'โรม' ขึ้นศาลสู้คดี 'ส.ว.อุปกิต' ฟ้องหมิ่น 100 ล้าน

‘โรม’ ตั้งทนายยื่นเเถลงค้านไต่สวนมูลฟ้อง สู้คดี ‘ส.ว.อุปกิต’ ฟ้องหมิ่นเรียก 100 ล้าน ปมอภิปรายจีนเทา

1 พ.ค. 2566 – ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดไต่สวนมูลฟ้องคดีนายอุปกิต ปาจรียางกูร สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ยื่นฟ้องนายรังสิมันต์ โรม ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในข้อหาหมิ่นประมาท เนื่องในการอภิปรายทั่วไปเพื่อซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี ในช่วงดึกของวันที่ 15 ก.พ. 2566 นายรังสิมันต์ได้อภิปรายในหัวข้อเช็กบิลไทยดำ-จีนเทา มีเนื้อหาเข้าข่ายหมิ่นประมาทอุปกิต โดยเรียกค่าเสียหาย 100 ล้านบาท

โดยวันนี้ นายรังสิมันต์ เดินทางมาพร้อมทนายความเพื่อซักค้าน

นายรังสิมันต์ ให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้ศาลนัดไต่สวนมูลฟ้อง คงยังไม่ได้มีคำวินิจฉัย ซึ่งตนตั้งทนายความยื่นเเถลงซักค้าน เเต่เรื่องที่เเปลกประหลาดคือคดีของนายอุปกิต กลับมีความล่าช้าไม่คืบหน้า เเต่คดีของตนกลับไปเร็ว ทั้งที่ความเป็นจริงทางอัยการสูงสุดเคยนัดก่อนเดือน พ.ค. เสียด้วยซ้ำว่า คดีจะต้องมีคำสั่งเกี่ยวกับข้อหาสมบคบยาเสพติดหรือไม่ ซึ่งความจริงควรต้องเเจ้ง เพราะก่อนหน้านี้มีการเเจ้งข้อหาฟอกเงินไปเเล้ว โดยเป็นความผิดมูลฐาน เเต่ที่มีการประวิงเวลา เพราะมีการไปร้องขอความเป็นธรรมว่ากรณีคล้ายกลับ 80 กว่าบริษัทที่มาจากเงินเดียวกัน ซึ่งความจริง 80 กว่าบริษัท ถ้าผิดจริงสามารถดำเนินการที่หลังได้ ไม่ใช่ต้องเอาไปผูก แต่การกระทำเเบบนั้นเป็นการเปิดโอกาสให้นายอุปกิตได้ดูคดีของทุนมินลัตก่อนเพื่อทราบถึงเเนวทางการสู้คดีชิงความได้เปรียบ ตนเชื่อว่าประวิงเวลาชัดเจน ซึ่งข้าใจว่าพนักงานอัยการต้องให้ความเป็นธรรม เเต่การให้ความเป็นธรรมจะค้องพิจารณาจากข้อเท็จจริงว่าใครได้ประโยชน์

ทั้งนี้ตนทำหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญ ทำหน้าที่ในการเปิดโปร่งในเรื่องของการทุจริตคอร์รัปชัน ซึ่งในการทำหน้าที่อภิปรายไม่ไว้วางใจ หรืออภิปรายทั่วไป เป็นหน้าที่ที่ต้องบอกกับประชาชนและบอกกับสภา ว่ารัฐบาลบริหารงานผิดพลาดอย่างไร รัฐบาลเข้าไปเกี่ยวข้องกับการทุจริตคอรัปชั่นอย่างไร ยืนยันว่าข้อเท็จจริงต่างๆ ไม่ได้สร้างขึ้นมาเอง และข้อเท็จจริงต่างๆ เป็นประโยชน์กับประชาชน พร้อมสู้เต็มที่ นอกจากนี้ต้องยอมรับว่าการทุจริตคอร์รัปชัน ไม่สามารถทำโดยรัฐมนตรีคนเดียว แต่ต้องอาศัยเครือข่าย และคนที่เกี่ยวข้อง

“ผมมั่นใจ และขอยืนยันว่า ในเนื้อหาสาระของผมในการทำหน้าที่ของผมเป็นการทำหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญ เป็นการทำหน้าที่ตามกฏหมาย เป็นการทำหน้าทีที่ผมยืนยันว่าข้อเท็จจริงต่างๆ ผมไม่ได้สร้างขึ้นมาเองนะครับและข้อเท็จจริงต่างๆ เป็นประโยชน์ต่อประชาชน หวังว่าคดีนี้จะได้รับการพิจารณาอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรม และสุดท้าย ก็คงต้องตั้งคำถามไปถึงนายกรัฐมนตรีเหมือนกัน เพราะนายกฯ ยังไม่เคยตอบคำถามเรื่องนี้อย่างตรงไปตรงมา ผมอยากให้นายกฯ ตอบคำถามเรื่องนี้อย่างตรงไปตรงมา และรวมถึงพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่อาจจะเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้เช่นกันตอบอย่างตรงไปตรงมา ก่อนหน้านี้เขาบอกเคยมีสัญญาเช่าก็อยากให้เอามาดูเหมือนกัน” นายรังสิมันต์ ระบุ

ด้าน นายปริญ เกษะศิริ ทนายความ กล่าวว่า วันนี้ไม่มีความกังวล หรือหนักใจ เพราะนายรังสิมันต์ทำหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญกำหนด และวันนี้เป็นวันนัดไต่สวนมูลฟ้อง ก็จะยื่นคำแถลง เพื่อแถลงข้อเท็จจริง และข้อกฎหมายให้ศาลได้รับทราบว่าคดีนี้ไม่ควรจะมีมูล นอกจากนี้กฎหมายยังเปิดช่องให้สามารถแถลงถึงบุคคล เอกสาร วัตถุพยาน ให้ศาลทราบและเรียกมาเป็นพยานศาล ประกอบดุลพินิจในการสั่งคดี และเตรียมคำแถลงยื่นแล้ว จะขอเรียกเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งเป็นฝ่ายสืบสวนของนครบาลให้มาเป็นพยานที่ศาล อย่างไรก็ตามขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาลต่อไป.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'เศรษฐา' อย่าสับสน! โพลวัดผลงาน ไม่ใช่เรตติ้งนายกฯ

นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า อย่าสับสน !!! ระหว่างผลงาน กับการเลือกนายกฯ คนต่อไป

'วิโรจน์' บอก 7 ส.ค. ผลออกมา ต้องมีคำอธิบายที่ปชช.เข้าใจได้

'วิโรจน์' บอกตามตรง 7 ส.ค. ก็แค่วันปกติ ยัน ไม่ตื่นตระหนก แต่ไม่ประมาท 'คดียุบก้าวไกล' หากผลเป็นลบ ก็ต้องตอบสังคมให้ได้ภายใต้กรอบนิติรัฐ-นิติธรรม

'พิธา' เดินสายมู จ.เชียงใหม่

'พิธา' เดินสายมู ร่วมพิธีสงสนาน อาบน้ำนมพระพิฆเณศ-เวียนเทียนวัดศรีสุพรรณ เจ้าอาวาสมอบองค์พระให้ แต่ก็ต้องคืน เหตุมูลค่าเกิน 3,000 บาท พร้อมพบปะประชาชนถนนวัวลาย ป้าวัย 71 วิ่งโผกอด ร้องโอ้ยชื่นใจ ถ้าไม่มีเกมสกปรก ได้เป็นนายกฯไปแล้ว