อดีตส.ส.ร.40 ฟันธง รัฐบาลเสียงข้างน้อยเป็นไปไม่ได้

อดีตส.ส.ร.40 'บุญเลิศ' ชี้รัฐบาลเสียงข้างน้อยเป็นไปไม่ได้ ขั้นตอนแรกเลือกประธานสภาฯจะบอกชัดพรรคไหนจะจับขั้วเป็นเสียงข้างมาก เห็นเงานายกฯ พร้อมสู่สเต็ปที่สองฟอร์มครม.

5 พ.ค. 2566 - นายบุญเลิศ คชายุทธเดช อดีตสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) 2540 โพสต์ข้อความใน เฟซบุ๊ก หัวข้อ​“เป็นไปไม่ได้..รัฐบาลเสียงข้างน้อย” โดยมีเนื้อหาดังนี้

ตามที่นายวิษณุ เครืองาม รักษาการรองนายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์ว่า หลังเลือกตั้ง อาจเกิดรัฐบาลเสียงข้างน้อยนั้น เป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ เหตุผลก็คือ การฟอร์มคณะรัฐมนตรีจะเกิดหลังรัฐสภาประชุมโหวตเสียงเลือกนายกรัฐมนตรี แต่ก่อนจะได้ตัวนายกฯ สภาผู้แทนราษฎรจะประชุมเพื่อเลือกประธานและรองประธานสภาฯคนที่ 1 และคนที่ 2 ซึ่งแต่ละพรรคที่มีส.ส.ในสภาจะจับขั้่วและจับมือกันเพื่อเลือกประธานสภาฯซึ่งพรรคการเมืองที่มีส.ส.มากที่สุดจะได้เก้าอี้ประธานสภาฯ จากนั้นตำแหน่งรองประธานสภาฯคนที่ื1 และ 2 จะตกเป็นของพรรคที่ีมีจำนวนส.ส.รองลงมา

เป็นไปไม่ได้ที่ประธานสภาฯและรองสองคนจะได้คะแนนข้างน้อยของที่ประชุมสภาฯ แน่นอนว่า เสียงส.ส.จะต้องเกิน 250 ซึ่งเป็นกึ่งหนึ่งของส.ส.ในสภา หากรวมกันได้เกิน 300 เสียงก็ถือว่าเกินครึ่งมามาก ในระหว่างที่จับขั้วกันนี้ก็จะเจรจาเรื่องการจับมือกันตั้งรัฐบาลผสมและสนับสนุนใครเป็นนายกฯ ซึ่งก็จะแบ่งเป็น 2 ขั้ว ช่วงเวลานั้นพรรคขั้วรัฐบาลก็จะหาส.ว.อีกจำนวนหนึ่างมาเติมเต็มให้ได้เสียงรวมกันไม่น้อยกว่า 376 เสียง

เมื่อรูปการณ์เป็นดังนี้ รัฐบาลซึ่งเป็นฝ่ายบริหารจะประกอบไปด้วยพรรคการเมืองต่างๆที่มีเสียงส.ส.ข้างมากในสภาฯสอดรับการฝ่ายนิติบัญญัติที่ตำแหน่งสูงสุดคือประธานสภาฯและรองประธานสภาฯที่เป็นพรรคในฝ่ายเดียวกันซึ่งมีเสียงส.ส.ข้างมาก ไม่ใช่ประธานสภาฯมีเสียงข้างน้อย เป็นคนละฝ่ายกับรัฐบาล ซึ่งเป็นไปไม่ได้ การเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อยจึงเป็นเรื่องที่คิดกันแบบง่ายๆ ไม่เข้าใจกระบวนการทางสภาฯ

ส่วนที่มีความกังวลกันว่า ส.ว. 250 จะเลือกพล.อ.ประยุท ธ์เป็นนายกฯนั้น ถ้าพรรคขั้วเดียวกับรวมไทยสร้างชาติและพลังประชารัฐ ภูมิใจไทย ประชาธิปัตย์ ได้ส.ส.มาไม่ถึงครึ่ง ดึงพรรคเล็กๆมาร่วมไม่ได้ก็เชื่อว่า ส.ว.จำนวนหนึ่งที่ไม่ได้เป็นเพื่อนหรือพวกพ้องพล.อ.ประยุทธ์และพล.อ.ประวิตรจะหันมาสนับสนุนนายกฯจากพรรคที่จับขั้วกันได้เสียงข้างมากในสภาผู้แทนฯ