BioThai - FTA Watch จี้ 'ประยุทธ์-จุรินทร์' ยุตินำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์แก้ปัญหาฝุ่นพิษ

BioThai - FTA Watch เรียกร้องนายกฯ-รมว.พาณิชย์ ยุติการนำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์เพื่อแก้ปัญหาฝุ่นพิษโดยทันที ชี้เป็นต้นตอสำคัญของปัญหาฝุ่นพิษที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนในภาคเหนือหลายจังหวัด

31มี.ค.2566- มูลนิธิชีววิถี (BioThai) และกลุ่มศึกษาข้อตกลงเขตการค้าเสรีภาคประชาชน (FTA Watch)เรียกร้องให้กระทรวงพาณิชย์และผู้นำรัฐบาลยุติการนำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์เพื่อแก้ปัญหาฝุ่นพิษโดยทันที

จากกรณีปัญหาฝุ่นพิษที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน โดยจากข้อมูลเฝ้าระวังโรคที่เกี่ยวข้องกับมลพิษทางอากาศ ของกระทรวงสาธารณสุขระบุว่า ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. ถึง 19 มี.ค. 2566 พบผู้ป่วยด้วยโรคที่เกี่ยวข้องกับมลพิษทางอากาศ รวม 1,730,976 ราย ชี้ให้เห็นว่าปัญหาฝุ่นพิษที่เกิดขึ้นอยู่ในระดับวิกฤตและเป็นภัยพิบัติร้ายแรงแล้วนั้น

มูลนิธิชีววิถี (BioThai) และกลุ่มศึกษาข้อตกลงเขตการค้าเสรีภาคประชาชน (FTA Watch) ขอเรียกร้องให้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ดำเนินการอย่างเร่งด่วนให้ยุติการนำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์จากแหล่งที่มีการเผาจากประเทศเพื่อนบ้านโดยทันที เนื่องจากเป็นต้นตอสำคัญของปัญหาฝุ่นพิษที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนในภาคเหนือหลายจังหวัด

จากการติดตามข้อมูลการนำเข้า พบว่า ในปี 2564 ประเทศไทยนำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์จากประเทศพม่า เพื่อเป็นอาหารสัตว์รวม 1.83 ล้านตัน มูลค่ากว่า 14,000 ล้านบาท (คิดเป็นสัดส่วนมากถึง 97.8% ของปริมาณการนำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ของไทย หรือประมาณ 70% ของผลผลิตข้าวโพดทั้งหมดของพม่า) โดยพื้นที่การปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ส่วนใหญ่ของพม่า (56%) อยู่ในรัฐฉานซึ่งเป็นบริเวณติดกับพื้นที่ภาคเหนือของประเทศไทยที่กำลังเผชิญฝุ่นพิษจนหลายจังหวัดติดอันดับพื้นที่ที่มีคุณภาพอากาศเลวร้ายที่สุดในโลกไปแล้วในปัจจุบัน

การนำเข้าของไทยดังกล่าวเป็นการนำเข้าตามกรอบความตกลงการค้าสินค้าของอาเซียน (ATIGA) ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2563 ตามข้อเสนอของกระทรวงพาณิชย์ ให้องค์การคลังสินค้าสามารถนำเข้าข้าวโพดได้ทั้งปี และอนุญาตให้เอกชนสามารถนำเข้าได้ระหว่างวันที่ 1 ก.พ. - 31 ส.ค. ของทุกปี โดยไม่ต้องเสียภาษี นั้น รัฐบาลไทยสามารถยุติการนำเข้าได้ ตามเงื่อนไขในความตกลง Article 8 (b) General Exceptions ที่มีข้อยกเว้นให้ประเทศภาคีสามารถยุติการนำเข้าได้เพราะเหตุว่า เป็นการดำเนินการอันจำเป็นเพื่อป้องกันผลกระทบต่อสุขภาพของมนุษย์ สัตว์ และพืช

นายกรัฐมนตรีในฐานะผู้นำของรัฐบาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และรัฐมนตรีอื่นๆที่่เกี่ยวข้องทั้งหมด ต้องแสดงความเป็นผู้นำในการปกป้องสุขภาพของประชาชน มากกว่าการปกป้องผลประโยชน์ของบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านอาหารสัตว์ ที่จะได้ประโยชน์จากวัตถุดิบราคาถูกที่ไม่ต้องเสียภาษีจากแหล่งผลิตที่สร้างฝุ่นพิษข้ามพรมแดน

วันที่ 30 มีนาคม 2566
มูลนิธิชีววิถี (BioThai)
กลุ่มศึกษาข้อตกลงเขตการค้าเสรีภาคประชาชน (FTA Watch)

 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'จุรินทร์' อัดรัฐบาล ซื้อเวลาไปวันๆ ทำไมไม่ถามกฤษฎีกาเรื่อง ดิจิตอล Wallet เสียที

'จุรินทร์' อัดรัฐบาล เรื่องดิจิตอล Wallet ทำไมไม่ถามกฤษฎีกาเสียที จะได้ชัดเจนว่าถูกหรือผิดกฎหมาย เพราะข้ออ้างยื้อเวลาฟังไม่ขึ้น เหมือนซื้อเวลาสร้างความหวังประชาชนไปวันๆ

'จุรินทร์' ชำแหละยิบ 'งบ 68' นักกู้ผ้าขาวม้า ซุกซ่อน 5 ประเด็นที่สุดของความขี้เหร่

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฐ์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายว่า ตนเป็นห่วงต่อสภาพการเมือง เศรษฐกิจ ทั้งระดับมหภาคและภาคประชาชน และการไม่รักษาวินัยการเงินการคลังของรัฐบาล

รองโฆษกรัฐบาล ซัด 'จุรินทร์' 10 ปี วนเวียนอยู่ที่เดิม ไม่แปลกใจทำไมปชป.ตกต่ำ

'เกณิกา' ซัด' จุรินทร์' 10 ปี วนเวียนอยู่ที่เดิม ไม่แปลกใจทำไมความนิยม ปชป.ตกต่ำ ย้ำ โครงการดิจิทัลรัฐบาลพร้อมทำตาม กม.ติง อย่าเอาประโยชน์ของปชช.มาเป็นเครื่องมือทางการเมือง

'จุรินทร์' ชี้ล้วงเงินธกส. แจกดิจิทัลวอลเล็ต ดีเอ็นเอเดียวกับจำนำข้าว

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และอดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงให้แหล่งเงินสำหรับใช้ทำโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 500,000 ล้านบาท ที่มาจาก 3 ทาง คืองบเหลือจ่าย 67 งบรายจ่ายปี68

'จุรินทร์' ทุบ 'เศรษฐา' ทำตัวเป็นรัฐบาลเทวดา มองฝ่ายค้านเป็นแมลงหวี่ เท่ากับรำคาญเสียงประชาชน

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงภาพรวมการอภิปรายทั่วไปตามมาตรา 152 ในวันแรก ว่า ตนว่าฝ่ายค้านทำหน้าที่ดีทุกพรรค ทั้งพรรคประชาธิปัตย์ พรรคก้าวไกล และพรรคไทยสร้างไทย ตนถือว่าตั้งใจทำหน้าที่ได้เป็นอย่างดี

จับตาศึกอภิปรายม.152 ยกแรกฝ่ายค้านเขย่ารบ.

วันนี้และพรุ่งนี้ (4 เม.ย.) เป็นนัดสำคัญทางการเมืองนัดหนึ่งในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ฝ่ายค้านเสนอญัตติเปิด “อภิปรายทั่วไป” เพื่อซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.)