'เครือข่ายกัญชา' ขู่รัฐบาลหน้านำกัญชากลับไปเป็นยาเสพติด เจอชุมนุมใหญ่ครั้งประวัติศาสตร์

เครือข่ายกัญชา ออกแถลงการณ์ ชวนประชาชน ร่วมลงชื่อ ไม่นำกัญชากลับไปเป็นยาเสพติด' แต่มีกฏหมายคุ้มครองเด็กให้มากกว่า พ.ร.บ. ยาเสพติดเดิม ชี้รัฐบาลหน้าถ้าดึงดัน เจอชุมนุมใหญ่ครั้งประวัติศาสตร์แน่นอน

21 เม.ย.2566- ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดทั้งวันของวันที่ 20 เมษายน เครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทย จัดงานวันกัญชาโลก Green Cannabis Krabi ประจำปี 2023 ไม่นำกัญชาสู่ยาเสพติด คืนสิทธิกัญชาให้กับประชาชน ภายใต้การจัดงานชื่อว่า Green Cannabis Krabi ที่ บริเวณถนนคงคา เทศบาลเมืองกระบี่ มีผู้สนใจเข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก โดยภายในงานมีการจัดกิจกรรมอบรมทำยากัญชา รวมทั้งนิทรรศการองค์ความรู้ด้านกัญชา การประกาศภารกิจร่วมกันของประชาชน ทั้ง ภาคการเมือง ภาควิชาการ ผู้ป่วย คนรุ่นใหม่ ตลอดจนถึงการขับเคลื่อนกฎหมายกัญชาเพื่อใช้กัญชาในประเทศไทยอย่างสมดุล

นายอัครเดช ฉากจินดา แกนนำเครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทย กล่าวว่า การจัดกิจกรรมในครั้งนี้เพื่อเปิดโลกทัศน์ใหม่เกี่ยวกับกัญชา เราต้องการสื่อสารกับสาธารณะว่า ในรัฐบาลหน้า ไม่ว่าพรรคการเมืองไหนจะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล หากมีการนำกัญชาไปเป็นยาเสพติด ตนขอประกาศไว้ตอนนี้เลยว่า จะมีการชุมนุมใหญ่อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนอย่างแน่นอน กิจกรรมสำคัญของงานนี้ คือการเปิดงานด้วย ผู้เฒ่าเล่าเรื่อง โดยผู้อาวุโสที่มีส่วนช่วยรักษากัญชาไว้ให้คงอยู่คู่สังคม

ขณะที่ นายสฤษดิ์ โชติช่วง ผู้อาวุโสจากเกาะพะงัน กล่าวว่า ในพื้นที่เกาะพะงันใช้กัญญาเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตมาตั้งแต่ปลายกรุงศรีอยุทธยา จนถึงปัจจุบันไม่ว่ากฏหมายจะเป็นอย่างไร ปัจจุบันกัญชาพันธุ์เขียวพะงัน ได้ขึ้นรับการรับรองสายพันธุ์จากกรมวิชาการเกษตร ซึ่งการใช้กัญชานั้นใช้กันหลายมิติ ใช้ตำรับยามีการใช้กัญชาทุกส่วนหรือเรียกว่ากัญชาทั้ง 5 ในยาหม้อใหญ่ ใช้สูบเพื่อผ่อนคลาย นำไปประกอบอาหาร ใส่แกง เป็นต้น กัญชาต้องไม่กลับไปเป็นยาเสพติด และ นายสฤษดิ์ ยังกล่าวเพิ่มเติมกับผู้สื่อข่าวว่า การต่อสู้ของเครือข่ายในครั้งนี้ชนะแน่นอน เพราะเป็นการต่อสู้ด้วยความจริงซึ่งไม่มีวันแพ้

ส่วนหมอสวัสดิ์ จิตพรหม จากจังหวัดพัทลุง กล่าวว่า กัญชา เป็นสิ่งที่อยู่ในตำรับยาของตระกูล แต่ก่อนมีการปลูกกัญชาที่เขาชัยสน พัทลุง เพื่อเอามาทำยาโดยใช้ทุกส่วนของกัญชา เมื่อปี พ.ศ. 2520 ถูกจับเป็นข่าวใหญ่โต เสียเงินให้ตำรวจ 400000 บาท เพื่อปิดคดี แต่ก็ยังแอบปลูกเรื่อยมา เพราะต้องเอามาทำยา สมัยตัวเองเป็นเด็กก็ต้องช่วยตาจัดการกัญชา เช่น การเอาดอกมาห่อด้วยใบตองกล้วยตานี เอาไปทำให้แห้งเหนือเตาไฟ แต่เด็กๆที่ช่วยทำก็ไม่มีใครติดกัญชา ตนเองจะต่อสู้ต่อไปเพื่อรักษากัญชาไว้ให้คงอยู่ในตำรับยาเหมือนที่บรรพบุรุษทำมา กัญชาเป็นสมุนไพรที่รักษาได้หลายโรคในการดูแลสุขภาพที่ทุกคนควร

นายอร่าม หลิมสกุล หรือลุงดำ กล่าวว่า อยากให้ทุกคนแสดงจุดยืนร่วมกัน ว่ากัญชา ไม่ใช่ยาเสพติด กัญชา แต่กัญชาเป็นเพียงพืชชนิดหนึ่ง ขึ้นอยู่กับการนำไปใช้ว่าจะให้เกิดประโยชน์หรือโทษ เราต้องรู้ว่าใช้กัญชาเพื่ออะไร ซึ่งตั้งแต่อดีตที่ผ่านมาตนใช้กัญชาในการรักษาโรคมาตั้งแต่เด็กและปัจจุบันก็ใช้อยู่ เพื่อรักษาสุขภาพ จึงอยากให้เกิดการต่อสู้ร่วมกัน ในการผลักดันให้กัญชาไม่ใช้สิ่งผิดกฎหมาย และจะต้องให้กัญชาออกจากยาเสพติด กัญชามีโทษน้อยกว่าบุหรี่ เหล้า และ ที่สำคัญคนติดกัญชาเลิกง่ายมาก เลิกง่ายกว่าบุหรี่ เหล้า จึงอยากให้ทุกคนเรียนรู้ประโยชน์และโทษของกัญชามากขึ้น เพื่อพัฒนาสายพันธ์กัญชาให้มากขึ้น

ในการประกาศภาระกิจร่วมกันนั่นทางเครือข่ายได้ประกาศเชิญพรรคการเมืองทุกพรรค แต่มีเพียงพรรคเดียวที่มาร่วมงานคือพรรคภูมิใจไทย คือนายศุภชัย ใจสมุทร นักวิชาการที่มาร่วมงานคือ นายปานเทพ พัวพงพันธุ์ มีตัวแทนเยาวชน และตัวแทนผู้ป่วย ซึ่งต่างยืนยันที่จะช่วยกันผลักดัน ให้มีกฏหมายในระดับพระราชบัญญัติที่เหมาะสมสำหรับสังคมไทยต่อปจนสำเร็จ

จากนั้น เครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทย ได้ออกแถลงการณ์ เรื่อง ทุกภาคส่วนต้องไม่นำกัญชากลับไปสู่ยาเสพติด โดยระบุไว้ 5 ข้อดังนี้

1.วาระสำคัญของกัญชาในงานวันกัญชาโลกประจำปี 2566 สำหรับประเทศไทยคือการประกาศให้กัญชาเป็นสิทธิพื้นฐานของประชาชนโดยประชาชนสามารถเข้าถึงกัญชาในฐานะความมั่นคงทางยา

2.กัญชาไม่ควรเป็นสิ่งผิดกฎหมายมาตั้งแต่ต้น เพราะมนุษย์บนโลกนี้ใช้กัญชามาไม่ต่ำกว่า4,700ปี กลุ่มทุนผู้ทรงอิทธิพลทั้งบรรษัทยา บรรษัท ปิโตรเลียมในสหรัฐอเมริกา ผลักดันให้กัญชาผิดกฎหมายทั้งที่ในขณะนั้นมีการขายยากัญชากันโดยทั่วไปในสหรัฐอเมริกา เพราะบริษัทยาแผนปัจจุบัน และ บริษัทผลิตเส้นใยไม่ต้องการคู่แข่ง ทำให้กัญชากลายเป็นสิ่งผิดกฎหมายและกลุ่มอิทธิพลดังกล่าวผลักดันให้เป็นกฎของสหประชาชาติจนกัญชากลายเป็นยาเสพติดทั่วโลก

3.แม้ว่าเวลาจะผ่านไปเนิ่นนานแต่ยังเป็นเหตุให้นักการเมืองซึ่งประกอบด้วย พรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกล พรรคประชาชาติ พรรคประชาธิปัตย์ ยังสืบสานเจตนาของกลุ่มทุนสหรัฐอเมริกาในศตวรรษที่19ด้วยการผลักดันให้กัญชากลายเป็นยาเสพติด น่าแปลกที่พรรคการเมืองผู้สถาปนาตนเองว่าเป็นประชาธิปไตย แต่ดำเนินการกีดกันประชาชนจากการเข้าถึงกัญชาในฐานะพืชที่มีคุณค่าทางยา แม้ว่ารูปธรรมการรักษาและงานวิจัยด้านกัญชาก้าวล้ำไปมาก แต่รากฐานวิธีคิดของนักการเมือง 4 พรรคนี้ยังคร่ำครึเท่ากับสมัยศตวรรษที่19 นั่นคือจับกัญชาไปขังคุกในนามยาเสพติด

4.ยาแผนปัจจุบันในประเทศไทยมีมูลค่าหลายแสนล้านบาทต่อปีหากประชาชนพึ่งตนเองด้านการรักษาได้มากขึ้นจะส่งผลโดยตรงต่อมูลค่ายาโดยผลประโยชน์ของธุรกิจยามีผู้เกี่ยวข้องหลายฝ่าย กัญชาจึงถูกต่อต้านอย่างมากในประเทศไทยเพราะหากประชาชนเข้าถึงได้จะส่งผลโดยตรงต่อการพึ่งตนเองด้านการรักษา

‘กัญชามีปัญหาเพราะมีมูลค่านับแสนล้านซึ่งทุกฝ่ายอยากครอบครองและผูกขาด การนำกัญชากลับไปเป็นยาเสพติดคือ โอกาสของการผูกขาดกติกา แม้ว่าจะอนุญาตให้ประชาชนเข้าถึงก็เป็นเพียงฐานะของผู้ซื้อยากัญชาจากบริษัทยาที่ต้องสั่งผ่านแพทย์แผนปัจจุบัน และโดยหลักคิดนี้ประชาชนจะ ไม่อยู่ในฐานะผู้ผลิตยากัญชาเพื่อการพึ่งพาตนเอง’

5.เครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทยขอประกาศว่าเมื่อเลือกตั้งเสร็จแล้วหากพรรคการเมืองที่ถืออำนาจรัฐนำกัญชากลับไปเป็นยาเสพติดเราจะประกาศการชุมนุมเพื่อทวงสิทธิการเข้าถึงยากัญชาของประชาชนคืนมา การชุมนุมครั้งนี้แม้ว่าจะยืดเยื้อยาวนานแต่เป็นภารกิจสำคัญที่ประชาชนจะต้องทวงคืนสิทธิในพืชกัญชาเพื่อความมั่นคงทางยาของประชาชน

ในวาระหลังการเลือกตั้งเครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทยจะรับฟังความเห็นเพื่อเสนอร่าง พ.ร.บ.กัญชา สำหรับใช้ควบคุมกัญชาให้เกิดสมดุลในประเทศไทย จึงขอเรียนเชิญทุกท่านมาร่วมกันจัดทำกฎหมายฉบับนี้เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงสิทธิทางยาและการคุ้มครองผู้บริโภคโดยเฉพาะกลุ่มเด็กและเยาวชนที่สังคมกำลังเป็นห่วง ส่วนวาระร่วมที่สำคัญในขณะนี้คือจะต้องคัดค้านการนำกัญชากลับไปสู่ยาเสพติด จึงขอเชิญประชาชนร่วมกันลงชื่อเพื่อแสดงเจตนารมย์ไม่ให้รัฐบาลหน้านำกัญชากลับไปสู่ยาเสพติดเราจะสร้างพลังการขับเคลื่อนทางสังคมเพื่อให้ประชาชนเข้าถึงกัญชาและเป็นสิทธิพื้นฐานทางยาของประเทศให้บรรลุเป้าหมายให้จงได้