
24 มี.ค. 2566 – เมื่อเวลา 10.00 น. ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้เดินทางมายื่นหนังสือถึงนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เพื่อสอบถามสถานะของที่ดินสวนชูวิทย์ บริเวณสุขุมวิท ซอย 10 หลังเคยมีกรณีพิพาทกันในคดีรื้อทุบบาร์เบียร์ว่าเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกันตามกฎหมายไปแล้วหรือไม่
ทั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อ 22 พ.ค.2548 นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ จัดแถลงข่าวครั้งแรกระหว่างการต่อสู้คดีรื้อบาร์เบียร์ในศาล เพื่อแสดงความตั้งใจว่าไม่ต้องการใช้ประโยชน์จากที่ดินผืนดังกล่าว และจะนำที่ดินคืนสาธารณะให้สังคมโดยจัดทำเป็นสวนสาธารณะ และต่อมาวันที่ 24 ธ.ค.2548 ไม่ทันถึงปีนายชูวิทย์ก็จัดแถลงข่าวเปิดตัวสวนชูวิทย์และกล่าวในวันนั้นว่า เจตนาที่จะเสียสละนำที่ดินดังกล่าวสร้างเป็นสวนสาธารณะให้กรุงเทพมหานคร ให้เป็นปอดของคน กทม. ได้ใช้ประโยชน์แทนโครงการสร้างโรงแรม เรียกว่า “สวนชูวิทย์”
ต่อมาในคดีรื้อบาร์เบียร์นั้น ศาลฎีกามีคำพิพากษาเมื่อ ม.ค.59 ว่าที่ดินพิพาทบริเวณสุขุมวิทซอย 10 นั้นศาลฎีกาเห็นว่าหลังเกิดเหตุ นายชูวิทย์กับพวก ได้ร่วมกับจำเลยอื่นชดใช้ค่าเสียหายให้ผู้เสียหายไปบางส่วนแล้ว และยังมีการนำที่ดินพิพาทไปทำประโยชน์เป็นสวนสาธารณะให้ประชาชนทั่วไปใช้ได้ โดยไม่ได้นำที่ดินไปทำธุรกิจแสวงหาผลกำไรอีก บ่งบอกว่าจำเลยรู้สึกสำนึกผิด นับว่ามีเหตุปรานี เห็นสมควรกำหนดโทษใหม่ให้เหมาะสม พิพากษาแก้ว่าจากจำคุก 5 ปี ให้เหลือแค่ 2 ปี ไม่รอลงอาญา
แต่ทว่าปัจจุบันสวนดังกล่าวไม่มีแล้ว เพราะถูกนำไปพัฒนาเป็นอาคารสูงโครงการมิกซ์ยูสขนาดใหญ่ อันเป็นที่สงสัยและวิพากษ์วิจารณ์ของสังคมกันอย่างมากว่า การอุทิศที่ดินของนายชูวิทย์ให้เป็นสวนสาธารณะ โดยมิได้นำไปจดทะเบียนนั้น จะถือได้ว่าที่ดินกล่าวเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกันตาม ป.พ.พ.มาตรา 1304 โดยไม่จำเป็นต้องนำไปจดทะเบียนการให้ต่อเจ้าหน้าที่ ตามมาตรา 525 อันมีผลโดยสมบูรณ์ตามกฎหมายแล้วหรือไม่ หากมีผลสมบูรณ์แล้ว เป็นหน้าที่ของผู้ว่าฯ กทม.ที่จะต้องดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมาย
ด้วยเหตุดังกล่าว สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จึงจำต้องนำความมาร้องถามผู้ว่าฯ ชัชชาติ ให้วินิจฉัยและดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจในวันนี้ ซึ่งหากท่านผู้ว่าฯ วินิจฉัยว่า ที่ดินแปลงดังกล่าวมีสถานะเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกันตามกฎหมายแล้วไซร้ กทม. ก็ต้องดำเนินการเรียกคืนที่ดินแปลงดังกล่าวกลับมาเป็นสวนสาธารณะ หรือให้เป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกันตามครรลองของกฎหมายต่อไป หากไม่ดำเนินการสมาคมฯ จำต้องนำความไปยื่นฟ้องต่อศาลเพื่อบังคับให้เป็นไปตามกฎหมายต่อไป.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
กทม. แถลงคืบหน้ากู้ภัยตึกถล่ม ปรับยอดผู้สูญหาย 81 ราย ไม่พบสัญญาณชีพแล้ว
กทม.แถลงความคืบหน้าตึก สตง.ถล่ม ล่าสุดสูญหาย 81 ราย เจาะช่องลิฟต์ลุ้นพบผู้รอดชีวิต ปรับยอดผู้ประสบภัย 103 ราย เปิดศูนย์พักพิง-เยียวยาครอบครัว
'ชัชชาติ' ลั่นยังมีความหวังเล็กๆ ค้นหาผู้รอดชีวิตตึก สตง.ถล่ม หลังได้ยินเสียงเคาะตอบ
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เผยผ่านไลฟ์สด “ความหวังเล็กๆ” จากปฏิบัติการค้นหาผู้สูญหาย จากเหตุการณ์อาคารสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ถล่ม เขตจตุจักร ว่
'ชัชชาติ' แถลงกู้ภัยตึกถล่ม ปรับแผนใช้เครื่องจักรเร่งรื้อถอน ขอโทษอาจไม่ถูกใจบางคน
"ชัชชาติ" แถลงคืบหน้ากู้ภัยตึก สตง. ถล่ม วันที่ 5 พบผู้เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย ยังสูญหาย 14 ราย ปรับแผนใช้เครื่องจักรหนักเร่งค้นหา ยันไม่หยุดจนกว่าจะครบ
เปิดความจริงอีกด้าน! 'อี้ แทนคุณ' รับไม่ได้มีเรื่องการเมืองเกิดขึ้น กู้ภัยตึกถล่มอยู่ในภาวะทำๆหยุดๆ
นายแทนคุณ จิตต์อิสระ ประธานชมรมสันติประชาธรรม หรือ อี้ แทนคุณ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กกล่าวถึงปฏิบัติการกู้ภัยตึกสตง.ถล่มที่เขตจตุจักร ในการค้นหาผู้รอดชีวิตว่า
'ชัชชาติ' แถลงคืบหน้ากู้ภัยตึกถล่ม ยันเป้าหมายหลักค้นหาผู้รอดชีวิต
"ผู้ว่าฯชัชชาติ" แถลงคืบหน้าตึก สตง.ถล่ม ยังไม่พบสัญญาณชีพ ทีมกู้ภัยนานาชาติลุยค้นหาผู้รอดชีวิตต่อเนื่อง ยอดผู้เสียชีวิต 12 ราย