'นิพิฏฐ์'​ อบรม 'ษิทรา'​ ว่าด้วยการสาบานสาปแช่ง

26 มี.ค. 2566 – นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ แกนนำพรรคพลังประชารัฐ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า การสาบาน,มนต์ดำ หรือ การสาปแช่งผู้อื่น

-ปกติ การพิจารณาคดีในศาล ก่อนพยานจะให้การหรือเบิกความต่อศาล พยานต้องสาบานตนตามลัทธิศาสนาของตน ว่า จะให้การหรือเบิกความตามความสัตย์จริง หากให้การเท็จก็ขอให้มีอันตรายภายใน 3 วัน 7 วัน

-เราจะสาบาน  เพื่อขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ลงโทษเราเท่านั้น หากเราให้การเท็จ

-แต่จะไม่มีนะครับ ที่จะสาบานและสาปแช่งคนอื่น และ ศาลก็จะไม่ให้กระทำอย่างนั้น เพราะคนอื่นเขาไม่เกี่ยวข้องด้วย เราจะสาปแช่งเขาทำไม

-กล่าวโดยสรุป เราจะสาบานให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ลงโทษเราเท่านั้นหากเราให้การเท็จ

-แต่หากเราไปกราบไหว้พระหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ตามสถานที่ต่างๆ นอกศาล แล้วขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ลงโทษคนอื่น นั่นเป็น”มนต์ดำ” หรือ พิธีกรรมชั่วร้ายที่เรากระทำต่อคนอื่นปกติแล้วคนทั่วไปหรือคนปกติเขาไม่ทำกัน

-เรากราบไหว้พระ ปกติเราจะขอพรให้พระหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองเราหรือขอให้คนที่เรารักโชคดี เช่น ขอให้เราถูกหวย  หรือพ้นจากโรคภัยไข้เจ็บ

-การขอให้พระหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ลงโทษคนอื่น นั่นเป็นความชั่วร้าย หรือ “มนต์ดำ”ที่เรากระทำต่อคนอื่น ผมก็เชื่อแบบคนธรรมดาทั่วไปว่า พระหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ไม่น่าจะรับคำอธิษฐานของเราและลงโทษคนอื่น เพราะพระหรือสิ่งศักดื์สิทธิ์ก็จะพลอยมีบาปกรรมไปด้วย

-ผมอ่านข่าวทนายตั้ม ไหว้พระ และให้พระสาปแช่งคนอื่น ผมไม่เคยเห็นว่าคนปกติเขาจะทำกันแบบนั้น

-เราผู้เป็นนักกฎหมาย เราเป็นผู้รู้ ก็ควรแนะนำสิ่งที่ถูกต้องแก่ประชาชน

-ผมไม่เกี่ยวข้องอะไร กับ ใครหรอก เพียงแต่อธิบายว่า อย่างไหน คือคำสาบานในศาลอย่างไหน คือ มนต์ดำ หรือความชั่วร้ายที่เราสาดใส่คนอื่น 

-อยากบอกน้องทนายตั้มว่า อย่าถึงกับทำมนต์ดำใส่คนอื่นเลยครับ ยิ่งน้องนำภรรยาไปร่วมไหว้พระร่วมสาปแช่งคนอื่นด้วยนี่ไปกันใหญ่แล้ว เพระมันจะเป็นอัปมงคลแก่ตัวเอง และครอบครัว เขาไม่ทำกันแบบนั้น  นี่ผมอธิบายแบบกลางๆที่สุุดแล้วนะครับ ไปขอโทษสิ่งศักดิ์สิทธิ์และ ถอนคำสาบานเสียเถอะครับ จะได้เป็นมงคลแก่ตนเองและครอบครับ

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'นิพิฏฐ์' แนะเอาตัวให้รอด จากการเมืองใหม่ที่ไม่เห็นอนาคต กับการเมืองเก่าประชานิยมซื้อเสียงไปวันๆ

นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ทนายความ อดีตส.ส.พัทลุง โพสต์ข้อความหัวข้อ "เอาตัวให้รอด" มีรายละเอียดดังนี้