5 เม.ย.2566 - นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมืองโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก เรื่อง ปฏิบัติการ “ล้มชูวิทย์” มีเนื้อหาดังนี้
.
มีกลุ่มคนที่กระสันอยากจะล้มผมมากมาย
.
วงการที่ผมอยู่มันสีเทา ไม่มีสัจจะในหมู่โจร
.
เมื่อโจรอย่างผมกล้าเปิดปาก คนดีแต่เปลือกที่แทรกอยู่ในหมู่โจรเสียประโยชน์ จึงแง้มหน้ามาแทงหลัง ไม่กล้าปะทะตรงๆ ตามสันดานโจรกระจอก
.
ทนายโจรเด็กที่เพิ่งเริ่มมีแสงส่องสว่าง แสร้งทำดีมาได้ไม่กี่ปี ก็เผยตัวตนที่แท้จริงออกมาให้ได้เห็น
.
หากเป็นกระดานหมากรุกถือว่าเป็นแค่ “เบี้ย” ตัวหนึ่ง ไม่ได้มีไว้รุก แต่มีไว้ให้มหาโจรได้หลอกกิน
.
ในเมื่อเป็นแค่ “เบี้ย” แต่สำคัญตนผิด คิดมาชนกับ “ขุน” ผลจึงพังไม่เป็นท่า กู่ไม่กลับ เดินเกมพลาดไปจนสุดกระดาน
.
ที่คิดว่า “ขุดหลุม” กลับโดนฝังเสียเอง
.
แรกๆ เห็นการออกมาช่วยเหลือประชาชน ใส่เสื้อยืดตีตรา ดูเหมือนทำเพื่อคนในสังคมที่เดือดร้อน
.
จนกระทั่งวันหนึ่ง ตกผลึกก้าวข้ามจากคนดีมาบังเกิด แปรสภาพเป็น “จิ๊กโก๋” ปากซอยอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย
.
กัลยาณมิตรในหมู่โจรอดรนทนไม่ไหว บอกผมว่า
.
ทนายเป็นเพียงเด็กที่ยอมเป็น “ม้ารับใช้” ได้ผลตอบแทนแค่เศษเงินจากคนที่บงการอยู่เบื้องหลัง
.
บุคคลดังกล่าวเป็นนายตำรวจใหญ่ที่ผมเคยคุยตอนแฉจีนเทา
.
ร่วมมือกับสื่อเฒ่าสีเทาจัด ที่เสียผลประโยชน์จากการต่อต้านกัญชาเสรีของผม ใช้ทนายเด็กเป็น “เบี้ย” ออกหน้าแทน
.
เริ่มจากการแฉถุงขนม 6 ล้าน ทั้งที่รู้เรื่องราวดีอยู่ว่าผมเอาไปบริจาคให้โรงพยาบาล 2 แห่ง เรียบร้อยแล้ว
.
เปิดเกมรุก แล้วดันตกม้าตาย กลับกลายเป็นเกมถอย
.
พอรู้ว่าชักเสียท่า โดนกระแสตีกลับเพราะตัวเองยังอ่อนหัด จู่ๆ เลี้ยวไปเล่นเรื่องที่ดินของผมแบบยอมพลีชีพ
.
สันดานเป็นได้แค่ “เด็กใช้งาน” ก็ยังคงเป็นเหมือนเดิมวันยันค่ำ
.
เขียนบทเหมือนสื่อเฒ่าสีเทาที่เสียหน้า เพราะไม่คิดว่าจะมีวันนี้ ที่มีคนกล้าชนถลกหนังหัว
.
วันนี้ทนายเด็กต้องถูกสังคมตรวจสอบที่มาของเงิน และความหรูหราที่ขาดมาตั้งแต่ยังเล็ก
.
แม้แต่เพื่อนทนายยังอดรนทนไม่ไหว ออกมาระบายความในใจว่า “เป็นห่วง”
.
ที่แท้แรงหิวโหยแค่แบรนด์เนม โชว์โซเชียลว่าขึ้นชั้น อยากทำผลงานโชว์ผู้ใหญ่
.
หวังเพียงจะได้โลดแล่นในยุทธจักรสีเทา ร่วมมือกับหุ้นส่วนเจ้าหน้าที่ DSI ตัวเตี้ยๆ อายุประมาณ 50 ปี ชื่อเล่นย่อ “ท.” ที่เพิ่งมีคดีเกี่ยวพันกับบ้านกงสุลแถวสาทร
.
แต่ในเมื่อกล้าที่จะเปิดศึก
.
ผมก็พร้อมชน ไม่ว่าเด็กไม่ว่าแก่ เมื่อชนมาก็ต้องชนตอบ อยู่ที่ใครจะอึดกว่ากัน
.
หากพลาดครั้งเดียวก็หมายถึงล้มได้ทั้งยืน
.
ผมเคยล้มมาแล้ว 99 ครั้ง หากครั้งนี้ล้มอีกจะเป็นไร?
.
แต่อย่าให้คนอย่างผมได้ชน
.
งานนี้ ไม่มีได้ไม่มีเสีย ผมล้มทั้งกระดาน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
‘ษิทรา-ชูวิทย์’ ถอนฟ้องคดีให้กัน บอกมีบุคคลที่สามให้ข้อมูลจนเข้าใจผิด
ทนายษิทราเผยได้รับสายจากชูวิทย์ เสียงแกแย่มากๆจากอาการป่วยเรื้อรังที่ทุกคนทราบดี แกมาขอโทษขอโพยที่เข้าใจผมผิดเรื่องเวปพนัน
ทนายเผย 'เศรษฐา-ชูวิทย์' เตรียมถอนฟ้องคดีหมิ่นประมาท ปมเลี่ยงภาษีแสนสิริ
นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายบุญชัย วสุนทรา ทนายความนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ นักธุรกิจชื่อดังร่วมกันเปิดเผยถึงความคืบหน้าในคดีที่นายเศรษฐายื่นฟ้อง
ศาลรับฟ้อง 'ชูวิทย์' หมิ่นประมาท 'ภูมิใจไทย' ปมกัญชาเสรี นโยบายเลวทราม โจมตีเลือกตั้ง
ที่ศาลอาญา ถนนรัชดา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลอาญา มีคำสั่งศาลอาญา คดีหมายเลขดำที่ อ 1225/2566 ที่พรรคภูมิใจไทยโดยนายศุภ
'นิพิฏฐ์' โพสต์ถึง 'ชูวิทย์' กลายเป็นตำนานของแผ่นดินไปแล้ว
นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีตผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก กรณีนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ เดินทางไปรักษาโรคมะเร็งในต่างประเทศ ว่า
'ชูวิทย์' พร้อมลูกสาวบินไปอังกฤษ รักษาโรคมะเร็งตับระยะสุดท้าย
นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมืองชื่อดัง ได้เดินทางไปรักษาโรคมะเร็งตับระยะสุดท้ายที่ประเทศอังกฤษ ก่อนจะเดินทางไปพักรักษาตัวต่อยังโรงพยาบาลที่ประเทศสก็อตแลนด์
'นิพิฏฐ์' บอก 'ชูวิทย์' ใช้ชีวิตเป็นอมตะตามหลักปรัชญาแล้ว!
'นิพิฏฐ์' ร่ายความในใจถึง 'ชูวิทย์' บอกชีวิตไม่เหมือนลูกฟุตบอลแต่เป็นผีพุ่งไต้ที่ไม่มีมนุษย์คนใดจะทำได้ ใช้ชีวิตจนกลายเป็นอมตะตามหลักปรัชญาแล้ว