"พิธา" นำทีมส.ส. กทม. ก้าวไกล จับมือ "ชัชชาติ" ฟอร์มคณะทำงานเพื่อคนกรุงเทพฯ รวดเร็ว ฉับไว มีประสิทธิภาพ
6 มิ.ย.2566 - นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค พร้อมด้วยว่าที่ส.ส.พรรคก้าวไกล หารือร่วมกับ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และคณะผู้บริหารกรุงเทพฯ ที่ห้องรัตนโกสินทร์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (เสาชิงช้า) เพื่อออกแบบการทำงานร่วมกันในฐานะที่พรรคก้าวไกลเป็นพรรคการเมืองที่มี ส.ส. มากที่สุดในกรุงเทพฯ จำนวน 32 คน จากทั้งหมด 33 เขต ตามการรายงานผลนับคะแนนเลือกตั้งอย่างเป็นทางการของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)
โดยในการหารือครั้งนี้ ชัชชาติได้กล่าวถึง 21 ข้อเสนอ Empower Bangkok เช่น เรื่องภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง การแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5 ปัญหาการจราจร ปัญหาน้ำท่วม โดยพิธาได้ชื่นชมการทำงานของ กทม. ที่นำเทคโนโลยีมาช่วยแก้ไขปัญหาของประชาชน ทำให้ประชาชนเข้าถึงบริการภาครัฐได้สะดวกยิ่งขึ้น ลดช่องว่างระหว่างรัฐกับประชาชน พร้อมกับระบุว่าหลายข้อเสนอของผู้บริหารกรุงเทพฯ ตรงกับ 300 นโยบายของพรรคก้าวไกลและตรงกับร่างกฎหมายจำนวน 45 ฉบับที่พรรคก้าวไกลเตรียมยื่นทันทีเมื่อเปิดสภาฯ ทั้งนี้ ระหว่างหารือ ว่าที่ ส.ส.กรุงเทพฯ พรรคก้าวไกล ได้ร่วมแลกเปลี่ยนความเห็นและให้ข้อเสนอแก่ผู้ว่าฯ กทม. ด้วย
เสร็จจากวงหารือ นายพิธา นายชัชชาติ และคณะทำงานของทั้ง 2 ฝ่าย แถลงข่าวร่วมกัน โดยนายชัชชาติระบุว่าการหารือวันนี้เป็นนิมิตหมายที่ดี เพราะการจะขับเคลื่อนเรื่องใดไปข้างหน้า การร่วมมือกันตั้งแต่ต้นเพื่อสร้างความเข้าใจเป็นสิ่งสำคัญ จึงขอขอบคุณพิธาที่ให้ความเห็นที่เป็นประโยชน์ วันนี้เป็นก้าวแรกของการเดินทางไกล ทั้ง กทม. และพรรคก้าวไกลมีเป้าหมายเดียวกันคือผลประโยชน์สูงสุดของประชาชน
ด้านนายพิธากล่าวว่า ปัญหาของกรุงเทพฯ ทั้งเรื่องเก่าและความท้าทายใหม่ จะแก้ไขได้อย่างฉับไวมีประสิทธิภาพ ต้องอาศัยการทำงานร่วมกัน ตั้งแต่ระดับรัฐบาล รัฐมนตรี สภาผู้แทนราษฎร ผู้ว่า กทม. และสภา กทม. ที่ผ่านมาการทำงานมี 3 อุปสรรคสำคัญ คือข้อจำกัดด้านกฎหมาย ข้อจำกัดด้านงบประมาณ และการประสานงานระหว่างรัฐสภากับสภา กทม. หากแก้ไขทั้งหมดนี้ได้ จะทำให้ กทม. ทำงานได้คล่องตัวมากขึ้นเพื่อแก้ไขปัญหาของประชาชน
สำหรับการหารือมี 3 ประเด็นหลัก ประเด็นที่หนึ่ง คือข้อเสนอ 21 ข้อของ กทม. ซึ่งต้องอาศัยการประสานงานกับรัฐสภาในการแก้ไขกฎหมาย พรรคก้าวไกลพร้อมให้ความร่วมมือ เช่น การแก้ไขฝุ่น PM2.5 ใน กทม. ซึ่งส่วนใหญ่มีสาเหตุจากรถยนต์ ถ้ารถน้อยกว่า 4 ล้อ กทม. มีอำนาจในการตรวจ แต่ถ้ามากกว่า 4 ล้อ จะเป็นอำนาจของกระทรวงอื่น
ประเด็นที่สอง คือร่างกฎหมาย 45 ฉบับที่พรรคก้าวไกลจะเสนอต่อสภาฯ ที่เกี่ยวข้องกับ กทม. คือการแก้ไขพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการกรุงเทพมหานคร เพื่อให้มีการเลือกตั้งผู้ว่าเขต และประเด็นที่สาม คือการตั้งคณะกรรมการเปลี่ยนผ่านในการทำงานระหว่างพรรคก้าวไกลและ กทม. (Bangkok Transition Team) โดยพรรคก้าวไกลมีพิจารณ์เป็นประธาน ส่วน กทม. มีต่อศักดิ์ โชติมงคล ประธานที่ปรึกษาผู้ว่า กทม. เป็นประธาน หลังจากนี้คณะทำงานจะมีการประชุมติดตามความคืบหน้ากันต่อไป เพื่อประโยชน์ของพี่น้องประชาชน กทม. ทุกคน
นายพิธา กล่าวว่า วาระเร่งด่วนที่ได้คุยกันวันนี้ คือ การบริหารจัดการน้ำท่วม การคมนาคมรถติด ที่จะเอาเทคโนโลยีเข้ามาช่วย และ ฝุ่นPM2.5 ซึ่งการทำงานเป็นเชิงมหภาค หลายเรื่องอาจจะเกิดขึ้นในกรุงเทพมหานครเอง และมีฝุ่นที่มาจากทางประเทศเพื่อนบ้าน เป็นเรื่องระหว่างประเทศ ระดับภูมิภาค เป็นระดับท้องถิ่น ระดับโลก ต้องมีกฎหมาย พ.ร.บ.อากาศสะอาดรวมถึงการทำงานของกระทรวงต่างประเทศการทำงานของกระทรวงอุตสาหกรรมดูแล รวมถึงการประสานงานกันภายในพื้นที่ระหว่างกระทรวงคมนาคมกับกรุงเทพมหานคร ที่ต้องวางแนวทางร่วมกัน
นายพิธา ยังกล่าวถึงกรณีการแก้ปัญหารถติดในพื้นที่กรุงเทพฯว่า มีความตั้งใจจะบรรเทาให้ได้มากที่สุด ด้วยการเอาเทคโนโลยีมาใช้ และการเดินทางที่มีรอยต่อ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับการใช้รถไฟฟ้าที่ หลายครั้งต้องไปต่อแถวเอาใหม่ ก็ต้องการให้เป็นตั๋วไปเที่ยวให้ได้ในราคาที่ย่อมเยา การที่จะให้มีขนส่งสาธารณะอย่างรถเมล์ไฟฟ้า ที่เป็นข้อบัญญัติ ของส.ก.พรรคก้าวไกลเสนอให้ กทม. เพื่อให้สะดวกมากขึ้น สะอาดมากขึ้น และราคาดีมากขึ้น ทั้งหมดนี้ตนมั่นใจว่าหากทำได้จะลดการจราจร และ ลดการใช้พลังงานที่เป็นปัญหาอยู่ขณะนี้ ถ้าจะทำ Sandbox เรื่องนี้ในกทม. ก็จะเป็นเรื่องที่สำคัญมากที่สุด แต่ว่าการแก้ปัญหาดังกล่าวไม่ได้จบแค่ กทม. เท่านั้น จะรวมไปถึงพื้นที่ปริมณฑลด้วยไม่ว่าจะเป็น จ. นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรสงคราม และสมุทรปราการ ซึ่งเป็นแนวร่วมที่ตนมองว่าเป็น Bangkok Plus จึงต้องทำงานในรอบนอกเพื่อจะให้ผู้ว่าฯชัชชาติ ทำงานได้ด้วยเช่นกัน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ปปช.เปิดทรัพย์สิน 'ก่อแก้ว' สุดอู้ฟู่รวย 263 ล้านบาท
เปิดเซฟ 'ชัยธวัช ตุลาธน' อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล 19.3 ล้านบาท 'อภิชาติ' อดีตเลขาธิการพรรค 13.2 ล้านบาท 'ก่อแก้ว' อู้ฟู่ 263 ล้าน
'เอ็ดดี้ อัษฎางค์' มีคำตอบให้! 'พิธา' ไม่เข้าใจทำไมกลายเป็นศัตรูเพื่อไทย
เอ็ดดี้-อัษฎางค์ ยมนาค อินฟลูเอ็นเซอร์การเมือง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า "พิธา ลิ้มเจริญรัตน์" ไม่เข้าใจทำไมกลายเป็นศัตรูกับเพื่อไทย อัษฎางค์ ยมนาค มีคำตอบให้
ก้าวไกลแพ้! ศาลยกฟ้อง 'ณฐพร โตประยูร' แจ้งเท็จ-หมิ่น ล้มล้างการปกครอง
ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีดำ อ.308/2564 ที่พรรคก้าวไกล เป็นโจทก์ฟ้องนายณฐพร โตประยูร อดีตที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดินเป็นจำเลยในความผิดฐานแจ้งความเท็จ,หมิ่นประมาทฯพร้อมเรียกค่าเสียหาย 20,062,475บาท
รู้ไว้ซะ 'ปิยบุตร' เผย 'ทักษิณ' ได้กลับบ้าน เพราะก้าวไกลชนะเลือกตั้ง!
นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า โพสต์เฟซบุ๊กว่า สัปดาห์ที่ผ่านมา มีเรื่องหนึ่งที่ถูกหยิบยกมาถกเถียงกันอีกครั้ง
'พิธา' คุยพรรคประชาชนแข่งเลือกตั้งมีแต่ชนะกับพัฒนา ไม่มีคำว่าแพ้
ที่จ.อุดรธานี แกนนำ สส. และผู้ช่วยหาเสียงพรรคประชาชน ร่วมเวทีปราศรัยหาเสียงเลือกตั้งนายก องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) อุดรธานี ที่จะมีการเลือกตั้งในวันที่ 24 พ.ย. 2567 ซึ่งพรรคประชาชนได้ส่ง คณิศร ขุริรัง เป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นนายก
'พิธา' เย้ยกลับทักษิณอย่าลืมผลเลือกตั้ง 66 ลั่นอุดรฯคือเมืองหลวงประชาธิปไตย
นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาคณะก้าวหน้าและอดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะผู้ช่วยหาเสียง นายคณิศร ขุริรัง ผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานีจากพรรคประชาชน