กรมการจัดหางานเตือนแรงงานต่างชาติ ทำผิดมาตรา 112 มีสิทธิถูกเพิกถอนใบอนุญาตทำงาน และอาจลามถึงนายจ้าง
03 พ.ค.2566 - นายไพโรจน์ โชติกเสถียร อธิบดีกรมการจัดหางาน (กกจ.) เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์วันแรงงาน เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม ที่ผ่านมา กรณีม็อบแรงงานต่างชาติเคลื่อนไหวเรียกร้อง “ปฏิรูปกษัตริย์ สร้างรัฐสวัสดิการ” นั้น กรมการจัดหางานขอเตือนไปยังแรงงานต่างชาติที่เข้ามาทำงานในประเทศไทยทุกเชื้อชาติ ว่า พฤติการณ์ในลักษณะดังกล่าวหากหน่วยงานด้านความมั่นคงพิจารณาแล้วเห็นว่า เข้าข่ายเป็นความผิดตามมาตรา 112 แห่งประมวลกฎหมายอาญา หรือเป็นความผิดตามกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย แม้แรงงานต่างชาติผู้นั้นจะมีใบอนุญาตทำงาน และเข้ามาทำงานอย่างถูกต้อง แต่เมื่อมีความผิดตามกฎหมาย กรมการจัดหางานมีสิทธิพิจารณาเพิกถอนใบอนุญาตทำงานของแรงงานต่างชาตินั้น ตามพระราชกำหนดการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ.2560 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และแจ้งต่อสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เพื่อเพิกถอนสิทธิในการอยู่ในราชอาณาจักรตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ.2522 ต่อไปได้
นายไพโรจน์กล่าวอีกว่า นอกจากนี้หากตรวจสอบพบว่าเป็นแรงงานต่างชาติที่ลักลอบเข้ามาทำงานกับนายจ้างโดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน นอกจากมีความผิดตามกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมืองแล้ว กรมการจัดหางานจะร้องทุกข์กล่าวโทษแก่แรงงานต่างชาติ ในความผิดฐานทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน ซึ่งมีโทษปรับตั้งแต่ 5,000 – 50,000 บาท และถูกส่งกลับประเทศต้นทาง รวมถึงห้ามขอใบอนุญาตทำงานเป็นเวลา 2 ปี นับตั้งแต่วันที่ได้รับโทษ และดำเนินคดีกับนายจ้างที่จ้างแรงงานต่างชาติดังกล่าว ในความผิดฐานให้คนต่างด้าวทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน ซึ่งมีโทษปรับตั้งแต่ 10,000 – 100,000 บาท ต่อคนต่างด้าวที่จ้างหนึ่งคน หากกระทำผิดซ้ำต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับตั้งแต่ 50,000 – 200,000 บาท ต่อคนต่างด้าวที่จ้างหนึ่งคน และห้ามจ้างคนต่างด้าวทำงานเป็นเวลา 3 ปี
“กรมการจัดหางานตระหนักและให้ความสำคัญกับการเคารพสิทธิมนุษยชน และการปฏิบัติอย่างเท่าเทียม โดยไม่คำนึงถึงความแตกต่างด้านเชื้อชาติ สัญชาติ ศาสนา หรือเพศ คำว่าคนต่างด้าวเป็นถ้อยคำตามกฎหมาย ตามพระราชกำหนดการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ.2560 และที่แก้ไขเพิ่มเติม หมายถึง บุคคลธรรมดาซึ่งไม่มีสัญชาติไทย ซึ่งกรมการจัดหางานเอง ใช้ทั้งคำว่าคนต่างด้าวหรือคนต่างชาติ และแรงงานต่างชาติ หรือแรงงานข้ามชาติหรือแรงงานต่างด้าว ในการสื่อสารและนำเสนอข่าวมาโดยตลอด เพราะถือว่ามีความหมายและให้คุณค่าที่ไม่แตกต่างกัน”อธิบดีกรมการจัดหางานกล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ชทพ.หนุนนิรโทษกรรมแต่ต้องไร้ ม.110-ม.112
'ชาติไทยพัฒนา' หนุน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม แต่ต้องเว้น ม.110 และ 112 เชื่อก้าวข้ามความขัดแย้งได้
'เทพไท' ซัดพรรคเพื่อไทยตระบัดสัตย์เรื่องนิรโทษกรรม
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช
'เพื่อไทย' แถบอกรายงานนิรโทษกรรมแค่การศึกษาหากแก้ 112 จริงไม่ยอมแน่
'พท.' จ่อเห็นชอบรายงาน-ข้อสังเกตนิรโทษกรรม บอก แต่ละพรรคโหวตอย่างไร เป็นเอกสิทธิ์ ด้าน 'นพดล' ย้ำ ไม่มีความคิดนิรโทษความผิดม.110 และ 112
ไม่สำนึก! 'เฒ่าสามนิ้ว' จี้สภาฯล้างผิดคดี 112 อ้างเพื่อยุติความขัดแย้ง ประเทศเดินหน้าต่อได้
ตัวแทนเครือข่ายนิรโทษกรรมประชาชน เข้ายื่นหนังสือต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร และประธานคณะกรรมาธิการ(กมธ.)วิสามัญเพื่อศึกษาแนวทางการตราพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)นิรโทษกรรม สภาฯ
'บิ๊กป้อม' สั่ง สส.พปชร. คว่ำรายงานนิรโทษกรรม ชี้ล้างผิดคดี 112 กระทบปกป้องสถาบัน
นายไพบูลย์ นิติตะวัน เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค ซึ่งมีนโยบายสำคัญที่สุดที่จะต้องปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ให้มั่นคงสถาพรตลอดไป
'อนุทิน' เผยเห็นต่าง ผลศึกษานิรโทษกรรมคดี 112 ไม่ใช่เรื่องขัดแย้งพรรคร่วมรัฐบาล
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงทิศทางของพรรคในการโหวตรายงานผลการศึกษาแนวทางการตรา พ.ร.บ.นิรโทษกรรม