4 พ.ค.2566 - นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้าพรรคไทยภักดี ไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊กขณะเดินทางไปที่ศาลอาญา รัชดา พร้อมทีมทนาย เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคมที่ผ่านมา ทั้งนี้เพื่อให้การคดีที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่และนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ฟ้องร้อง
โดยนพ.วรงค์ กล่าวว่า หลายคนอาจจะแปลกใจว่าพรรคก้าวไกลฟ้องเรื่องอะไร ถ้าพี่น้องจำได้ช่วงวันที่ 10 สิงหาคม 2563 กลุ่มธรรมศาสตร์จะไม่ทนประกาศ ปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งจะมีการยกเลิกมาตรา 112 ยกเลิกและธรรมนูญรัฐ มาตรา 6 ห้ามพระมหากษัตริย์มีพระราชดำรัสในที่สาธารณะ หลายหลายเรื่องตนมองว่าขบวนการนี้เป็นขบวนการล้มล้างเป็นการด้อยค่าสถาบันพระมหากษัตริย์ แต่นายพิธาบอกว่าเรื่องเหล่านี้ ไม่ใช่เป็นการจาบจ้วง ไม่ใช่เป็นการล่วงละเมิดซึ่งพวกเราเห็นหลักฐานที่ชัดเจนแต่ปรากฏว่าการที่เราแสดงออกแบบนี้เขาฟ้อง
นพ.วรงค์ กล่าวว่า การฟ้องร้องคดีนี้ มีการเรียกค่าเสียหาย ทั้งหมด 24,062,475 คือฟ้องทั้งอาญาและแพ่ง ประมาณ 24 ล้านเศษๆ ก็คือ การสื่อถึงวันที่ 24 มิถุนายน 2475 ซึ่งเอามาเชื่อมโยงกัน และไม่เพียงแต่นายพิธา จากพรรคก้าวไกล ก็ยังมีหมายศาลของนายธนาธรซึ่งฟ้องในเวลาใกล้เคียงกัน ฟ้องคดีคล้ายๆ กัน เพราะเนื่องจากว่าเรื่องที่เกี่ยวข้องกับปฏิรูปสถาบัน และตนกล่าวหาว่า นายธนาธรสนับสนุนแต่เขาปฏิเสธก็ไม่เป็นไร มาสู้กันที่ศาล แต่สิ่งที่อยากจะเล่าให้พี่น้องฟัง พี่น้อง คนพวกนี้พยายามอ้างเรื่องสิทธิเสรีภาพ เมื่อคนฝ่ายตนเองถูกดำเนินคดีก็กล่าวหาเอากฎหมายมาปิดปาก แต่ตนเชื่อว่าพี่น้องประชาชน ที่ไปดำเนินคดีนั้น เพราะพี่น้องเห็นหลักฐานข้อเท็จจริงที่มีเด็กเยาวชนหรือประชาชนกระทำในสิ่งที่ไม่เหมาะสมทนไม่ได้ก็ไปดำเนินคดี แต่สำหรับของเราเป็น การต่อสู้ทางความคิดกลายเป็นว่าพวกนี้มาฟ้อง ถึงบอกว่าพวกคุณชอบอ้างว่าคนอื่นเอากฎหมายไปปิดปาก แต่เอาเข้าจริงๆ แล้วพวกคุณนั่นแหละที่เอากฎหมายมาปิดปากพวกเรา เฉพาะตนถูกฟ้องแล้ว3คดี คดีเมเดย์เมเดย์ เป็น1คดี ตนชนะ ตอนนี้ยังเหลืออีก2คดี ดังนั้นต้องเรียนให้พี่น้องประชาชนได้รับทราบว่าคนพวกนี้ปากกับใจไม่ตรงกัน พยายามที่จะพูดอย่างแล้วก็ทำอย่าง และสิ่งที่สำคัญตนก็พึ่งทราบ พึ่งได้รับหนังสือจาก สถานีตำรวจภูธรขอนแก่น ปรากฏแกนนำกลุ่ม 3 นิ้วไปฟ้องตน มาตรา 112
ในกรณีที่ตนมีคำแถลงเกี่ยวกับเรื่องราชประชาสมาสัย เจตนาตนไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรเลย ไม่ได้ดูหมิ่น ไม่ได้หมิ่นประมาท ไม่ได้อาฆาตมาดร้าย แต่พวกนี้เอา มาตรา 112 มาเล่นงานตน โชคดีที่ทางอัยการมีคำสั่งไม่ฟ้อง
“ผมก็ต้องการจะบอกกับพี่น้องว่า คนพวกนี้ชอบอ้างว่า มีการเอามาตรา 112 ไปรังแกประชาชน แต่จริงๆ แล้วพวกเขานั่นแหละ เป็นคนเอามาตรา 112 มารังแกผม ผมถึงยืนยันว่า สิ่งที่เกิดขึ้นถ้าเวลาพวกเราไปดำเนินคดี มันมีเหตุการณ์กระทำผิดเกิดขึ้นจริง แต่ของเขาหาช่องโหว่นิดหน่อยเขาก็ฟ้อง เรื่องที่พรรคก้าวไกล และ นายธนาธร ฟ้องหมิ่นประมาท , อาญา , + แพ่ง ค่าเสียหายอีก 24,062,475 ล้านบาท สิ่งที่ต้องถามพรรคก้าวไกล คือ นายพิธา , นายธนาธร เอาค่าเสียหายที่เกี่ยวกับวันที่ 24 มิถุนายน 2475 ก็คือ 24,062,475 ล้านบาท ไปโยงว่าคุณเสียหายอย่างไร ตัวเลขนี้คุณแจงได้ไหม แต่ไม่เป็นไร แค่ต้องการจะสื่อสารให้พี่น้องประชาชนได้รับทราบว่า คนพวกนี้ไม่ใช่ของจริง เป็นของปลอม แล้วก็พยายามฉวยโอกาสทางการเมือง และ พูดอีกอย่าง ทำอีกอย่าง” นพ.วรงค์กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'อนุทิน' ถามใครหลอกประชาชนกันแน่ พรรคส้มคิดแก้ ม.112 ชัดเจน แถมยังจะล้างคดีให้ด้วย
นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯ รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ถึงโอกาสในการจัดตั้งรัฐบาล แต่หลายพรรคกลับปฏิเสธไม่ร่วมรัฐบาลกับพรรคกล้าธรรม ทำให้เกิดความกดดันกับพรรคภูมิใจไทยหรือไม่ ว่า ฟังการตัดสินจากประชาชน
'ไทยภักดี' ชูนโยบายปราบโกง ยกเลิกแบงก์พัน-500
นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า พรรคไทยภักดีจะยกเลิกแบงก์ 1,000 และแบงก์ 500
‘ดร.อานนท์’ ขึ้น! ลากไส้พรรคส้ม ผมรบกับพวกมึง เพราะพวกมึงคือนักการเมืองเหี้...
ผศ.ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ อาจารย์ประจำคณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Arnond Sakwor
‘เท้ง’พลาดซ้ำ รีบผลัก‘ภท.’ พา‘พรรคส้ม'ผูกมัดตัวเอง
ไม่ว่าจะคิดมาดีแล้ว หรือไม่ทันระวัง การรีบประกาศว่า หากพรรคภูมิใจไทยเป็นรัฐบาล พรรคประชาชนจะไปเป็นฝ่ายค้านของ ‘เท้ง’ นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ถือเป็นเรื่องที่นักเลือกตั้งซึ่งมีประสบการณ์ทางการเมืองสูงไม่เลือกจะทำ
อดีตผู้สมัครส.ส.ปราจีนพรรคส้ม ประกาศยุติบทบาท แฉทนไม่ไหวทุนเทาในพรรคพวกมากลากไป
ไพทูรย์ นาคหิรัญ อดีตผู้สมัคร ส.ส. เขต 1 ปราจีนบุรี พรรคก้าวไกล โพสต์ข้อความขอยุติบทบาท กับ ”พรรคประชาชน“
พรรค‘ปชน.’ขอโทษจากใจ วอน‘ประชาชน’ไปต่อด้วยกัน
ภาพที่หัวหน้าพรรคสีส้มทุกยุคสมัยมาปรากฏตัวพร้อมหน้าบนเวทีเดียวกันไม่ได้เกิดขึ้นให้เห็นบ่อยนัก เอาเข้าจริงอาจจะยิ่งกว่าเวทีปราศรัยใหญ่ก่อนเลือกตั้งทุกครั้งด้วยซ้ำ เพราะในกิจกรรม

