรียกร้องเพื่อประชาธิปไตยจำแลงที่ซ่อนเร้นการล้มล้างการปกครอง ดังนั้น การที่นางงามเวียดนามที่ชูสามนิ้วแสดงสัญลักษณ์ถึงการแทรกแซงกิจการภายในนั้น มาจากตัวเองล้วนๆ หรือมีคนไทยเสี้ยม ถ้าคิดเอง ก็ถือว่ามีความผิดฐาน "แทรกแซงกิจการภายใน" นางงามและรัฐบาลเวียดนามต้องแสดงความรับผิดชอบต่อความผิดต่อสนธิสัญญาระหว่างประเทศ ถ้าถูกเสี้ยม ก็ถือว่าตกเป็นเครื่องมือทางการเมือง ซึ่งแสดงว่าการประกวดไม่โปร่งใส เป็นเวทีประกวดนางงามที่ซ่อนเร้นวาระทางการเมือง ซึ่งศาลวินิจฉัยว่าเป็นความพยายามเรียกร้องประชาธิปไตยจำแลงที่ซ่อนเร้นการล้มล้างการปกครอง กองประกวดและผู้จัดการประกวดต้องแสดงความรับผิดชอบ
เป็นที่น่าสังเกตว่าการประกวดมิสแกรนด์อินเตอร์เนชั่นแนลเมื่อปี 2020 ที่ผ่านมามีนางงาม 6 คน ประกอบด้วย อาเบน่า อัปเพียห์ มิสแกรนด์อินเตอร์เนชันแนล 2020 จากประเทศสหรัฐอเมริกา, ซาแมนตา เบอร์นาร์โด รองอันดับ 1 จากประเทศฟิลิปปินส์, อีบานา แบตเชเลอร์ รองอันดับ 2 กัวเตมาลา, ออรา คาริสมา รองอันดับ 3 อินโดนีเซีย รองอันดับ 4 เฮเลน แคทเธอรีน มาเฮอร์ มิสแกรนด์สกอตแลนด์ 2020, ฮาน เลย์ มิสแกรนด์เมียนมา 2020 ทั้ง 6 สาวงามชูสามนิ้วและติดแฮชแท็ก #WhatHappeningInThailand มาครั้งหนึ่งแล้ว และที่เลวร้ายที่สุดคือ การให้นางงามฟิลิปปินส์ที่เป็นรองอันดับ 1 ของการประกวดปีที่ผ่านมาทำหนังสือวิจารณ์โจมตีประเทศไทยไปยัง UN ซึ่งถ้าจับได้ว่าเป็นฝีมือของผู้จัดและกองประกวดที่เสี้ยมสอนนางงามต่างชาติซึ่งไม่รู้ตื้นลึกหนาบางในกิจการในเมืองไทยให้กระทำการดังกล่าว ก็แสดงว่า ผู้จัดและกองประกวด ซึ่งมีพฤติกรรมแบบนี้ถือเป็นการ "ชักน้ำเข้าลึก ชักศึกเข้าบ้าน" และมีความพยายามในการล้มล้างการปกครอง หรือไม่ เนื่องจากสนับสนุนกลุ่มคนผู้ชุมนุมประท้วงที่ชูสามนิ้ว ซึ่งศาลวินิจฉัยว่า เป็นการเรียกร้องประชาธิปไตยที่ซ่อนเร้นล้มล้างการปกครอง
หากไม่พอใจนายกรัฐมนตรีหรือรัฐบาล ก็วิพากษ์วิจารณ์นายกรัฐมนตรีหรือรัฐบาลไป มันเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานภายใต้กฎหมายที่กระทำได้ แต่การกระทำแบบนั้น ไม่เรียกว่า การวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลหรือเป็นการแสดงความเป็นห่วงเป็นใยต่อประเทศไทยแต่เป็นการชักน้ำเข้าลึก ชักศึกเข้าบ้าน ของตัวการสำคัญที่เราคนไทยไม่ว่าฝ่ายไหนรู้ดีว่าเป็นใคร และเป็นความพยายามแทรกแซงกิจการภายในของนางงามต่างชาติ ที่น่าจะมีคนไทยที่เป็นตัวการสำคัญเสี้ยมอยู่เบื้องหลัง ซึ่งไม่ต้องบอก, คนไทยไม่ว่าฝ่ายไหน, ก็รู้ว่าเป็นใครหรือไม่
สรุป คำถามคือ การที่นางงามเวียดนามที่ชูสามนิ้วแสดงสัญลักษณ์ถึงการแทรกแซงกิจการภายในนั้น มาจากตัวเองล้วนๆ หรือมีคนไทยเสี้ยม ถ้าคิดเอง ก็ถือว่ามีความผิดฐาน "แทรกแซงกิจการภายใน" คนไทยขอประท้วงและรัฐบาลไทยควรแสดงท่าทีประท้วง นางงามและรัฐบาลเวียดนามต้องแสดงความรับผิดชอบต่อความผิดต่อสนธิสัญญาระหว่างประเทศ ถ้านางงามถูกเสี้ยม ก็ถือว่าตกเป็นเครื่องมือทางการเมือง ซึ่งแสดงว่าการประกวดไม่โปร่งใส เป็นเวทีประกวดนางงามที่ซ่อนเร้นวาระทางการเมือง ซึ่งศาลวินิจฉัยว่าเป็นความพยายามเรียกร้องประชาธิปไตยจำแลงที่ซ่อนเร้นการล้มล้างการปกครอง กองประกวดและผู้จัดการประกวดต้องแสดงความรับผิดชอบ ซึ่งความผิดต้องเป็นไปตามอย่างใดอย่างหนึ่งจาก 2 กรณีนี้ ถ้าไม่ใช่ตัวนางงามเวียดนาม ก็ต้องเป็นกองประกวด แต่ถ้าไม่ใช่กองประกวด ก็ต้องเป็นที่ตัวนางงามซึ่งรัฐบาลเวียดนามต้องร่วมรับผิดชอบ
"อัษฎางค์ ยมนาค" นักวิชาการอิสระ ถาม "นางงามเวียดนามแหกสนธิสัญญาระหว่างประเทศหรือคนไทยระยำ ยืมมือต่างชาติ ทำลายชาติตัวเอง" จี้กองประกวดรับผิดชอบ
6 ธ.ค.2564-นายอัษฎางค์ ยมนาค นักวิชาการอิสระ โพสต์เฟซบุ๊กเรื่อง "นางงามเวียดนามแหกสนธิสัญญาระหว่างประเทศหรือคนไทยระยำ ยืมมือต่างชาติ ทำลายชาติตัวเอง" ระบุว่า เมื่อเวลา 19.00 น. ของวันที่ 4 ธันวาคม กองประกวดมิสแกรนด์อินเตอร์เนชั่นแนล 2021 จัดการประกวดรอบตัดสิน (Final Competition) ณ โชว์ดีซีฮอลล์ (SHOW DC HALL)
โดยมีมิสแกรนด์เวียดนาม “เหงียน ตุ๊ก ตุย เตียน” (Nguyen Thuc Thuy Tien) เป็นผู้ชนะการประกวดมิสแกรนด์อินเตอร์เนชั่นแนล 2021 คว้ามงกุฏและครองตำแหน่งมิสแกรนด์อินเตอร์เนชั่นแนล คนที่ 9 ของโลกได้สำเร็จหลังจากกล่าวสุนทรพจน์รณรงค์แคมเปญ “Stop the war and violence” ยุติสงครามและความรุนแรงทุกรูปแบบ
ก่อนทิ้งท้ายเป็นภาษาไทยว่า “ทำให้โลกเป็นที่ที่ดีขึ้นกว่าเดิมสำหรับทุกคน ” พร้อมชูสามนิ้ว ซึ่งการชู้สามนิ้วในเมืองไทยคือสัญลักษณ์ของคนกลุ่มใด ด้วยวัตถุประสงค์ทางการเมืองใด คนไทยรู้อยู่เต็มหัวใจทุกคน เนื่องจากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยแล้วว่าม็อบสามนิ้ว นั้นเป็นการชุมนุมเพื่อประชาธิปไตยที่ซ่อนเร้นการล้มล้างการปกครอง หมายความว่า นางงามเวียดนามให้การสนับสนุนกลุ่มคนที่ชุมนุมเพื่อประชาธิปไตยที่ซ่อนเร้นการล้มล้างการปกครองในประเทศไทย นางงามเวียดนามพยายาม "แทรกแซงภายใน โค่นล้มอธิปไตย ด้วยการบีบบังคับจากภายนอก" ซึ่งเป็นการกระทำผิดตาม "สนธิสัญญาไมตรีและความร่วมมือของประเทศสมาชิกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (TAC)"
สนธิสัญญาไมตรีและความร่วมมือของประเทศสมาชิกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรือ (TreatyofAmityand CooperationinSoutheastAsia-TAC) ซึ่งจัดทําขึ้นโดยประเทศสมาชิกอาเซียน 5 ประเทศ ต่อมาสมาชิกอาเซียนเพิ่มเป็น 10 ประเทศ ปัจจุบันสนธิสัญญา TAC มีอัครภาคี 29 ประเทศ กับ 1 องค์กรระหว่างประเทศ ประกอบด้วย ไทย เวียดนาม อินโดนีเซียฟิลิปปินส์ มาเลเซีย สิงคโปร์ บรูไน ลาว กัมพูชา ลาว เมียนมา ปาปัวนิวกินี อินเดีย ญี่ปุ่น ปากีสถาน เกาหลีใต้ รัสเซีย มองโกเลีย นิวซีแลนด์ ออสเตรเลีย ฝรั่งเศส ติมอร์เลสเต ศรีลังกา บังกลาเทศ เกาหลีเหนือ สหรัฐฯ ตุรกี แคนาดา และสหราชอาณาจักร มีข้อกําหนดหลักการพื้นฐานของความร่วมมือ และการดําเนินความสัมพันธ์ระหว่างกันของประเทศสมาชิก
หลักการสําคัญของสนธิสัญญา ซึ่งมีผลบังคับใช้มาตั้งแต่วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2519 โดยประเทศสมาชิกอาเซียนและประเทศสมาชิกอื่นๆ ทั้ง 29 ชาติต้องยึดถือ ยอมรับและปฏิบัติตามหลักการดําเนินความสัมพันธ์ในภูมิภาค ได้แก่ เคารพในเอกราช การมีอํานาจอธิปไตย ความเท่าเทียมกัน ความมั่นคงทางดินแดนและเอกลักษณ์แห่งชาติของทุกประเทศ ปราศจากการแทรกแซงจากภายนอก การโค่นล้มอธิปไตย หรือการบีบบังคับจากภายนอก การไม่แทรกแซงกิจการภายในซึ่งกันและกัน การกระทำของนางงามเวียดนามเข้าข่ายการกระทำในข้อ "การแทรกแซงจากภายนอก การโค่นล้มอธิปไตย หรือการบีบบังคับจากภายนอก"
เนื่องจากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยแล้วว่า ม็อบสามนิ้วเป็นการชุมนุมเพื่อประชาธิปไตยที่ซ่อนเร้นการล้มล้างการปกครอง เมื่อนางงามเวียดนามชูสัญลักษณ์สามนิ้ว ก็เป็นการแสดงออกว่าสนับสนุนม็อบล้มล้างการปกครอง เท่ากับสนับสนุนการโค่นล้มอธิปไตย นางงามเวียดนามและรัฐบาลเวียดนามจะรับผิดชอบและตอบคำถามนี้กับประเทศไทยและอาเซียนอย่างไร?
คนไทยและอาเซียนรอคำแถลงการณ์ของนางงามเวียดนามและรัฐบาลเวียดนาม เป็นเรื่องเหลือเชื่อหากนางงามเวียดนามจะอ้างว่าติดตามการเมืองไทย นางงามเวียดนามให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า "ฉันทราบถึงสถานการณ์ในประเทศไทยเมื่อประมาณ 2-3 เดือนก่อนเกี่ยวกับการที่ประชาชนออกมาต่อสู้เรียกร้องและต่อสู้ภายในประเทศไทย เพราะฉะนั้นฉันจึงเพียงต้องการชูสามนิ้วด้วยความหมายของประโยคภาษาไทยที่ว่า 'ทำให้โลกเป็นที่ ที่ดีขึ้นสำหรับทุกคน'"
ถ้านางงามเวียดนามติดตามสถานการณ์ในประเทศไทยเมื่อประมาณ 2-3 เดือนก่อนจริง นางต้องทราบข่าวว่า ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยแล้วว่าการที่ประชาชนกลุ่มหนึ่ง ซึ่งเป็นกลุ่มที่ชูสามนิ้วเป็นสัญลักษณ์ เป็นการออกมาต่อสู้เรียกร้องเพื่อประชาธิปไตยจำแลงที่ซ่อนเร้นการล้มล้างการปกครอง ดังนั้น การที่นางงามเวียดนามที่ชูสามนิ้วแสดงสัญลักษณ์ถึงการแทรกแซงกิจการภายในนั้น มาจากตัวเองล้วนๆ หรือมีคนไทยเสี้ยม ถ้าคิดเอง ก็ถือว่ามีความผิดฐาน "แทรกแซงกิจการภายใน" นางงามและรัฐบาลเวียดนามต้องแสดงความรับผิดชอบต่อความผิดต่อสนธิสัญญาระหว่างประเทศ ถ้าถูกเสี้ยม ก็ถือว่าตกเป็นเครื่องมือทางการเมือง ซึ่งแสดงว่าการประกวดไม่โปร่งใส เป็นเวทีประกวดนางงามที่ซ่อนเร้นวาระทางการเมือง ซึ่งศาลวินิจฉัยว่าเป็นความพยายามเรียกร้องประชาธิปไตยจำแลงที่ซ่อนเร้นการล้มล้างการปกครอง กองประกวดและผู้จัดการประกวดต้องแสดงความรับผิดชอบ
เป็นที่น่าสังเกตว่าการประกวดมิสแกรนด์อินเตอร์เนชั่นแนลเมื่อปี 2020 ที่ผ่านมามีนางงาม 6 คน ประกอบด้วย อาเบน่า อัปเพียห์ มิสแกรนด์อินเตอร์เนชันแนล 2020 จากประเทศสหรัฐอเมริกา, ซาแมนตา เบอร์นาร์โด รองอันดับ 1 จากประเทศฟิลิปปินส์, อีบานา แบตเชเลอร์ รองอันดับ 2 กัวเตมาลา, ออรา คาริสมา รองอันดับ 3 อินโดนีเซีย รองอันดับ 4 เฮเลน แคทเธอรีน มาเฮอร์ มิสแกรนด์สกอตแลนด์ 2020, ฮาน เลย์ มิสแกรนด์เมียนมา 2020 ทั้ง 6 สาวงามชูสามนิ้วและติดแฮชแท็ก #WhatHappeningInThailand มาครั้งหนึ่งแล้ว และที่เลวร้ายที่สุดคือ การให้นางงามฟิลิปปินส์ที่เป็นรองอันดับ 1 ของการประกวดปีที่ผ่านมาทำหนังสือวิจารณ์โจมตีประเทศไทยไปยัง UN ซึ่งถ้าจับได้ว่าเป็นฝีมือของผู้จัดและกองประกวดที่เสี้ยมสอนนางงามต่างชาติซึ่งไม่รู้ตื้นลึกหนาบางในกิจการในเมืองไทยให้กระทำการดังกล่าว ก็แสดงว่า ผู้จัดและกองประกวด ซึ่งมีพฤติกรรมแบบนี้ถือเป็นการ "ชักน้ำเข้าลึก ชักศึกเข้าบ้าน" และมีความพยายามในการล้มล้างการปกครอง หรือไม่ เนื่องจากสนับสนุนกลุ่มคนผู้ชุมนุมประท้วงที่ชูสามนิ้ว ซึ่งศาลวินิจฉัยว่า เป็นการเรียกร้องประชาธิปไตยที่ซ่อนเร้นล้มล้างการปกครอง
หากไม่พอใจนายกรัฐมนตรีหรือรัฐบาล ก็วิพากษ์วิจารณ์นายกรัฐมนตรีหรือรัฐบาลไป มันเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานภายใต้กฎหมายที่กระทำได้ แต่การกระทำแบบนั้น ไม่เรียกว่า การวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลหรือเป็นการแสดงความเป็นห่วงเป็นใยต่อประเทศไทยแต่เป็นการชักน้ำเข้าลึก ชักศึกเข้าบ้าน ของตัวการสำคัญที่เราคนไทยไม่ว่าฝ่ายไหนรู้ดีว่าเป็นใคร และเป็นความพยายามแทรกแซงกิจการภายในของนางงามต่างชาติ ที่น่าจะมีคนไทยที่เป็นตัวการสำคัญเสี้ยมอยู่เบื้องหลัง ซึ่งไม่ต้องบอก, คนไทยไม่ว่าฝ่ายไหน, ก็รู้ว่าเป็นใครหรือไม่
สรุป คำถามคือ การที่นางงามเวียดนามที่ชูสามนิ้วแสดงสัญลักษณ์ถึงการแทรกแซงกิจการภายในนั้น มาจากตัวเองล้วนๆ หรือมีคนไทยเสี้ยม ถ้าคิดเอง ก็ถือว่ามีความผิดฐาน "แทรกแซงกิจการภายใน" คนไทยขอประท้วงและรัฐบาลไทยควรแสดงท่าทีประท้วง นางงามและรัฐบาลเวียดนามต้องแสดงความรับผิดชอบต่อความผิดต่อสนธิสัญญาระหว่างประเทศ ถ้านางงามถูกเสี้ยม ก็ถือว่าตกเป็นเครื่องมือทางการเมือง ซึ่งแสดงว่าการประกวดไม่โปร่งใส เป็นเวทีประกวดนางงามที่ซ่อนเร้นวาระทางการเมือง ซึ่งศาลวินิจฉัยว่าเป็นความพยายามเรียกร้องประชาธิปไตยจำแลงที่ซ่อนเร้นการล้มล้างการปกครอง กองประกวดและผู้จัดการประกวดต้องแสดงความรับผิดชอบ ซึ่งความผิดต้องเป็นไปตามอย่างใดอย่างหนึ่งจาก 2 กรณีนี้ ถ้าไม่ใช่ตัวนางงามเวียดนาม ก็ต้องเป็นกองประกวด แต่ถ้าไม่ใช่กองประกวด ก็ต้องเป็นที่ตัวนางงามซึ่งรัฐบาลเวียดนามต้องร่วมรับผิดชอบ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'เอ็ดดี้' ชำแหละ! แผนรัฐบาลคุม 'แบงก์ชาติ' บรรลุ 6 เป้าหลัก
นายอัษฎางค์ ยมนาค นักวิชาการอิสระ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก "เอ็ดดี้ อัษฎางค์" ในหัวข้อ "อะไรคือจุดประสงค์ของการแทรกแซงแบงก์ชาติจากฝ่ายการเมือง"
เอ็ดดี้ ข้องใจปม ‘เกาะกูด’ ถาม ‘ทักษิณ’ มีข้อตกลงอะไรกับ ‘ฮุนเซน’ หรือไม่
ทักษิณ ชินวัตร ไร้น้ำยา ไม่สมราคาคุย หรือ ทักษิณ ชินวัตร มีข้อตกลงอะไรกับฮุนเซน หรือไม่ อย่างไร เป็นคำถามที่ค้างคาใจประชาชนคนไทยทั้งชาติ
'อัษฎางค์' ข้องใจ ม.นเรศวร จ้างฝรั่งมาบั่นทอนสถาบันพระมหากษัตริย์ หรืออย่างไร?
อัษฎางค์ ยมนาค โพสต์เฟซบุ๊ก เอ็ดดี้ อัษฎางค์ ระบุข้อความว่า มหาวิทยาลัยนเรศวรจ้างฝรั่งมาบั่นทอนสถาบันพระมหากษัตริย์ หรืออย่างไ
สงสัย 'อเมริกา' คือจุดเริ่มต้นการชุมนุมของนิสิตนักศึกษาเดือนตุลาถึงขบวนการสามกีบหรือไม่?
อัษฎางค์ ยมนาค นักวิชาการอิสระ โพสต์เฟซบุ๊ก ว่า สหรัฐอเมริกา(ผู้รักษาสันติภาพ ที่ทำลายสันติภาพ) คือจุดเริ่มต้นการชุมนุม
'อัษฎางค์' ยกตัวออย่างเห็นภาพแทรกแซงธนาคารกลาง = หายนะ
นายอัษฎางค์ ยมนาค นักวิชาการอิสระ โพสต์เฟซบุ๊ก #ประชานิยม + #การแทรกแซงธนาคารกลาง = #หายนะ เมื่อฝ่ายการเมืองคิดจะใช้นโยบายประชานิยม
ถาม ‘พิชัย’ ตรงๆ ใครเห็นหัวคนรากหญ้ามากกว่ากัน ‘พท.’ หรือ ‘แบงก์ชาติ’
การแจกเงินของพรรคเพื่อไทยจึงไม่เพียงแต่เป็นมาตรการทางเศรษฐกิจ แต่ยังเป็นกลยุทธ์ทางการเมืองที่ใช้สร้างความนิยมและรักษาฐานเสียง