เปิดฐานะอดีต รมช.ภูมิใจไทยที่ส่งลูกสาวลงปาร์ตี้ลิสต์เพื่อไทย

ป.ป.ช.เปิดทรัพย์สิน 'วีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล' อู้ฟู่ 452 ล้านบาท อึ้ง! ให้กู้ยืมลูกสาว 2 คนหลายร้อยล้านบาท

12 เม.ย. 2566 - สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เผยแพร่บัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของ ส.ส.กรณีพ้นจากตำแหน่งหลายราย รายชื่อน่าสนใจ ได้แก่ นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล พ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม วันที่ 18 มกราคม 2566 โดย นายวีรศักดิ์แจ้งว่า มีทรัพย์สิน 247,437,171 บาท ได้แก่ เงินสด 4.5 แสนบาท เงินฝาก 892,391 บาท เงินให้กู้ยืม 226,300,200 บาท ที่ดิน 17,180,580 บาท ยานพาหนะ 6.5 แสนบาท ทรัพย์สินอื่น (ราคาตั้งแต่สองแสนบาทขึ้นไป) 1,964,000 บาท ไม่มีหนี้สิน มีรายได้รวมต่อปีโดยประมาณ 163,662,920 บาท โดยเป็นเงินเดือน 1,362,720 บาท และจากการขายหุ้นแต่ยังไม่ได้รับเงิน 162,300,200 บาท มีรายจ่ายรวม 1.7 ล้านบาท

ขณะที่นางยลดา หวังศุภกิจโกศล คู่สมรส ที่ปัจจุบันเป็นนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) นครราชสีมา มีทรัพย์สิน 205,042,003 บาท ได้แก่ เงินสด 4 แสนบาท เงินฝาก 1,752,951 บาท เงินให้กู้ยืม 168,487,433 บาท ที่ดิน 10,137,980 บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 12,160,000 บาท ยานพาหนะ 1,280,000 บาท สิทธิและสัมปทาน 1,803,638 บาท ทรัพย์สินอื่น 9,020,000 บาท มีรายได้รวมต่อปีโดยประมาณ 60,277,960 บาท โดยรายได้ส่วนใหญ่มาจากการขายหุ้นแต่ยังไม่ได้รับเงิน 59,291,600 บาท มีรายจ่ายรวม 2.2 ล้านบาท รวมทั้งคู่มีทรัพย์สินทั้งสิ้น 452,479,174 บาท มีหนี้สินทั้งสิ้น 36,585,979 บาท

สำหรับทรัพย์สินที่น่าสนใจ พบว่า นายวีรศักดิ์มีเงินให้กู้ยืมแก่บุตรสาว 2 ราย ได้แก่ น.ส.สุดาวรรณ จำนวน 2 ครั้ง ครั้งแรก 17 ก.ค. 2562 มูลค่า 44 ล้านบาท ยอดหนี้คงเหลือ 44 ล้านบาท ครั้งที่สอง มิได้ระบุยอดเงินกู้รวม แต่หมายเหตุว่า ตามสัญญาลูกหนี้ซื้อขายหุ้น โดยมียอดหนี้คงเหลือ 126,525,000 บาท ส่วน น.ส.วีรียา จำนวน 2 ครั้ง ครั้งแรก 8 ก.ค. 2562 มูลค่า 20 ล้านบาท ยอดหนี้คงเหลือ 20 ล้านบาท ครั้งที่สอง มิได้ระบุยอดเงินกู้รวม แต่หมายเหตุว่า ตามสัญญาลูกหนี้ซื้อขายหุ้น โดยมียอดหนี้คงเหลือ 21,420,000 บาท ส่วนนางยลดา คู่สมรส มีเงินให้กู้ยืมแก่บุตรสาว 2 รายเช่นกัน ได้แก่ น.ส.สุดาวรรณ เมื่อวันที่ 17 ก.ค. 2562 จำนวนเงินกู้ตามสัญญา 73 ล้านบาท ยอดหนี้คงเหลือ 23.2 ล้านบาท และ น.ส.วีรียา เมื่อวันที่ 1 ก.ค. 2562 จำนวนเงินกู้ 64 ล้านบาท ยอดหนี้คงเหลือ 64 ล้านบาท

สำหรับการขายหุ้นของนายวีรศักดิ์ดังกล่าว พบว่า มีการขายให้กับลูก 2 คน คือ น.ส.สุดาวรรณ จำนวน 126,525,000 บาท น.ส.วีรียา 21,420,000 บาท และนายชาคริต ตรีกูล 14,355,200 บาท ส่วนนางยลดา ขายหุ้นให้กับลูกเช่นกัน คือ น.ส.สุดาวรรณ จำนวน 47,665,100 บาท และนายชาคริต ตรีกูล 11,627,500 บาท

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับนายวีรศักดิ์ ก่อนหน้านี้เป็นแกนนำพรรคภูมิใจไทย ต่อมาได้ลาออกจากตำแหน่ง รมช.คมนาคม และทุกตำแหน่งในพรรคภูมิใจไทย ขณะที่ในการเลือกตั้ง 2566 มีชื่อ น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล บุตรสาว ลงสมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 21 สังกัดพรรคเพื่อไทย

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

‘อัครนันท์’ ชูหาเสียงไม่รบกวนชุมชน ตั้งหลักคิดคุณภาพชีวิตมาก่อน

“อัครนันท์” ออกแนวทางการหาเสียงไม่กระทบกับชาวบ้านในพื้นที่ ปรับเวลารถแห่ จาก 08.00 น.เป็น 10.00 น. หวังลดผลกระทบด้านเสียง เอาใจ คนในพื้นที่

‘สมศักดิ์’ นำผู้สมัครเพื่อไทย 3 จังหวัด สักการะมหาราชก่อนจับเบอร์

“สมศักดิ์” นำผู้สมัคร สส. เพื่อไทย “ตาก-สุโขทัย-พิษณุโลก” สักการะมหาราชทั้ง 3 พระองค์ “ศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช-พระบรมราชานุสาวรีย์พ่อขุนรามคำแหงมหาราช-ศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช” เอาฤกษ์เอาชัย ก่อนลุยจับเบอร์สู้ศึกเลือกตั้ง

‘ยศชนัน’ สงวนท่าทีกากบาทป้าย iLaw หวั่น กกต.เอาผิด ปมแก้ รธน.

“ยศชนัน วงศ์สวัสดิ์” แคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย ร่วมกิจกรรม iLaw แสดงความเห็นเรื่องรัฐธรรมนูญใหม่ รับส่วนตัวเห็นควรแก้ไข แต่ขอรอฟังเสียงประชาชน พร้อมย้ำเงื่อนไขงดแตะหมวด 1-2 และขอไม่กากบาทบนแผ่นป้าย เหตุไม่สบายใจทางการเมือง