15 พ.ค.2566-นายกมล กมลตระกูล นักวิชาการอิสระ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวหัวข้อ “พรรคก้าวไกลชนะแลนด์สไลด์ อย่างพลิกล๊อกที่ไม่มีใครคาดคิด!” ระบุว่า เรามาวิเคราะห์กันดูว่าสาเหตุที่ผลออกมาเช่นนี้เกิดจากปัจจัยอะไรบ้าง? ผลคะแนนเลือกตั้งที่ไม่เป็นทางการออกมาแล้วว่า ประชาชนทั้งประเทศต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลง และไม่ต้องการระบอบทหารครอบงำปกครองประเทศอีกต่อไป
พรรคก้าวไกลได้คะแนนเสียงอย่างไม่เป็นทางการทั้งสิ้น 151 คะแนนเสียง ตามด้วยพรรคเพื่อไทย ได้ 142 คะแนนเสียง ภูมิใจไทย 68 คะแนนเสียง พลังประชารัฐ 42 เสียง รวมไทยสร้างชาติ ของนายกตู่ได้ 36 คะแนนเสียง เวลา 8 ปีนั้นนานเกินพอแล้ว และพิสูจน์เชิงประจักษ์ว่า การบริงานอย่างใช้อำนาจ ไม่โปร่งใส ตรวจสอบไม่ได้ คิดต่างและใช้เสรีภาพไม่ได้ ระบบและกระบวนการยุติธรรมที่ไม่อิงกับระบบนิติธรรมและนิติรัฐ ประชาชนหมดสิ้นความศรัทธา หมดสิ้นความเชื่อถือ การใช้อำนาจอย่างก้าวร้าวรุนแรงของตำรวจในการจับกุมคุมขังผู้ต้องหาทางการเมืองและเยาวชนอย่างเลือกปฏิบัติ การคอรัปชั่นเมื่อรวมๆกันแล้วมีทั้งปริมาณและคุณภาพที่สูงกว่ารัฐบาลทุกยุคทุกสมัยที่ผ่านมาหนักกว่าทุกรัฐบาลที่ผ่านมา และทิ้งปัญหาให้รัฐบาลใหม่ต้องมาสะสาง
อีกสาเหตุสำคัญประการหนึ่ง ต่อชัยชนะของพรรคก้าวไกล คือ มีขบวนการแนวร่วมมุมกลับที่ใช้วิชามารสารพัดเผยแพร่ข่าวสาร Fake news ใส่ใคล้ป้ายสีพรรคก้าวไกลอย่างไร้ข้อมูลและข้อเท็จจริงมาสนับสนุนการใส่ใคล้ป้ายสี เช่น พรรคก้าวไกลทำงานให้อดีตนายกทักษิณ เป็นพวกเดียวกัน ต้องการล้มสถาบัน(หากมีมูล กกต. คงสั่งยุบพรรคหรือไม่นับจดทะเบียนพรรคมาให้ลงเลือกตั้งไปแล้ว) ต้องการแก้ไข ม.112 ให้สอดคล้องกับหลักนิติธรรมและใช้กระบวนการยุติธรรมเหมือนกฎหมายทั่วไป ไม่ใช่ยกเลิก ต้องการยกเลิกระบบบำนาญข้าราชการและผู้สูงวัย(ต้องการเพิ่มให้มากขึ้น) ทำงานให้ต่างชาติ ชักศึกเข้าบ้าน( ไร้ข้อมูลมาสนับสนุน) ทำลายความมั่นคงของชาติ โดยยกเลิกการเกณฑ์ทหาร ( ความจริง คือ ต้องการปฏิรูปกองทัพให้เป็นมืออาชีพเยี่ยงนานาชาติที่เจริญแล้ว) และอื่นๆ
การใช้วิชามาร กล่าวหาใส่ใคล้กันแบบนี้ใช้ได้ผลอย่างยิ่งในยุคที่ไร้เทคโนโลยี่ข้อมูลข่าวสาร ประชาชนเชื่อสื่อที่ไม่เป็นกลาง และข่าวลือ แต่วิธีการนี้ตกยุคไปแล้ว ในยุคเทคโนโลยี่ข้อมูลข่าวสารที่ทุกคนเข้าถึงได้จากมือถือซึ่งทุกคนมีประจำตัว และตรวจสอบข้อมูลได้ทันที ค้นหา เปรียบเทียบข้อมูลจริงหรือเท็จได้ทันที โดยเฉพาะในหมู่คนรุ่นใหม่ ขบวนการแนวร่วมมุมกลับที่กล่าวถึงนี้ คือพลังที่ผลักใสให้ประชาชนยิ่งต้องการเลือกพรรคก้าวไกลที่ถูกใส่ใคล้และกล่าวหา รังแกอย่างไม่เป็นธรรม ทำให้พรรคก้าวไกลมาได้ไกลขนาดนี้
โจทย์ที่เหลือ คือ ฝ่ายที่สูญเสียอำนาจ และฝ่ายอำนาจเก่าจะยอมรับเสียงและผลของการเลือกตั้งที่เสียงของประชาชน คือเสียงของสวรรค์ หรือไม่? จะมีวิชามารอะไรเหลือมาให้ใช้อีก? ต้องจับตาดูกันต่อไป!
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ปปช.เปิดทรัพย์สิน 'ก่อแก้ว' สุดอู้ฟู่รวย 263 ล้านบาท
เปิดเซฟ 'ชัยธวัช ตุลาธน' อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล 19.3 ล้านบาท 'อภิชาติ' อดีตเลขาธิการพรรค 13.2 ล้านบาท 'ก่อแก้ว' อู้ฟู่ 263 ล้าน
ก้าวไกลแพ้! ศาลยกฟ้อง 'ณฐพร โตประยูร' แจ้งเท็จ-หมิ่น ล้มล้างการปกครอง
ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีดำ อ.308/2564 ที่พรรคก้าวไกล เป็นโจทก์ฟ้องนายณฐพร โตประยูร อดีตที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดินเป็นจำเลยในความผิดฐานแจ้งความเท็จ,หมิ่นประมาทฯพร้อมเรียกค่าเสียหาย 20,062,475บาท
รู้ไว้ซะ 'ปิยบุตร' เผย 'ทักษิณ' ได้กลับบ้าน เพราะก้าวไกลชนะเลือกตั้ง!
นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า โพสต์เฟซบุ๊กว่า สัปดาห์ที่ผ่านมา มีเรื่องหนึ่งที่ถูกหยิบยกมาถกเถียงกันอีกครั้ง
'แก้วสรร' แพร่บทความ 'นิติสงคราม' คืออะไร?
นายแก้วสรร อติโพธิ นักวิชาการอิสระ อดีตรองอธิการบดี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ อดีตคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ออกบทความเรื่อง “นิติสงคราม” คืออะไร???
'นักเขียนซีไรต์' เย้ยพรรคส้มหวั่นไหวและกลัว จึงปิดปากคนที่เอาความจริงที่พวกเขาทำไว้มาพูด
นายวิมล ไทรนิ่มนวล นักเขียนรางวัลซีไรต์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า "หวั่นไหวและกลัว"
'อัษฎางค์' ชี้ระบอบทักษิณค่อยๆจุดไฟเผาตัวเอง
อัษฎางค์ ยมนาค นักวิชาการอิสระ โพสต์เฟซบุ๊ก เอ็ดดี้ อัษฎางค์ ระบุข้อความสั้นๆว่า ทษ.-รพ.ตร.-เอาลูกสาวมาเป็นนา