3 มิ.ย.2566 - นายเชาว์ มีขวด อดีตรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊ก มีรายละเอียดดังนี้ ถึง ก้าวไกล ก้าวให้ตรง อย่าให้ร้าย "ศาล"
ผมได้อ่านข่าวกรณีที่นายรังสิมันต์ โรม ว่าที่ส.ส. พรรคก้าวไกล ออกมาโจมตีศาล คดีที่นางสาวชลธิชา แจ้งเร็ว ว่าที่ส.ส.พรรคก้าวไกล จังหวัดปทุมธานี จำเลยคดีมาตรา 112 กล่าวหาว่า ศาลสั่งสืบพยานโดยไม่มีทนายความ ทำลายความยุติธรรมด้วยน้ำมือของผู้พิพากษา ถึงชั้นจะปฏิรูปศาลเมื่อสภาเปิด แล้วไม่สบายใจ เพราะคนทั่วไปที่ไม่มีความรู้เรื่องระบบการพิจารณาคดีของศาลได้ฟังนายรังสิมันตุ์ โรม แล้วอาจหลงเชื่อคล้อยตามเข้าใจว่าศาลโหดร้ายไม่ยุติธรรม ตามที่นายรังสิมันต์ โรม ต้องการบิดเบือนทำลายความน่าเชื่อถือของกระบวนการยุติธรรม ในส่วนของอำนาจฝ่ายตุลาการซึ่งทำมาต่อเนื่อง นายรังสิมันตุ์ โรม อาจจะตบตาชาวบ้านให้หลงเชื่อคล้อยตามด้วยเจตนาแอบแฝงอะไรก็แล้วแต่ แต่ไม่สามารถตบตาคนที่เข้าใจกระบวนการพิจารณาของศาลโดยเฉพาะทนายความที่ว่าความจริง ๆ อย่างผมได้ เพราะความจริงแล้วการนัดพิจารณาของศาลโดยเฉพาะการสืบพยานโจทก์-จำเลย คู่ความทุกฝ่ายต้องกำหนดวันนัดและลงชื่อทราบนัดกันก่อนล่วงหน้า โดยทั่วไปจะมีระยะเวลาห่างจากวันกำหนดนัดไม่ต่ำกว่าหนึ่งถึงสองเดือน
คดีนี้มีการฟ้องคดีตั้งแต่ปี 2565 คู่ความทั้งสองฝ่ายได้กำหนดนัดสืบพยานไว้เป็นช่วงเดือนมีนาคม 2567 แต่ต่อมาหลังจากมีพระราชบัญญัติ กาหนดระยะเวลาดำเนินงานในกระบวนการยตุิธรรม พ.ศ.2565 ใช้บังคับเมื่อต้นปีที่ผ่านมา มีวัตถุประสงค์เพื่อให้หน่วยงานในกระบวนการยุติธรรม กำหนดระยะเวลาดำเนินงานในกระบวนการยุติธรรมทุกขั้นตอนให้ชัดเจน เพื่อให้ประชาชนได้ รับความยุติธรรมโดยไม่ล่าช้า ศาลก็ต้องปฎิบัติตามโดยประธานศาลฎีกาได้ออก ระเบียบราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม ปี 2566 กำหนดระยะเวลาการยื่นคำร้อง การดำเนินการ เวลาพิจารณาพิพากษาคดี ขั้นตอนต่าง ๆ ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว และให้เผยแพร่ ในรูปแบบที่ทำให้ประชาชนสามารถเข้าถึงและเข้าใจ ตรวจสอบได้โดยง่าย มีบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 24 มกราคม 2566 คดีไหนที่นัดกันไว้ก่อนเป็นระระเวลาที่ยาวไกลเกินไปก็จะมีการกำหนดนัดกันใหม่เพื่อให้เป็นไปตามกรอบของกฎหมายใหม่ เช่นเดียวกับคดีนี้ที่มีการนัดสืบพยานในช่วงเดือนมีนาคม 2567 ศาลเห็นว่านานไป จึงมีการกำหนดวันนัดใหม่ ให้เร็วขึ้น เป็นสิ่งที่ศาลถือปฏิบัติเป็นการทั่วไป ไม่ใช่เลือกปฏิบัติเฉพาะคดีนี้ อีกทั้งก็ไม่ใช่ว่าศาลจะนัดเองได้ตามอำเภอใจ คู่ความทั้งฝ่ายโจทก์จำเลยโดยเฉพาะทนายความทั้งสองคนของนางสาวชลธิชาก็ทราบนัดก่อนแล้ว แต่พอถึงวันนัดสืบพยานนางสาวชลธิชา กลับขอเลื่อนคดี โดยอ้างว่าทนายติดว่าความที่ศาลอื่น
แต่องค์คณะผู้พิพากษา เจ้าของสำนวนคดีนี้ พิจารณาแล้วเห็นว่าคดีนี้ จำเลยได้แต่งตั้งทนายความไว้สองคน หากคนใดคนหนึ่งติดว่าความความที่ศาลอื่น อีกคนหนึ่งย่อมทำหน้าที่ได้แต่ทนายอีกคนหนึ่งกลับไม่มาศาล โดยไม่แจ้งเหตุขัดข้องให้ทราบ องค์คณะผู้พิพากษาได้ปรึกษาอธิบดีศาลอาญาแล้ว มีคำสั่งไม่อนุญาตให้เลื่อนคดี ให้สืบพยานตามที่นัดไว้ โดยใช้ระบบบันทึกภาพและเสียงไว้เป็นหลักฐาน และยังเปิดโอกาสให้นางสาวชลธิชา ซักถามค้านพยานใน ฐานะตัวความด้วยตนเอง แต่นางสาวชลธิชาไม่ซักค้าน กับทั้งศาลยังให้โอกาสให้ทนายจำเลยสามารถซักค้านพยานที่เบิกความไว้แล้ว ในภายหลังที่ทนายจำเลยว่างได้อีกด้วย นางสาวชลธิชาก็ไม่ยอมรับ แต่กลับยื่นคำร้องขอเพิกถอนกระบวนพิจารณาที่ผิดระเบียบและร้องต่ออธิบดีศาลอาญาให้เปลี่ยนองค์คณะผู้พิพากษา แต่อธิบดีศาลอาญาไม่อนุญาตเพราะเห็นว่าองค์คณะผู้พิพากษาได้ดำเนินกระบวนพิจารณาไปโดยชอบแล้ว
สรุปให้ฟังชัด ๆ อีกครั้งว่า กระบวนการพิจารณาคดีของศาลในกรณีที่มีการออกมาป้ายสีศาลนั้น ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร 1 ศาลเลื่อนพิจารณาเร็วขึ้น เป็นไปตามกฎหมายใหม่ที่ต้องมีกรอบเวลาพิจารณาให้ชัด 2 คู่ความรู้อยู่แล้ว 3 มีทนายความสองคน คนใดคนหนึ่งติดธุระ อีกคนทำหน้าที่แทนได้ แต่กลับไม่มา 4 ศาลเปิดโอกาสให้นางสาวชลธิชาซักค้านได้และให้โอกาสทนายซักค้านในนัดหน้าได้ด้วยแต่ไม่ทำ 5 จงใจทำลายความน่าเชื่อถือศาล ด้วยการสร้างเงื่อนไขไม่ยอมรับกระบวนการพิจารณา ทั้ง ๆ ที่กระบวนการพิจารณาของศาลเป็นไปโดยชอบด้วยกฎหมาย
ผมออกมาให้ความเห็นเรื่องนี้ไม่ใช่จะปกป้องศาลแต่ต้องการให้ทุกคนทราบความจริงที่ถูกปิดเบื่อน ผิดถูกว่ากันตรงไปตรงมาตามข้อเท็จจริงและไม่ใช่จะปกป้องไปทุกเรื่อง อย่างเรื่องที่นายรังสิมันต์ โรม ตรวจสอบกรณีศาลเพิกถอนหมายจับ สว. อุปกิตผมก็เห็นด้วยว่าศาลทำไม่ถูกต้อง แต่กรณีนี้ถือเป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริงในกระบวนการพิจารณาคดีของศาล นอกจากจะสุ่มเสี่ยงละเมิดอำนาจศาลแล้วยังถือว่าประพฤติตัวไม่เหมาะสมกับว่าที่สส.ที่กำลังจะเข้าไปทำหน้าที่เป็นตัวแทนของปวงชนชาวไทย อย่าเอาการพิจารณาคดีของศาลไปบิดเบือนเพื่อเป็นบันไดยกเลิกมาตรา 112 เลยครับ
พรรคก้าวไกลอ้างฉันทามติได้ สส.มา 151 คน มีโอกาสจะได้บริหารประเทศ ผมดีใจด้วยและว่าตามจริง รอคอยด้วยซ้ำที่จะเห็นว่า จะพลิกโฉมประเทศไทยไปทางไหน กาก้าวไกลแล้วประเทศไทยจะไม่เหมือนเดิมอย่างไร แต่สิ่งที่หลายคนอาจกังวลเหมือนผมคือ กาก้าวไกลประเทศไทยไม่เหมือนเดิม แล้วสถาบันกษัตริย์จะยังเหมือนเดิมมั้ย ศาลสถิตยุติธรรม จะถูกสั่นคลอนหรือเปล่า เพราะวิธีคิดที่ใช้เสียงข้างมากตัดสินทุกเรื่อง ไม่สามารถนำมาตัดสินความยุติธรรมได้ ไม่อย่างนั้นเราจะเข้าสู่ระบบศาลเตี้ยทันที
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'โรม' กล่อม 'ทักษิณ' เข้าแจง กมธ.ความมั่นคง ปมชั้น 14 เชื่อเป็นผลดีต่อรัฐบาล-นายกฯอิ๊งค์
นายรังสิมันต์ โรม รองหัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีเชิญนายทักษิณ ชินวัตร
ปปช.เปิดทรัพย์สิน 'ก่อแก้ว' สุดอู้ฟู่รวย 263 ล้านบาท
เปิดเซฟ 'ชัยธวัช ตุลาธน' อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล 19.3 ล้านบาท 'อภิชาติ' อดีตเลขาธิการพรรค 13.2 ล้านบาท 'ก่อแก้ว' อู้ฟู่ 263 ล้าน
ก้าวไกลแพ้! ศาลยกฟ้อง 'ณฐพร โตประยูร' แจ้งเท็จ-หมิ่น ล้มล้างการปกครอง
ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีดำ อ.308/2564 ที่พรรคก้าวไกล เป็นโจทก์ฟ้องนายณฐพร โตประยูร อดีตที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดินเป็นจำเลยในความผิดฐานแจ้งความเท็จ,หมิ่นประมาทฯพร้อมเรียกค่าเสียหาย 20,062,475บาท
รู้ไว้ซะ 'ปิยบุตร' เผย 'ทักษิณ' ได้กลับบ้าน เพราะก้าวไกลชนะเลือกตั้ง!
นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า โพสต์เฟซบุ๊กว่า สัปดาห์ที่ผ่านมา มีเรื่องหนึ่งที่ถูกหยิบยกมาถกเถียงกันอีกครั้ง
‘สาธิต’ ถาม 2 ผู้ยิ่งใหญ่ทางการเมือง ผู้นำจิตวิญญาณ จะเชื่อได้กี่โมง?
สาธิต ปิตุเตชะ อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) และอดีตสมาชิกพรรค ปชป. โพสต์เฟซบุ๊กหัวข้อ 'จะเชื่อได้? กี่โมงครับ'
ตอกยํ้าดีลฮ่องกง ลิ่วล้อแจงแทนนาย ‘พรรคส้ม’ ยากเป็นรัฐบาล
ตอกย้ำดีลฮ่องกงเหลว! "ณัฐวุฒิ" ขยายความ "ทักษิณ" คุย "ธนาธร" แค่เล่าชะตากรรม ไม่มีการพาดพิง ม.112 กับก้าวไกล เผยตั้งแต่โหวต "พิธา"