'อดีตรองอธิการมธ.'ชำแหละ 3คุณลักษณะที่โดดเด่นกลุ่ม 3 นิ้ว ฟันธงสังคมที่ดีกว่าไม่มีทางเกิดขึ้นได้

'อดีตรองอธิการมธ.' ชำแหละคุณลักษณะที่โดดเด่น3 ประการของกลุ่ม 3 นิ้ว มักให้ความจริงเพียงเสี้ยวเดียว ใครที่เห็นต่างคือผิด เป็นคนไม่ดี ถือเป็นศัตรู เชื่อสถาบันเป็นต้นเหตุแห่งความเหลื่อมล้ำ ฟันธงสังคมที่ดีกว่าไม่มีทางเกิดขึ้นได้

3 ธ.ค.2564 - รศ.หริรักษ์ สูตะบุตร อดีตรองอธิการบดีฝ่ายบริหารบุคคล มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก มีเนื้อหาดังนี้
คุณลักษณะที่โดดเด่นที่สุด 3 ประการของกลุ่ม 3 นิ้ว ที่เรียกตัวเองว่าเป็นฝ่ายประชาธิปไตย และเรียกผู้เห็นต่างว่า ฝ่ายเผด็จการ คือ

1. มักให้ความจริงเพียงเสี้ยวเดียว

เช่น
"แค่สงสัยการทำงานเรื่องวัคซีนของรัฐบาล กลับถูกดำเนินคดี"
ความจริงคือ ตั้งข้อกล่าวหาว่ารัฐบาลต้องการช่วยบริษัท Siam Bioscience ซึ่งพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ทรงจัดตั้ง และปัจุบันเป็นของพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10 จึงไม่ไปติดต่อกับบริษัทผู้ผลิตวัคซีนยี่ห้ออื่น นอกจาก Astra Zeneca ทำให้ประชาชนเสียประโยชน์เนื่องจากได้รับวัคซีนช้าเกินไป

การตั้งข้อกล่าวหาดังกล่าว สามารถพิสูจน์ได้ว่าไม่เป็นความจริง แต่เป็นผลให้ประชาชนที่หลงเชื่อ เกิดอคติ ไม่ยอมรับวัคซีนยี่ห้ออื่นที่รัฐบาลมีให้ ต้องการแต่ฉีดวัคซีนของ Pfizer หรือ Moderna ที่รัฐบาลยังไม่มีให้เท่านั้น ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ ซึ่งเชี่ยวชาญทางไวรัสวิทยาออกมาประกาศว่า วัคซีนที่ดีที่สุดคือวัคซีนที่ฉีดได้เร็วที่สุด กลับถูกโจมตีอย่างสาดเสียเทเสีย และยังคงโจมตีทุกเรื่องที่ ศ.นพ.ยง ออกมาให้ข้อมูลหรือให้ความเห็นทุกเรื่องจนถึงปัจจุบัน

เช่น
"พวกเขาเพียงแค่เห็นต่างทางการเมือง ก็ถูกดำเนินตดี"
ความจริงคือ ไม่เพียงแค่เห็นต่าง แต่ได้กระทำการอันเป็นการละเมิดผู้อื่นอย่างชัดแจ้ง ล่วงละเมิดสถาบันพระมหากษัตริย์ และก่อความรุนแรง ใช้อาวุธ เผาพระบรมฉายาลักษณ์ และเผาทรัพย์สินของส่วนรวมนับครั้งไม่ถ้วนซึ่งผิดกฎหมายทั้งมาตรา 112 และ 116

เช่น
"เป็นเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ ในการแสดงออกอย่างสันติ"
ความจริงคือ รัฐธรรมนูญระบุว่า การใดที่ไม่ได้ห้ามหรือจำกัดไว้ในรัฐธรรมนูญหรือในกฎหมายอื่น บุคคลย่อมมีสิทธิและเสรีภาพที่จะกระทำการนั้นได้และได้รับความคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญ ตราบเท่าที่การใช้สิทธิหรือเสรีภาพเช่นว่านั้น ... ไม่ละเมิดสิทธิหรือเสรีภาพของบุคคลอื่น

เช่น
"ปฏิรูป ไม่เท่ากับ ล้มล้าง"
ความจริงคือ ข้อเสนอ 10 ข้อ ที่อ้างว่า เป็นการปฏิรูปสถาบัษัตริย์นั้น แท้จริงแล้วไม่ต่างกับการล้มล้าง การเปิดให้ใครก็ได้สามารถฟ้องร้องพระมหากษัตริย์ได้ และให้สภาผู้แทนราษำรสามารถพิจารณาความผิดของพระมหากษัตริย์ การไม่ให้พระมหากษัตริย์ทรงแสดงความคิดเห็นทางการเมืองในที่สาธารณะ การไม่ให้รับบริจาคเงินโดยเสด็จพระราชกุศล การยกเลิกมาตรา 112 เพียงเท่านี้ จะทำให้สถาบันพระมหากษัตริย์เสื่อมลงอย่างแน่นอน และทำให้การมีก็เหมือนไม่มีสถาบันพระมหากษัตริย์นั่นเอง ยังไม่ต้องพูดถึงการกระทำต่างๆที่เป็นการข่มขู่ ย่ำยีกล่าวหา ใช้ถ้อยคำหยาบคาย ล้อเลียน ที่ล้วนเป็นความพยายามทำให้เกิดความเสื่อมถอยของสถาบันพระมหากษัตริย์ คำว่าปฏิรูปจึงเป็นเพียงข้ออ้างเท่านั้น

เช่น
"คณะก้าวหน้าคว้าชัย 38 อบต เดินหน้าบริหารท้องถิ่น" (พาดหัวข่าวอยู่ในหน้าของสำนักข่าว 3 นิ้วแห่งหนึ่ง)
ความจริงคือ คณะก้าวหน้าส่งผู้สมัครทั้งหมด 196 ที่นั่ง จากทั้งหมด 5329 ที่นั่ง ได้มา 38 ที่นั่ง ในขณะที่ผู้ที่ได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มที่เป็นคู่แข่งได้ชัยชนะกว่า 5000 ที่นั่ง แต่พาดหัวข่าวเสียยังกับคณะก้าวหน้ากวาดที่นั่งไปได้แบบถล่มทลาย

2. ใครที่เห็นต่างคือผิด เป็นคนไม่ดี ถือเป็นศัตรู
ตัวอย่างเช่น ใครก็ตามที่ไม่ได้ต่อต้านการทำรัฐประหาร ไม่ว่าครั้งใด ไม่ว่าจะด้วยสาเหตุใด เท่ากับเป็นพวกเผด็จการ เท่ากับเป็นคนไม่ดี

ล่าสุดกรณี "ลูกหนัง" ศรีตลา วงศ์กระจ่าง ลูกสาวคุณ ตั้ว ศรัณยู วงศ์กระจ่าง ที่มีข่าวว่าจะได้เข้าร่วมกับ K pop ที่เกาหลี แทนที่จะยินดี กลุ่ม 3 นิ้วกลับเรียกร้องให้แบน โจมตีลูกหนังอย่างไม่เป็นธรรม เพียงเพราะพ่อของลูกหนัง มีส่วนอย่างสำคัญในการประท้วงขับไล่รัฐบาลที่เขาเชื่อว่า กำลังสร้างความเสียหายให้แก่ประเทศอย่างมหาศาล ตั้งแต่สมัยพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กลุ่ม 3 นิ้วถือว่าประท้วงขับไล่รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งเป็นความผิด ว่าเป็นเผด็จการ ไม่เพียงแต่พ่อเท่านั้น ความผิดยังตกมาถึงลูกคือตัวลูกหนังด้วย จึงต้องช่วยกันถล่มไม่ให้ได้ผุดได้เกิด แต่หากพวกตัวเองทำอะไรที่เป็นความผิดแน่ๆ ล้วนพากันเงียบกริบ ไม่ส่งเสียงใดๆเลยแม้แต่น้อย

3. เชื่อว่า สถาบันพระมหากษัตริย์เป็นต้นเหตุแห่งความเหลื่อมล้ำ ทำให้เกิดความไม่เท่าเทียมกัน เป็นอุปสรรคต่อความเจริญของประเทศ และต่อการมีรูปแบบสังคมที่ตัวเองต้องการ

ความพยายามในการล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ แต่อ้างว่าเป็นการปฏิรูป พฤติกรรม การแสดงออก และการกระทำของกลุ่ม 3 นิ้วต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ทั้งในม็อบและใน social media ตลอดปีที่ผ่านมา เป็นเครื่องยืนยันถึงความจริงข้อนี้อย่างไม่ต้องสงสัยอ้นใดอีก

กลุ่ม 3 นิ้วอ้างเสมอว่า พวกเขาเพียงต้องการสังคมที่ดีกว่า ถือเป็นความผิดด้วยหรือ ก็อยากจะขอบอกว่า ไม่ผิด หากพวกเขาไม่ไปล่วงละเมิดผู้อื่น แต่หากคนไทยทุกคน หรือคนไทยส่วนใหญ่มีคุณลักษณะ 3 ประการข้างต้นของพวก 3 นิ้ว สังคมที่ดีกว่าไม่มีทางเกิดขึ้นได้แน่นอน

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ดร.อานนท์' แนะน้องๆกลุ่ม3 นิ้ว ที่ทำผิด ม.112 ทำเพื่อตัวเอง 6 ข้อ ก่อนถวายฎีกา

ผศ.ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ อาจารย์สาขาวิชาสถิติศาสตร์ สาขาวิชาพลเมืองวิทยาการข้อมูล สาขาวิชาวิทยาการประกันภัยและการบริหารความเสี่ยง คณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า

'นางแบก' โต้ 3 นิ้ว สร้างวาทกรรมภาพจำเหมารวมว่า ใครต่อใครติดคุกในรัฐบาลนี้

นางสาวลักขณา ปันวิชัย หรือ แขก คำผกา กองเชียร์พรรคเพื่อไทย อดีตผู้ดำเนินรายการสถานีโทรทัศน์วอยซ์ทีวี (VOICE TV) ปัจจุบัน เป็นผู้ดำเนิน รายการคุยคลายข่าว ออกอากาศผ่านสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย (NBT) กรมประชาสัมพันธ์ โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก ว่า

'นักวิชาการ' วิเคราะห์ผลการเลือกสว.จะเป็นผลดีต่อประเทศชาติ มากกว่าเป็นผลเสีย

รศ.หริรักษ์ สูตะบุตร อดีตรองอธิการบดีฝ่ายบริหารบุคคล มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า

ปูดวาระซ่อนเร้น! เหตุดึงดัน 'แจกเงินดิจิทัล'

รศ.หริรักษ์ สูตะบุตร อดีตรองอธิการบดีฝ่ายบริหารบุคคล มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า ได้คุยกับผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินคนหนึ่ง ซึ่งได้เคยดำเนินการออกหุ้นกู้ให้กับบริษัทยักษ์ใหญ่