บันทึกจากใจถึงข้าราชการเกษียณ ก่อนหย่อนบัตรเลือกตั้ง 14 พ.ค.

1 พ.ค.2566-รศ.หริรักษ์ สูตะบุตร อดีตรองอธิการบดีฝ่ายบริหารบุคคล มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์(มธ.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว Harirak Sutabutr ระบุว่า ศาสตราจารย์ สุภาพรรณ รัตนาภรณ์ เคยเป็นศาสตราจารย์ประจำคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นผู้ใหญ่ที่ผมรู้จักและให้ความเคารพมาเป็นเวลานาน นอกจากตำรับตำราเกี่ยวกับการบัญชีแล้ว ปกติท่านจะไม่ค่อยเขียนอะไรเกี่ยวกับการเมือง

ครั้งนี้อ.สุภาพรรณส่งข้อเขียนชิ้นนี้มาให้ผม ให้ชื่อเรื่องว่า “บันทึกจากใจถึงข้าราชการเกษียณทุกท่าน” อ่านแล้วก็รู้สึกว่า ทุกคำที่ท่านเขียนออกมาจากใจจริงๆ วันนี้จึงนำข้อเขียนของท่านมาให้เพื่อนๆ fb ของผมได้อ่านกัน เผื่อจะใช้ประกอบการตัดสินใจหย่อนบัตรเลือกตั้งในวันที่ 14 พฤษภาคมนี้ นะครับ
…………………………………………………….
บันทึกจากใจถึงข้าราชการเกษียณที่รักทุกท่าน

ดิฉันตัดสินใจเขียนบันทึกนี้ถึงทุกคนในฐานะที่เป็นข้าราชการเกษียณคนหนึ่งที่มีความห่วงใยบ้านเมืองอีกครั้งปี 2557 เป็นปีที่คนไทยที่รักชาติทั้งหลายได้ช่วยกันสร้างประวัติศาสตร์ชาติไทยอันงดงามด้วยกันโดยการออกมาช่วยกันขับไล่รัฐบาลเผด็จการรัฐสภาของยิ่งลักษณ์ครั้งใหญ่ที่ใช้เวลายาวนานจนทุกคนอ่อนแรง ท้อแท้ และคนบางส่วนรวมทั้งตัวดิฉันด้วยก็พยามเรียกร้องให้ทหารออกมาช่วยประชาชน ซึ่งพลเอก ประยุทธ์ จันทน์โอชา ทหารเสือราชินีก็ได้ออกมาช่วย ทำให้บ้านเมืองรอดพ้นจากการเกิดสงครามกลางเมืองที่คนไทยจะต้องมาฆ่าฟันกันเองอย่างหวุดหวิด ไม่มีการเสียเลือดเนื้อแม้แต่นิดเดียว

จนถึงขณะนี้ดิฉันก็ยังรู้สึกขอบคุณพลเอกประยุทธ์ จันทนโอชา ลุงตู่ของพวกเรา ที่มีวิธีการอันชาญฉลาดทำให้สามารถเอาอำนาจคืนมาให้ประชาชนได้อย่างนุ่มนวลและราบรื่น แต่ก็โดนต่อต้านจากอีกฝ่ายที่สูญเสียอำนาจและพรรคการเมืองเจ้าหลักการ(อดีตพรรคที่ดิฉันเคยชื่นชอบมาตลอด) ตลอดมาว่าไม่ใช่ประชาธิปไตย ทั้งๆที่ถ้าลุงตู่ไม่ตัดสินใจทำการนี้ นึกภาพออกได้เลยว่าบ้านเมืองจะเละเทะเป็น failed stateอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อนเพียงใด

ในตอนนั้น ดิฉันและผู้รักชาติที่ร่วมกันชับไล่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ในครั้งนั้น ได้ตั้งความหวังไว้มาก ว่าคสช.จะมาช่วยปราบปราบการโกงกินให้หมดไปจากแผ่นดินไทย และจะมีการปฏิรูปการเมืองก่อนการเลือกตั้งครั้งใหม่เพื่อไม่ให้วงจรอุบาทว์ทางการเมืองที่มีการซื้อเสียงแล้วกลับมาเอาคืนด้วยการโกงกินกลับมาใหม่ ดิฉันรวมทั้งผู้รักชาติที่ร่วมขับไล่ทั้งหลายอาจตั้งความหวังไว้สูงไป และพวกเราก็ต้องผิดหวังที่ไม่ได้เห็นการปราบการโกงกินอย่างจริงจัง และวงจรอุบาทว์ก็กำลังจะกลับมาใหม่ด้วยอำนาจเงินจำนวนมหาศาลมากกว่าทุกครั้งที่ผ่านมาในการเลือกตั้งวันอาทิตย์ที่ 14 พฤษาคมที่จะถึงนี้

ตอนแรกดิฉันรู้สึกเบื่อหน่าย ท้อแท้และผิดหวังจนไม่อยากลงคะแนนให้ใคร มองไม่เห็นใครจะเป็นความหวังได้ แต่แล้วดิฉันก็ตั้งสติ ใคร่ครวญ แล้วฉุกคิดได้ว่าในสภาพการณ์บ้านเมืองที่การโกงกินได้หยั่งรากลงลึกมานานเป็นเวลาหลายสิบปีและได้แพร่ขยายไปในทุกวงการ อีกทั้งระบบอุปถัมภ์ก็เป็นสิ่งที่มีมายาวนานในสังคมไทย เกินกำลังลุงตู่คนเดียวที่จะสามารถแก้ไขอะไรได้ การมีลูกน้อง การมีพรรคการเมืองก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าต้องมีเงิน ถ้ามีใครต้องการจะช่วยโดยมิใช่การโกงกินอย่างทวนน้ำแต่เป็นการรับตามน้ำก็อาจต้องมีบ้างเพื่อให้พรรคอยู่ได้หรือแม้แต่การเอาคนที่ประวัติไม่ดีมาร่วมพรรค ดิฉันก็พยามทำใจเพราะเห็นว่าต้องยอมไปก่อนเพื่อให้ยังสามารถยังอยู่ในอำนาจเพื่อประคองบ้านเมืองไปก่อน

ดีกว่าให้คนเลวมามีอำนาจ

งานในหน้าที่นายกก็มีมากมายหนักหนาอยู่แล้ว แถมยังมีโควิดระบาดอีกเกือบสามปีด้วย ดิฉันจึงรู้สึกเห็นใจลุงตู่มาก และต้องขอบคุณที่ลุงตู่ยังไม่ท้อ ยังมีความรักชาติ มีความกตัญญููต่อแผ่นดินเกิดและพ่อหลวงร 9 ที่ประเสริฐสุดของพวกเรา ยังมีความพยายามและความอดทนอย่างมากที่จะนำพาบ้านเมืองให้เดินหน้าต่อไปแทนที่จะลาออกแล้วอยู่กับลูกเมียอย่างมีความสุข ไม่ต้องเหน็ดเหนื่อยทั้งใจและกายอย่างที่เป็นอยู่ ดิฉันฉุกคิดขึ้นมาได้ว่าแปดปีที่ผ่านมาพวกเรผู้รักชาติไม่ได้ช่วยกันสอดส่องดูแลบ้านเมืองเท่าที่ควร ทั้งๆที่รู้ว่าปัญหาใหญ่ของเมืองไทยคือ การโกงกินกับการซื้อเสียงประชาชน ทั้งสองปัญหานี้เป็นปัญหาใหญ่ที่แก้ได้ยากมากจริงๆดิฉันคิดว่าต้องช่วยกันแก้โดยคนไทยเราทุกคนเอง อย่าหวังพึ่งใครทั้งนั้นเพราะไม่มีใครรู้ปัญหาดีเท่าคนไทยด้วยกันเอง

ถ้าคนไทยทั้งประเทศ 70 ล้านคนร่วมแรงร่วมใจกันแก้ไข ดิฉันเชื่อว่าต้องสำเร็จอย่างแน่นอนสักสันหนึ่งถ้าพวกเราไม่เบิ่อไม่ท้อ คำที่ท่องกันในการขับไล่ครั้งก่อนดังขึ้นมาในห้วดิฉัน อีกครั้ง ทำให้ต้องท่องออกมาดังๆว่า เบื่อ เราก็ไม่เบื่อ

ท้อเราก็ไม่ท้อ บ้านของเรามีปัญหา แปดปียังแก้ได้แค่นี้เท่านั้น เราต้องพยามต่อไป อดทน และแก้ไขต่อไป ถ้าเรารักบ้านของเรา ช่วยกันเก็บกวาด ช่วยกันทำความสะอาด สักวันบ้านเราต้องดีขี้น สะอาดขึ้นได้ ดีกว่าที่เป็นอยู่ที่ ที่หากไม่ช่วยกันแก้ไข มีแต่จะแย่ลง สกปรกมากขึ้นๆและอยู่ไม่ได้ในที่สุด ข้าราชการเกษียณที่รักทุกท่าน การเลือกตั้งครั้งที่จะถึงในวันที่ 14 พฤษภาคมนี้จึงมีความสำคัญมากต่ออนาคตของประเทศไทยที่รักของทุกคน

ดิฉันจึงอยากเชิญชวนข้าราชการเกษียณทั้งหลายที่ยังรับบำนาญกันทุกเดือนมาตอบแทนบุญคุณรัฐบาลและแผ่นดินเกิดที่รักยิ่งของเราโดยช่วยกันออกมาลงคะแนนเลือกพรรคที่มีผลงาน มีประสบการณ์และเหมาะสมที่สุดที่จะพาประเทศชาติบ้านเมืองให้เจริญก้าวหน้าต่อไปอย่างยั่งยืน เกิดความสงบสุขในประเทศ เลือกพรรคที่ใช่ คือพรรครทสช รวมไทยสร้างชาติ หมายเลข 22 พรรคที่พยามรักษาชาติ ศาสน์ กษัตริย์ พรรคที่มีประสบการณ์และมีผลงานให้เห็นมาแล้วให้ได้ทำงานต่อไป

ดิฉันอยากฝันเห็นพรรครวมไทยสร้างชาติ หมายเลข 22 และผู้สมัคร สส.ของพรรคนี้ทุกเขต(ที่เลขที่ผู้สมัครต้องดูจากแต่ละเขต) ได้คะแนนเสียงท่วมท้นเพื่อจะได้ไม่ต้องจับมือกับใคร ไม่ต้องง้อพรรคใด สามารถยืนอยู่ได้ด้วยคะแนนเสียงท่วมท้นที่ปชชผู้รักชาติที่มองเห็นอันตรายอันใหญ่หลวงของชาติครั้งใหม่ มอบให้พรรคนี้ แล้วดูว่าสิ่งดีๆที่จะเกิดขึ้นกับบ้านเมืองจะมีอะไรบ้าง วันที่ 14 พฤษภาคมนี้เป็นโอกาสที่พวกเราข้าราชการเกษียณที่ถูกเรียกว่า’ช้างป่วย’ จะได้ออกมาแสดงพลังของเรากันนะคะ และใคร่ขอเชิญชวนข้าราชการที่ยังไม่เกษียณรวมทั้งผู้รักชาติทั้งหลายให้มาช่วยกันรวมพลัง เพื่อแก้ปัญหาอันใหญ่หลวงของบ้านเมืองที่มีมายาวนาน ด้วยการมาลงคะแนนให้พรรค 22 เพื่อรวมพลังให้มากที่สุดด้วยค่ะ

พ่อหลวง ร. 9 เคยตรัสไว้ว่า เราไม่สามารถทำให้ทุกคนเป็นคนดีได้ แต่เราสามารถส่งเสริมคนดีให้ได้ปกครองบ้านเมืองเพื่อควบคุมคนไม่ดีไม่ให้มีอำนาจได้นะคะ

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ทักษิณ' ถึงเชียงใหม่ ช่วยหาเสียงนายก อบจ. 'สว.ก๊อง' คึกมั่นใจชนะล้านเปอร์เซ็นต์

'ทักษิณ' ถึงเชียงใหม่ 'เจ๊แดง-สมชาย-พิชัย' ต้อนรับ แวะกินก๋วยเตี๋ยวร้านมิชเชอร์ลิน 7 ปีซ้อน ก่อนช่วงเย็นขึ้นปราศรัยหาเสียงช่วยผู้สมัครนายก อบจ. 'สว.ก๊อง' ลั่นมั่นใจล้านเปอร์เซ็นต์

ศึก 'นายก อบจ.เชียงราย' เดือด! ทักษิณไฟเขียวเปิดตัว 'เมียยงยุทธ' ชน 'วันไชยธนวงศ์'

ชิงเก้าอี้ 'นายก อบจ.เชียงราย' ระอุ! 'ยงยุทธ' นัดแถลงเปิดตัวส่งเมียลงสมัคร หลัง 'ทักษิณ' ไฟเขียว ชน 'อทิตาธร วันไชยธนวงศ์' ส่วนพรรคส้มยังเงียบ

'ภูษิต' หลานชายเนวิน ไขก๊อก 'นายก อบจ.บุรีรัมย์'

นายภูษิต เล็กอุดากร นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) บุรีรัมย์ หลานชาย นายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ได้ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งนายก อบจ.บุรีรัมย์ ก่อนครบวาระ

'เสี่ยชิต' ชนะขาด! นั่งนายกเทศมนตรีนครบุรีรัมย์ กวาด ส.ท. ยกทีมทั้ง 4 เขต

ผลการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการ 'อนุชิต เหลืองชัยศรี' คว้านายก ทน.บุรีรัมย์ คนแรก ชนะขาดได้ 1.7 หมื่นคะแนน 'กลุ่มคนบุรีรัมย์' กวาดยกทีมทั้ง 4 เขต 'ประเสริฐ เลิศยะโส' อดีต สส.บุรีรัมย์ รั้งบ๊วย แค่ 737 คะแนน

สรุปผลเลือกตั้ง นายก อบจ.ตาก ’อัจฉรา’ สะใภ้บ้านใหญ่ กวาด 98,601 คะแนน ชนะคู่แข่ง

นางอัจฉรา ทวีเกื้อกูลกิจ หรือ รองจอย ได้รับชัยชนะและได้เป็น นายก.อบจ.ตาก คนใหม่ แทนนายณัฐวุฒิ ทวีเกื้อกูลกิจ  อดีต นายก.อบจ.ตาก ซึ่งเป็นพ่อสามี