2 พ.ค.2566- นายนิติธร ล้ำเหลือ หรือทนายนกเขา วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊คไลฟ์ประเทศไทยต้องมาก่อน ตอน “กดดัน” ระบุว่า โพสต์ขออนุญาตกลับบ้านของทักษิณ ชินวัตร ในวันเกิดหลานชายคนที่ 7 เป็นการฉกฉวยเอาประโยชน์ส่วนตน มุ่งหวังก่อกวนแย่งชิงคะแนนเสียงที่ถูกพรรคก้าวไกลดึงความนิยมประชาชนได้เหนือกว่าเพื่อไทย
นายนิติธร กล่าวว่า ทักษิณ ชินวัตร เป็นคนเอาประโยชน์ทุกอย่าง ไม่รู้กาลเทศะ ในวันที่หลานเกิดยังฉวยโอกาสขอกลับบ้านซึ่งเป็นเรื่องของตัวเอง อีกอย่างถ้อยคำที่ใช้โพสต์แสดงความยินดีหลานชายคนที่ 7 ระบุขออนุญาตกลับบ้านนะครับ ซึ่งไม่รู้ขออนุญาตใคร เพราะตอนไปขอศาลอนุญาต แต่ก็บิดพริ้วไม่กลับมาตามคำสั่งศาล ทั้งที่ถ้าจะกลับก็กลับมาได้ ไม่ต้องขออนุญาตเลย
อีกทั้ง เห็นว่า ช่วงนี้พรรคเพื่อไทยกำลังเสียคะแนนให้พรรคก้าวไกลอย่างมาก เมื่อทักษิณโผล่มายิ่งทำให้สิ่งดีๆ ฉิบหายไปอีก จึงเป็นมนุษย์ที่ผ่าเหล่ากอ และเชื่อว่าไม่กลับมา เพียงอาศัยช่วงหลานเกิดมาแสดงความเห็นก่อกวน หวังปลุกเสียง และแก้เกมคะแนนตกเป็นรองก้าวไกลก็ได้ ดังนั้นสังคมอย่าไปสนใจกันมาก
ส่วนพลังการกดดันในขณะนี้ นายนิติธร กล่าวว่า สามารถนำมาบีบบังคับให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในประโยชน์ของประชาชน และทำให้ประเทศสงบสุขได้ สำหรับการเมืองไทยแล้ว แต่เดิมทหารมีอาวุธ เป็นกลุ่มกดดันที่มีอำนาจให้กลุ่มต่างๆ เคลื่อนไปตามที่ตัวเองต้องการ นอกจากนี้ยังมีกลุ่มทุนขนาดใหญ่ที่เริ่มเติบโตในยุค พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ (นายกฯปี 2531-2534) เปิดสนามรบเป็นตลาดการค้า เอื้อทุนได้ประโยชน์ และมาถึงยุคทักษิณ ใช้อำนาจการเมืองไปกดดันสร้างกลุ่มทุนของตัวเองได้เติบโหญ่ขึ้น
กระทั่งมาถึงรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร (2554-2557) และยุค พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กลุ่มทุนพลังงาน ไฟฟ้า ทุนก่อสร้างขนาดใหญ่ เป็นกลุ่มกดดันเอาประโยชน์ สร้างความร่ำรวยในช่วงไม่กี่ปีได้สำเร็จ
สำหรับกลุ่มกดดันภาคการเมืองและภาคประชาชนเป็นกลุ่มเริ่มชัดเจนตั้งแต่ปี 2516 ยุคเหตุการณ์เดือนตุลาคม และต่อเนื่องมาช่วงพฤษภาคม 2535 แล้วยังกลุ่ม นปช. พันธมิตรฯ ที่เคลื่อนไหวภาคประชาชนกดดันมาต่อเนื่องในช่วงปี 2548 – 2557
“กลุ่มกดดันภาคประชาชนไม่ง่ายจะประสบผลสำเร็จ ดังนั้นต้องอาศัยการเชื่อมต่อให้เป็นพลังให้มากที่สุดทั้งในเชิงปริมาณและมีคุณภาพการกดดันด้วย จึงจะเป็นพลังได้เปรียบ เพราะทุ่มเททรัพยากรกดดันทุกอย่าง กล้าฝ่าฟัน ขณะเดียวกันก็พัฒนาประชาชนให้กล้าคิด มีความรู้สานต่อภารกิจของกลุ่มประโยชน์ต่างๆ ซึ่งเป็นห้องเรียนใหญ่ให้พัฒนา”
นายนิติธร กล่าวว่า ปัญหาของกลุ่มกดดันภาคประชาชน ไม่ใช่พลังชี้ขาด ทำให้กลุ่มอื่นมาแปรเปลี่ยนพลังไปต่อยออดเอาประโยชน์ของตัวเอง ดังนั้นภาคประชาชนต้องสร้างเป้าหมายเฉพาะและเข้าสู่เป้าหมายด้วยตัวเองจึงจะเกิดประสิทธิภาพที่แท้จริง
“พัฒนาการขณะนี้ เมื่อพรรคการเมืองเห็นกลุ่มกดดันภาคประชาชนเคลื่อนกดดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลง จึงเข้ามาครอบทับ ไม่ว่าเพื่อไทย พลังประชารัฐ แล้วแตกตัวเป็นรวมไทยสร้างชาติ อีกทั้งพรรคก้าวไกลก็นำภาคประชาชนมาเสริมศักยภาพตัวเอง ดังนั้น กลุ่มกดดันภาคประชาชนจึงถูกซ้อนไปโดยภาคการเมือง”
อย่างไรก็ตาม กลุ่มกดดันที่มีประสิทธิภาพที่สุดคือ กลุ่มทุน เพราะไม่สนใจระบบการปกครอง แต่จะทำหน้าที่สนับสนุนทางการเมือง โดยจ่ายเงินให้ทุกพรรคเพื่อให้เข้ามาเป็นรัฐบาล แล้วให้ตัวแทนของตัวเองไปเป็นรัฐมนตรี เพราะต้องการนโยบายสาธารณะที่สอดคล้องกับเป้าหมายผลประโยชน์ของตัวเอง อีกทั้งกลุ่มทุนยังสร้างมวลชนของตัวเองผ่านโครงการ CSR เพื่อกลบซ่อนภาพผลประโยชน์
“ดังนั้นในยามบ้านเมืองไม่ปกติ กลุ่มกดดันจะเป็นทหาร แต่ยามบ้านเมืองปกติการกดดันจะอยู่กลุ่มทุน แล้วเชื่อมต่อกับต่างชาติ ยิ่งทำให้พรางตัวจนถูกมองด้วยแง่ดีได้ สิ่งที่เป็นปัญหาขณะนี้กลุ่มกดดันทางการเมืองต่างๆ ด้วยการแสดงออกเชิงอำนาจให้เผชิญหน้ากัน โดยการเมืองมาสร้างแรงกดดันต่อภาคประชาชน”
ขณะนี้แนวทางที่เพื่อไทยและก้าวไกลนำมาใช้ต่อกลุ่มกดดันมากที่สุดคือ ความน่าเชื่อถือ แต่ยังไม่ราบรื่นเท่าใดนัก เพราะสามารถคาดหมายผลการกดดันได้ ว่าจะชนะเลือกตั้งหรือไม่ แต่การจัดตั้งรัฐบาลจะมีอีกชุดหนึ่งมาเจรจากัน เมื่อผ่านการลงมติเลือกนายกฯ จากเสียงของสองสภาแล้ว ดังนั้น การจะยอมรับให้ใครเป็นนายกฯ จึงไปไกลและลึกยิ่งกว่าคะแนนเสียงของ ส.ส.ที่ได้รับจากการเลือกตั้ง
นายนิติธร กล่าวว่า สิ่งที่คาดเดากันว่า ในอนาคตจะเกิดการไม่ยอมรับกันค่อนข้างสูง ดังนั้น แรงกดดันก็จะวนกลับมาสู่กลุ่มทหารต้องกดดันทางการเมือง ทำให้กลุ่มผลประโยชน์ตกอันดับไป ที่ผ่านมาเมื่อกลุ่มทหารเข้ามา พรรคการเมืองและกลุ่มทุนจะไม่ต่อสู้ เอาแต่หลีกทางให้กลุ่มทหารกดดันบ้านเมือง แล้วกลุ่มภาคประชาชนต้องออกมาต่อสู้ตลอด
“ในทางการเมืองขณะนี้ไม่ง่ายเพราะเพื่อไทยจะถูกก้าวไกลกินไปเรื่อยๆ แต่เพื่อไทยยังครองเสียงมาอันดับหนึ่งอยู่ แต่พรรคก้าวไกลยังมีปัญหาที่ต้องคิดกับนโยบายที่นำเสนอมานั้นว่า จะไปรวมกับเพื่อไทยที่มีภาพลักษณ์คอร์รัปชั่นอย่างไร เพื่อไม่ให้ภาพของก้าวไกลเสียหายและด่างพร้อยไปด้วย”
นายนิติธร กล่าวถึงนโยบายแรงงานว่า ไม่มีพรรคไหนให้ความสำคัญกับแรงงานอย่างแท้จริง ไม่ได้พัฒนาทักษะอย่างเต็มรูปแบบ โดยแรงงานในไทยจะมีแรงงานในระบบและนอกระบบ อีกทั้งแรงงานในประเทศและแรงงานข้ามชาติ ทั้งหมดจะนำแรงงานไปสู่การไร้ทักษะ แรงงานกึ่งทักษะ และมีทักษะอยู่แล้ว ซึ่งพรรคการเมืองไม่ได้สนับสนุนอย่างจริงจัง
รวมทั้ง กล่าวว่า ไทยเป็นประเทศกำลังพัฒนา แรงงานที่มีความสำคัญคือ แรงงานกึ่งทักษะกับมีทักษะอยู่แล้ว แต่ไม่ได้เพิ่มศักยภาพ ก็จะถูกเทคโนโลยีเอไอ (AI) มาลดความสำคัญลงไปเรื่อยๆ
ส่วนปัญหาค่าแรงนั้น พรรคการเมืองล้วนหลอกแรงงานในการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำที่ต้องมาจากความเห็น 3 ฝ่ายที่เรียกว่า ไตรภาคี คือ ฝ่ายรัฐ ลูกจ้าง และนายจ้าง โดยมีปัจจัยเงินเฟ้อมากำกับการขึ้นค่าจ้างอีกสว่นหนึ่งด้วย
นอกจากนี้ เสนอให้นำระบบประกันสังคมที่รองรับแรงงาน โดยมีเงินทั้งระบบที่จ่ายมากถึง 2.2 ล้านล้านบาท ควรนำไปเชื่อมโยงกับระบบสาธารณสุขเพื่อให้รักษาได้ครอบคลุมทุกโรคมากขึ้น และ สิ่งสำคัญไม่ต้องสำรองเงินการรักษาไปก่อน อีกอย่างแรงงานเกษียณอายุที่ต้องทำให้มีคุณภาพได้ทำงานต่ออย่างน้อยอีก 5 ปี
“ผมยังไม่เห็นนโยบายแต่พรรคการเมืองมุ่งสร้างเสริมแรงงานให้มีวิถีชีวืตได้อย่างยั่งยืน หรือคาดหมายได้ว่าจะเกิดปัญหาในอนาคตได้น้อยที่สุด ดังนั้น โครงการของพรรคการเมืองจึงเป็นเรื่องยั่วยุทางกิเลสมากกว่า เพราะเน้นประชานิยม แต่โครงการบำนาญประชาชนของพรรคไทยสร้างไทยจะมุ่งสร้างสวัสดิกการได้อย่างแท้จริงจึงน่าสนใจกับการรองรับคนสูงวัยในอนาคตด้วย”.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ระทึกสุดขีด! 22 พ.ย. ศาลรธน.ลงมติ 'รับ-ไม่รับ' คำร้อง 'ทักษิณ-เพื่อไทย' ล้มล้างการปกครอง
คอนเฟิร์ม ศุกร์นี้ 22 พ.ย. 9 ตุลาการศาลรธน.นัดประชุมวาระพิเศษ หลังงดมาสองรอบ เตรียมนำหนังสือ-ความเห็นอัยการสูงสุด กางบนโต๊ะประชุม ก่อนลุ้นโหวตลงมติ”รับ-ไม่รับคำร้อง”คดีทักษิณ-เพื่อไทย โดนร้องล้มล้างการปกครองฯ
'ชูศักดิ์' บอกรู้ตั้งแต่เห็นคำร้อง 'ธีรยุทธ' ไปไม่ได้ เหตุไม่เข้าเกณฑ์ล้มล้างปกครอง
นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญนัดพิจารณา
ดร.เสรี หวังศาลเป็นที่พึ่งปชช. ลุ้น 22 พ.ย. รับไม่รับคำร้อง ‘ทักษิณ-เพื่อไทย’ ล้มล้างฯ
ดร.เสรี วงษ์มณฑา นักวิชาการด้านการตลาดและการสื่อสาร โพสต์เฟซบุ๊กว่า ถูกสงสัยว่าป่วยทิพย์ ณ ห้อง VVIP ชั้น 14 โรงพ
60ปีเฮได้เงินหมื่น จ่ายไร่ละพันพักหนี้
“นายกฯ อิ๊งค์” ชี้ “ทักษิณ” จ้อการเมืองแค่สีสันสนุกสนาน ไม่ฉุดเศรษฐกิจดิ่ง
รู้ไว้ซะ 'ปิยบุตร' เผย 'ทักษิณ' ได้กลับบ้าน เพราะก้าวไกลชนะเลือกตั้ง!
นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า โพสต์เฟซบุ๊กว่า สัปดาห์ที่ผ่านมา มีเรื่องหนึ่งที่ถูกหยิบยกมาถกเถียงกันอีกครั้ง
ปากไว! นายกฯ อบรม 'พ่อนายกฯ' รอที่ประชุมเคาะก่อนไปพูดบนเวทีแจกเงินหมื่น
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณี นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ขึ้นเวทีปราศัยหาเสียงเลือกตั้งท้องถิ่น มอง