นายกสมาคมทนายฯ ชี้ 'พิธา' ต้องได้รับเสียงหนุนจาก ส.ว. ดีกว่า ส.ส.

20 พ.ค.2566 - นายนรินท์พงศ์ จินาภักดิ์ นายกสมาคมทนายความแห่งประเทศไทยออกแถลงการณ์สมาคมทนายความแห่งประเทศไทย ระบุว่า สังคมไทยกำลังเผชิญความท้าทายครั้งใหญ่ อันเนื่องมาจากความขัดแย้งทางการเมืองของกลุ่มการเมืองระหว่างฝ่ายที่ถูกเรียกว่า “อนุรักษนิยม” และ “เสรีนิยมประชาธิปไตย”

ผลการเลือกตั้งที่ผ่านมา ประชาชนได้แสดงเจตนารมณ์อย่างชัดเจนว่าต้องการให้พรรคการเมืองจากฝ่ายเสรีนิยมประชาธิปไตยได้เข้ามาบริหารประเทศเเทนฝ่ายอนุรักษนิยมที่ยึดอำนาจและบริหารประเทศมากว่า 8 ปี นั่นคือเจตจำนงทางการเมืองที่มาจากเสียงส่วนใหญ่ของประชาชนที่ทุกฝ่ายต้องให้ความเคารพ

พรรคก้าวไกลซึ่งได้รับเสียงเป็นอันดับหนึ่ง จึงมีความชอบธรรมที่จะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล เริ่มจากการเสนอชื่อนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งจะต้องได้รับเสียงสนับสนุนจากสมาชิกรัฐสภาไม่น้อยกว่า 376 เสียง จึงจำเป็นที่จะต้องได้รับเสียงสนับสนุนจาก ส.ว. เพราะหากต้องรวบรวมเสียงจาก ส.ส. ให้ถึง 376 เสียง จะทำให้ฝ่ายค้านอ่อนแอจนตรวจสอบรัฐบาลไม่ได้ ซึ่งไม่เป็นผลดีและประชาชนจะเสียประโยชน์

ดังนั้น พรรคก้าวไกลจึงมีหน้าที่สำคัญ คือ การผลักดันให้นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งจะต้องกระทำด้วยท่าทีที่เป็นมิตร ประกอบกับยอมรับฟังความคิดเห็นในมุมสะท้อนต่างๆ จากทุกฝ่ายโดยเฉพาะฝ่ายที่มีความเห็นต่าง ไม่เช่นนั้นจะกลายเป็นการสร้างความขัดแย้งเพิ่ม โดยจะต้องทำให้ ส.ว. อีกฝ่ายเกิดความเชื่อมั่นว่า นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ มีความสามารถที่จะนำพาประเทศไปสู่ความก้าวหน้า และจะนำพาประเทศออกจากหล่มความขัดแย้งทางการเมืองที่เผด็จการสร้างทิ้งไว้โดยจะไม่เป็นผู้สร้างความขัดแย้งเสียเอง

ขณะเดียวกัน ส.ว. ซึ่งมีเอกสิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญในการลงมติให้ความเห็นชอบหรือไม่ จะต้องตระหนักว่าความชอบด้วยกฎหมาย (legality) เพียงอย่างเดียวแต่หากปราศจากความชอบธรรม (legitimacy) จะไม่สามารถนำมาซึ่งการยอมรับแต่กลับจะทำให้เกิดความขัดแย้งขยายเพิ่มมากขึ้น ทุกฝ่ายจึงต้องตระหนักว่าการสร้างความเชื่อมั่นให้ทั่วโลกและคนไทยเห็นว่า ประเทศไทยมีความเป็นอารยะ สามารถเปลี่ยนผ่านฐานอำนาจทางการเมืองได้อย่างราบรื่นและสันติ เพราะทุกฝ่ายเคารพการตัดสินใจของประชาชน จะนำมาซึ่งความมั่นใจซึ่งเป็นหัวใจของการแก้ไขปัญหาของประเทศ เพราะไม่มีประเทศใดบนโลกใบนี้ที่สามารถพัฒนาได้ท่ามกลางความขัดแย้งของคนในชาติ

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ครบ 75 ปีขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ดลใจ 'ทักษิณ' คิดดีต่อบ้านเมือง!

เมื่อวานที่นายทักษิณ ครบรอบวันเกิด 75 ปี ลำพังถ้านายทักษิณ เป็นนักธุรกิจ มีเงินมีทอง จะโดยสุจริตหรือทุจริต ผมคงไม่ต้องเอ่ยถึง แต่นายทักษิณคือบุคคลสาธารณะ และมีอิทธิพลต่อ ความสงบสุข

การเมืองไทยวันนี้! ฝ่ายหนึ่งโหยหาอดีตที่ไม่มีวันกลับมา อีกฝ่ายโหยหาอนาคตที่ไม่มีวันเกิดขึ้น

ฝ่ายหนึ่งโหยหา “ลุงตู่” อดีตผู้นำในวัยชรา ฝ่ายหนึ่งกล่าวว่า แม้มีอันเป็นไป ก็จะมี “ผู้นำรุ่นใหม่” เกิดขึ้นทดแทนตลอดเวลา ฝ่ายหนึ่งโหยหาอดีต

สส.รวมไทยสร้างชาติ จี้พาณิชย์ควบคุมราคาสินค้า หลังชาวบ้านบ่นอุบข้าวของแพง

นายธนกร วังบุญคงชนะ สส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าวว่า ช่วงที่ผ่านมาจากที่ตนได้ลงพื้นที่ย่านการค้า ร้านอาหารและตลาดต่าง ๆ ได้รับฟังเสียงสะท้อนปัญหาค่าครอง

วันเวลาฆ่าเฉลิม! 'อยู่ให้คนอิจฉา ดีกว่าอยู่อย่างน่าสงสาร'

คุณทักษิณได้ตอบคำถามของนักข่าว ที่ถามถึงเรื่องคุณเฉลิมให้สัมภาษณ์และท้าดีเบทว่า “อย่าไปพูดถึงเขาเลย สงสารเขา ผมสงสารเขา เขาอายุเยอะแล้ว...” ถ้าผมเป็น