สมาคมนักวิจัย-แพทย์-นักกฎหมายและเครือข่ายกัญชา สู้เพื่อคุ้มครองเยาวชน จากการที่กลไกคุ้มครองเยาวชนใน พ.ร.บ.กัญชาไม่ผ่านสภา เพราะมีคนเตะตัดขาหวังผลทางการเมือง ยันไม่มี กัญชาเสรี พร้อมเผย กก.สิทธิ บุกแนะทางออกต่อ ครม. 'วิษณุ' สั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องปกป้องเยาวชน
28เม.ย.2566 - สมาคมนักวิจัยแห่งประเทศไทย ร่วมกับแพทย์ และเครือข่ายกัญชาภาคประชาชน ระดมสมองเพื่อหากลไกการดูและเด็กและเยาวชนในการใช้กัญชา โดยมีผู้เข้าร่วมเสวนา ประกอบด้วย รศ.ดร.พิพัฒน์ นนทนาธรณ์ นายกสมาคมนักวิจัยฯ นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีสถาบันแพทย์แผนบูรณาการ และเวชศาสตร์ชะลอวัย มหาวิทยาลัยรังสิต นายประสิทธิ์ชัย หนูนวล เครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทย นายศุภชัยใจสมุทร ประธานกรรมาธิการร่าง พ.ร.บ.กัญชากัญชง ดร.รัฐวิชญ์ อริยพัชญ์พล ผู้พิพากษาหัวหน้าศาล ประจำสำนักประธานศาลฎีกา และพล.อ.ต.นพ.ไกรสร วรดิถี นายกสมาคมศรัทธาธรรมาภิบาล
รศ.ดร.พิพัฒน์ กล่าวว่า ในช่วงใกล้เลือกตั้งมีการโหมกระหน่ำ ข่าวด้านลบของกัญชา ซึ่งทางสมาคมนักวิจัยฯ ก็ได้พยายามให้องค์ความรู้และข้อมูลต่าง ๆ ต่อสังคม รวมถังการจัดการเสวนาในครั้งนี้ ด้วยหวังว่าจะส่งข้อมูลข้อเท็จจริงให้สังคมได้เข้าใจ อย่างสร้างสรรค์ และร่วมกันออกแบบกลไกการใช้กัญชากับเด็กและเยาวชน มากกว่าการสร้างข่าวซึ่งอาจจะจริงบ้างเท็จบ้าง โดยไม่มีทางออกใด ๆ
นายปานเทพ กล่าวว่า เรื่องกัญชากับเยาวชน จำเป็นต้องพูดถึงกาเข้าถึงเพื่อให้พึ่งตัวเองได้ เนื่องจากกัญชามีประโยชน์ในทางการแพทย์ แต่ก็มีมาตรการควบคุมเหมือนกับเหล้า บุหรี่ แต่อาจจะมีบทลงโทษเข้มกว่า ตามความห่วงใยของสังคม ถ้าเราเห็นตรงกัน ก็ต้องเร่งออก พรบ.กัญชากัญชง มาไม่ใช่จะเอากัญชากลับไปเป็นยาเสพติด และเหนือกว่านั้นต้องให้ความรู้แก่เด็ก เยาวชน ให้เข้าใจรู้เท่าทัน และระมัดระวังตัว ทั้งนี้กรณีของเด็กที่ป่วย เขาก็สามารถที่จะเลือกใช้กัญชาในการรักษาตัวเอง
“แต่ปัจจุบัน ผู้ที่ต่อต้านกัญชา ใช้เด็กเป็นตัวประกัน ปล่อยข่าวจริงบ้างเท็จบ้าง ทั้งที่ความจริงแล้วกฎหมายที่มีอยู่ ไม่ว่าจะเป็นประกาศ สธ. หรือ พ.ร.บ.ที่ใช้ในการควบคุมการเข้าถึงกัญชา ก็เข้มงวดไม่แพ้เหล้า บุหรี่ และขอยืนยันว่าประเทศไทยไม่มีคำว่ากัญชาเสรี เพราะผู้ที่จะขอใช้ช่อดอก ยังต้องขออนุญาตทุกกรณี และยังห้ามจำหน่ายให้เด็กและเยาวชนด้วย นอกจากกฎหมายของกระทรวงสาธารณสุข แล้ว กระทรวงศึกษาธิการเอง ก็มีกฎห้ามจำหน่ายกัญชาให้เด็กและเยาวชนใน โรงเรียน กระทรวง อว. ก็ห้ามจำหน่ายกัญชาในสถานศึกษา ของสถาบันศึกษา และทั้ง สธ.และศธ. ต่างก็มีการให้ความรู้กับเด็กและเยาวชน ควบคู่กันไปด้วย ส่วนภาพที่ปรากฏทางสื่อนั้น ก็อย่าเอาแต่นำเสนอภาพ ต้องตามไปด้วยว่าใครให้เด็กมา เพราะมีความผิดมีโทษตามกฎหมาย” นายปานเทพ กล่าว
นายปานเทพ กล่าวด้วยว่า ในการประชุม ครม.เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (25 เมษายน 2566) คณะกรรมการสิทธิมนุษยชน ได้ออกหนังสือ มีข้อเสนอแนะต่อรัฐบาล ซี่ง ครม. นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี มีมติและสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงคมนาคม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงยุติธรรม กระทรวง อว. กระทรวงศึกษาธิการ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ฯลฯ เพื่อศึกษาหาแนวทางที่เหมาะสมตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนต่อไป
นายศุภชัย กล่าวว่า ความจริงแล้ว พ.ร.บ.กัญชาที่นำเสนอเข้าพิจารณาในสภานั้น ครอบคลุมเพียงพอ เพราะเราได้ใช้เวลาในการศึกษามาอย่างละเอียด จากตัวแทน พรรคการเมืองทุกพรรค ยืนยันว่าเราห่วงสังคม ห่วงเยาวชน และบุคคลที่ควรจะได้รับการคุ้ครองจากการบริโภคกัญชา กัญชง หรือสารสกัดที่มาจากกัญชา กัญชง ตลอดจนการป้องกันการใช้ไปในทางที่ผิด ซึ่งในร่าง พ.ร.บ.ฉบับดังกล่าวมีแนวทางในการกำกับดูแลควบคุมมากกว่า เหล้า บุหรี่เสียอีก และเราตระหนักดีกว่า กัญชาคือพืชสมุนไพรที่ทรงคุณค่า แต่กลับนำไปเป็นเกมการเมือง และประกาศจะนำกัญชากลับไปเป็นยาเสพติด ซึ่งตนบอกไว้ตรงนี้เลยว่า กว่าจะผลักดันมาจนเป็น ร่าง พ.ร.บ.นั้น เราต้องต่อสู้กันมากแค่ไหน ถ้าจะนำกัญชากลับไปเป็นยาสเพติด ตนก็ขอสู้แค่ตาย
นายศุภชัย กล่าวด้วยว่า สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ การสร้างความเข้าใจ การรับรู้ให้กับประชาชน ว่า กัญชามีสถานะเป็นอย่างไร อันตรายจริงไหม กินแล้วเมาหรือเปล่า ไม่ใช่อะไรก็ยัดข้อหาให้กัญชาทั้งหมด และก็มากล่าวหาว่าพวกเราไม่ห่วงเยาวชน ตนในฐานะที่เป็นฝ่ายนิติบัญญัติ ขอเรียนว่า กฎหมายที่เราเสนอมา มันก็มีประโยชน์คุ้มครองเยาวชนได้อย่างดีที่สุด แต่เมื่อกฎหมายไม่ผ่าน มันมีกฎหมายของหน่วยงานคุ้มครองอยู่
ดร.รัฐวิชญ์ กล่าวว่า กลไกกระบวนการยุติธรรม ในการคุ้มครองเยาวชนจากการใช้กัญชา ที่ผ่านมาก่อนปลดล็อค ภาพรวม มองว่า ผู้เสพ เป็นผู้ป่วย ต้องมีการแก้ไขเยียวยา ฟื้นฟู มากกว่ามองว่าเป็นอาชญากร ทั้งนี้เพราะเยาวชนจะมีความเข้าใจในเรื่องการประสบการณ์ในสังคมด้อยกว่าผู้ใหญ่ เด็กที่ก้าวพลาดจึงควรได้รับการคุ้มครองมากกว่าผู้ใหญ่ โดยเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม และลบประวัติอาชญากรเมื่อได้รับการบำบัด ฟื้นฟูแล้ว
ด้านนายประสิทธิ์ชัย กล่าวว่า การใช้กัญชาในเด็กและเยาวชน กลายเป็นประเด็นหลักที่สังคมยกขึ้นมาพูดถึงในขณะนี้ การใช้กัญชาเป็นจุดบอดสำคัญในสังคมไทยซึ่งเกิดจากความรู้ไม่เพียงพอ ดังนั้นปัจจัยสำคัญของการใช้กัญชาคือความรู้ จึงขอเรียกร้องใน 3 ประเด็นคือ 1.ต้องเร่งทำความเข้าใจการใช้กัญชาอย่างปลอดภัย 2. อยากฝากองค์กรด้านเด็กที่กำลังมอนิเตอร์เรื่องกัญชาอยู่ให้ทำความเข้าใจเรื่องราว ก่อนที่จะสื่อสารออกไป ไม่เช่นนั้นมันจะผิดเพี้ยนไปจากข้อเท็จจริง และมาตรการที่ออกมาก็จะไม่สอดคล้องกับความเป็นจริงและไม่มีประสิทธิภาพ 3. การดูแลเยาวชนในระดับชุมชน โดยเฉพาะในประเด็นที่ว่า หากผู้ใหญ่สามารถปลูกกัญชาได้ในบ้านนั้น เด็กจะติดกัญชานั้น จากประสบการณ์ของตนเรื่องนี้ไม่เป็นความจริง เพราะกัญชามีมานาน ตั้งแต่เป็นยาเสพติด แต่ไม่มีคนในครอบครัวติดกัญชาเลย การจะนำกัญชากลับไปเป็นยาเสพติดจึงไม่ใช่ทางออก แต่เป็นการจำกัดสิทธิการใช้ของประชาชน ที่จะสร้างเสียหายต่อประชาชนมากกว่า จึงขอให้หยุดปั่นด้วยความอคติ ที่จะนำไปสู่การกำหนดกติกาที่ไม่ได้ปกป้องเยาวชนอย่างแท้จริง
นายประสิทธิ์ชัย กล่าวว่า ขณะนี้ภาคประชาชนกำลังเซ็ทเครือข่ายการทำยากัญชาเพื่อให้ความรู้กับประชาชน โดยเฉพาะเด็กและเยาวชน เนื่องจากคนที่มาอบรมส่วนใหญ่ก็เป็นพ่อแม่ของเขา และเขาก็จะได้รับรู้ไปด้วยผ่านทางกิจกรรม ทำให้เกิดความเข้าใจว่ากัญชาสามารถดีไซน์ระบบสุขภาพได้
ด้านพล.อ.ต.นพ.ไกรสร กล่าวว่า มาตรการที่จะช่วยให้เด็กมีความรู้ความเข้าใจต่อการใช้กัญชานั้น เป็นสิ่งจำเป็น ภาคประชาชนที่ดูแลเด็กและเยาวชน ต้องให้ความรู้ และควรตระหนักในข้อบ่งชี้ และข้อพึงระวัง ในการใช้กัญชา ถ้าเด็กใช้แล้วมีอาการไม่พึงประสงค์ต้องดูว่า เป็นเพราะกัญชาหรือเปล่า ไม่ใช่พอเกิดเหตุอะไรก็โทษกัญชาไปเสียหมด อย่างไรก็ตามในรายที่เด็กและเยาวชนไปใช้กัญชา ครอบครัวต้องคุยกับเขาดีก ๆ บางทีเขาอาจจะใช้เพราะเห็นว่าเป็นประโยชน์ก็ได้ ส่วนที่บอกว่าอาจจะมีผลในทางจิตเภทอาจมีบ้างแต่ไม่มาก ที่มีอาการมากก็เพราะใช้กับสารเสพติดชนิดอื่น อาจทำให้ไอคิวลดลงได้ เนื่องจากสมองยังเติบโตไม่เต็มที่
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'เครือข่ายกัญชา' ประกาศเลิกม็อบหน้าทำเนียบฯแล้ว
ความคืบหน้าเครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทย ที่นำโดยนายประสิทธิ์ชัย หนูนวล เลขาธิการเครือข่ายฯ ที่ได้มาปักหลักชุมนุมอยู่บริเวณเชิงสะ
เอาแล้ว! ม็อบกัญชายกระดับชุมนุมอดข้าวประท้วง
สุดทน! 'เครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทย' ยกระดับการชุมนุม ประกาศอารยะขัดขืนอดข้าวประท้วง จนกว่ารัฐบาลจะยอมไต่สวนก่อนพิพากษา ส่งกัญชาไปเป็นยาเสพติด
'หม่อมโจ้' แฉกลุ่มทุนฮุบกัญชา ขีดเส้น 10.00 น. วันนี้ไม่ได้คำตอบจากรัฐบาล ยกระดับการชุมนุมทันที
ช่วงค่ำวานนี้ (8 กรกฎาคม) เครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทย ที่ปักหลักชุมนุมบริเวณสะพานชมัยมรุเชฐ แยกพณิชยการพระนคร ด้านหน้าทำ
ม็อบสายเขียวมาแล้ว นัดรวมตัวหน้ายูเอ็นเที่ยงก่อนเคลื่อนขบวนไปทำเนียบฯ
ม็อบสายเขียวมาแล้ว นัดรวมตัวหน้ายูเอ็นเที่ยงก่อนเคลื่อนขบวนไปทำเนียบฯ
เอากัญชากลับเป็นยาเสพติด เท่ากับปิดโอกาสใช้เพื่อสุขภาพ !
นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออกมหาวิทยาลัยรังสิต ให้ความเห็นต่ออนาคตกัญชาไทย ที่มีความพยายามจากบางฝ่าย ในการให้กลับเป็นยาเสพติด ว่า
'ปานเทพ' ย้อนถามถ้ากัญชาเป็นยาเสพติดแต่ใช้ทางการแพทย์ได้ ทำไมผู้ป่วยยังต้องเสี่ยงคุก
นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออกมหาวิทยาลัยรังสิต เผยแพร่บทความผ่านเฟซบุ๊ก เรื่อง ถ้ากัญชาเป็นยาเสพติดแต่ใช้ทางการแพทย์ได้ ทำไมที่ผ่านมาผู้ป่วยไทยเกือบทั้งหมดยังต้องเสี่ยงคุกใช้กัญชาใต้ดิน? มีเนื้อหาดังนี้