
2 มิ.ย. 2566 – นายไพศาล พืชมงคล นักกฎหมาย และอดีตกรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ว่า ต้มกบ
ก่อนเลือกตั้ง มีข่าวต้มกบว่า ลุงจะชนะเลือกตั้งแบบแลนสไลด์ จะมีผู้ลงคะแนนเสียงให้ถึง 20 ล้านคน ได้แสดงบัญชีกลุ่มมวลชนที่จะเลือกลุงไว้ชัดเจน เช่นชาวอโศก 1 ล้านคน เป็นต้น
ต้มกบสนิทก็ในวันเลือกตั้ง ถึงขั้นเชิญแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลไปรอแถลงชัยที่ safe house การปูพรมแดง ที่พรรคเตรียมประกาศชัย การแจ้งสื่อมวลชนไปรอทำข่าวอย่างพร้อมพรั่ง
หลังปิดหีบเลือกตั้ง 3 ชั่วโมง ผลตรงกันข้าม กลายเป็นเรื่องต้มกบต่างคนต่างไป พ่ายแพ้ยับเยิน
ต้มกบ ด้วยข่าวเรื่องดีลลับลังกาวี มาถึงวันนี้ความจริงก็ถูกเปิดเผยแล้วว่าเป็นแค่อุบายทำลายพรรคร่วมรัฐบาลตามแถลงการณ์ให้แตกกัน เพื่อฉวยโอกาสจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย
ต้มกบล่าสุดว่า ถ้านายพิธาถูกสอยตกสวรรค์ จะทำให้ผู้สมัคร ส.ส ก้าวไกล เป็นโมฆะ 151 คน อาจต้องเลือกตั้งทั้งประเทศ
ว้าวๆๆๆ ทำไมจึงว่าต้มกบ?
~ขณะนี้ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยังไม่รับรองผลการเลือกตั้ง ถ้าจะทำเรื่องนี้ ต้องส่งคดีไปที่ศาลฎีกา ซึ่งมีบรรทัดฐานอยู่แล้ว ว่าถ้าถือหุ้นน้อยก็ไม่ผิด เมื่อพิธาไม่ผิด จะสอยผู้สมัครก้าวไกลทั้งพรรคก็ล้มไปด้วย
ดูลีลาท่าทางคงไม่กล้าส่งคดีไปศาลฎีกาแน่ ดังนั้นก็ต้องรอให้กกต.รับรองผลเลือกตั้งเสียก่อน คดีจึงจะอยู่ในอำนาจของศาลรัฐธรรมนูญ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องหมูๆ เพราะ
-เมื่อ กกต. ประกาศผลเลือกตั้ง ก็สามารถเปิดประชุมสภาได้ สามารถเลือกนายกรัฐมนตรีได้ เขาก็ตั้งรัฐบาลกันไปเรียบร้อย แผนนี้ก็จะเดี้ยง
-ถ้าจะส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ ก็ติดตรงที่กฎหมายบัญญัติให้ผลคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญไม่มีผลย้อนหลัง คือวินิจฉัยเมื่อใดก็มีผลเมื่อนั้น ถ้าหากนายพิธาผิด ก็ไม่กระทบต่อการรับรองผู้สมัครรับเลือกตั้งของพรรคให้ตกเป็นโมฆะไปด้วย
-กกต. เป็นผู้มีอำนาจหน้าที่ในการตรวจ และมีคำสั่งในการเลือกตั้ง ซึ่งต้องตรวจความถูกต้องทุกประการของผู้สมัครทุกคนว่า มีการรับรองโดยถูกต้องหรือไม่ มีคุณสมบัติโดยถูกต้องหรือไม่ เมื่อ กกต. เห็นว่าถูกต้องแล้ว จึงมีคำสั่งให้รับสมัครรับเลือกตั้ง ผู้สมัครจึงมีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งได้
ถ้าอยู่ๆ กกต. จะทำฆาตกรรมตัวเอง ว่าตรวจสอบผู้สมัครรับเลือกตั้งผิดพลาด ก็จะเกิดความเสียหาย อย่างใหญ่หลวงขึ้น กกต. จะยอมฆ่าตัวตายด้วยตนเองทั้งคณะ หรือว่าจะยืนยันว่าที่ตรวจสอบมานั้นถูกต้อง?
-ก็รู้ๆ กันอยู่ว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล็ก และเป็นกระบวนการของการรัฐประหารโดยไสยศาสตร์ทางกฎหมาย อยู่ในสภาพที่ประชาชนทั่วประเทศที่เขาไปใช้สิทธิเลือกตั้ง เขาก็ไม่ยอมให้ปล้นสะดมอำนาจอธิปไตยในการเลือกตั้งอย่างแน่นอนแล้ว
ระยะนี้เอากันแค่ว่า กกต. จะรับรองผู้สมัครรับเลือกตั้งเมื่อใด ก็หาข้อยุติกันให้ได้ก่อน เพราะเป็นจุดกำหนดว่า จะส่งคดีนี้ ไปร้องที่ศาลฎีกา หรือจะไปศาลรัฐธรรมนูญ
-การลุกฮือขึ้นของประชาชน เพื่อต่อต้านการรัฐประหารโดยไสยศาสตร์ทางกฎหมาย อาจกลายเป็นการปฏิวัติ ประชาชาติ และนักล่าอาณานิคมต่างชาติ ก็อาจฉวยโอกาสขยายผลเป็นการปฏิวัติสี และถ้ามีความรุนแรงมากขึ้น การรัฐประหารก็อาจหลีกเลี่ยงไม่ได้
นี่คือสิ่งที่เคยเตือนไว้แล้วว่า สถานการณ์กำลังเข้าสู่สถานการณ์ปฏิวัติ 3 ชนิด พร้อมๆ กัน ซึ่งเป็นอันตรายร้ายแรงต่อบ้านเมือง และความมั่นคงของชาติ.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เปิดขั้นตอนหย่อนบัตร8ก.พ.69 บัตร3ใบเลือกตั้งพ่วงประชามติ
ประเทศไทยเข้าสู่ฤดูกาลการเลือกตั้งทั่วไปเพื่อเลือกสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) อย่างเป็นทางการ โดยในครั้งนี้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ไทยที่จะมีการเลือกตั้ง สส. พร้อมกับการทำประชามติหนึ่งเรื่องในวันเดียวกัน โดยกำหนดจัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 8 ก.พ.2569 ตั้งแต่เวลา 08.00 น. ถึง 17.00 น. ตามประกาศของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)
กกต. สรุปสมัครปาร์ตี้ลิสต์ 1.5 พันคน 73 แคนดิเดตนายกฯ
กกต. สรุปภาพรวมสมัคร สส. บัญชีรายชื่อวันแรก 1,502 คน ส่วน 34 พรรค เสนอแคนดิเนตนายกฯ 73 คน ขณะที่สมัครแบบแบ่งเขต 2 วัน รวม 3,199 คน
กกต. พอใจรับสมัครปาร์ตี้ลิสต์ 52 พรรคฉลุย มั่นใจ 8 ก.พ. มีเลือกตั้งแน่
'กกต.' เผยรับสมัครปาร์ตี้ลิสต์วันแรกราบรื่น 52 พรรคยื่นครบ เสนอแคนดิเดตนายกฯ 32 พรรค 68 คน เดินหน้าตรวจนโยบายเข้มตามกฎหมาย มั่นใจเลือกตั้ง 8 ก.พ.69 จัดได้ทั่้วประเทศ
'ภท.-ปชน.' แตกหักปม112 'พท.' ตัวแปรรอร่วมรัฐบาล
การเลือกตั้งวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2569 กำลังเดินหน้าเข้าสู่ช่วงโค้งสำคัญ พรรคการเมืองต่างเร่งนำเสนอนโยบาย แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี และทีมรัฐมนตรี เพื่อขอโอกาสประชาชนเข้ามาบริหารประเทศในอีก 4 ปีข้างหน้า

