พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงานฉบับใหม่สนับสนุนการทำงานแบบเวิร์คฟอร์มโฮมเริ่มบังคับ 18 เม.ย.2566 เปิดทางนายจ้าง-ลูกจ้างตกลงเวลาทำงานให้ชัดเจน พร้อมให้สิทธิลูกจ้างปฏิเสธการติดต่อสื่อสารหลังเวลางานได้
23 มี.ค.2566 - น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.)คุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 ซึ่งใช้บังคับอยู่ในปัจจุบันมีบทบัญญัติบางประการไม่เหมาะสมกับสภาพการณ์ในปัจจุบันที่รูปแบบการทำงานในองค์กรธุรกิจต่างๆ เปลี่ยนแปลงไปมาก โดยมีการทำงานจากที่พักอาศัยของลูกจ้างหรือเวิร์คฟอร์มโฮม หรือจากสถานที่อื่นๆ ซึ่งอยู่นอกสถานประกอบการของนายจ้างมากขึ้น หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงได้มีการปรับปรุงแก้ไขกฎหมายและออก พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน (ฉบับที่ 8) พ.ศ. 2566 ซึ่งได้เพิ่มเติมบทบัญญัติที่จะส่งเสริมคุณภาพชีวิตของลูกจ้างให้ได้ความคุ้มครอง เป็นประโยชน์ในการประกอบกิจการของนายจ้าง ตลอดจนมีส่วนช่วยแก้ไขปัญหาจราจร ลดการใช้พลังงานและเชื้อเพลิงด้วย โดยได้รับการประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 19 มี.ค.2566 และมีผลบังคับเมื่อพ้น 30 วันนับแต่วันประกาศ หรือ มีผลบังคับตั้งแต่วันที่ 18 เม.ย.2566 เป็นต้นไป
น.ส.ไตรศุลีกล่าวว่า กฎหมายคุ้มครองแรงงานฉบับใหม่ได้เพิ่มบทบัญญัติ มาตรา 23/1 ซึ่งมีสาระสำคัญให้นายจ้างและลูกจ้างอาจตกลงให้ลูกจ้างนำงานในทางการที่จ้างที่ลูกจ้างสามารถปฏิบัติงานนอกสถานประกอบการหรือนอกสำนักงานของนายจ้างไปทำที่บ้านหรือที่พักอาศัยของลูกจ้าง หรือตกลงให้ลูกจ้างทำงานผ่านการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในสถานที่ใดๆ ได้
ทั้งนี้ ในการตกลงระหว่างนายจ้างกับลูกจ้างนั้น อาจตกลงให้มีรายละเอียด เช่น ระยะเวลาเริ่มต้นและสิ้นสุดการตกลง วัน เวลาทำงานปกติ เวลาพัก และการทำงานล่วงเวลา การลา ขอบเขตหน้าที่ของลูกจ้าง การกำกับควบคุมของนายจ้าง ภาระหน้าที่เกี่ยวกับการจัดหาเครื่องมือหรืออุปกรณ์การทำงาน รวมทั้งค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่จำเป็น อันเนื่องจากการทำงาน
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า กฎหมายยังกำหนดว่าเมื่อสิ้นสุดเวลาทำงานปกติตามที่มีการตกลงกันแล้ว ลูกจ้างมีสิทธิปฏิเสธในการติดต่อสื่อสารไม่ว่าในทางใดๆ กับนายจ้าง หัวหน้างาน ผู้ควบคุมงาน หรือผู้ตรวจงาน เว้นแต่ลูกจ้างได้ให้ความยินยอมโดยทำหนังสือไว้ล่วงหน้าก่อน
ทั้งนี้ เมื่อมีบทกฎหมายกำหนดไว้อย่างชัดเจนแล้ว ลูกจ้างซึ่งทำงานที่บ้าน หรือที่พักอาศัย หรือทำงานผ่านการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในสถานที่ใดๆ มีสิทธิและอยู่ภายใต้การคุ้มครองตามกฎหมายแรงงานต่างๆ เช่นเดียวกับลูกจ้างที่ทำงานในสถานประกอบการหรือสำนักงานของนายจ้างด้วย
อ่านกฎหมายฉบับเต็ม : https://bit.ly/3ncTdr6
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
รัฐบาลชวนปชช. จอง-แลกเหรียญเฉลิมพระเกียรติ 'ในหลวง' เริ่ม 24 ก.ค.
รัฐบาลเชิญชวนประชาชน จอง-แลกเหรียญกษาปณ์ที่ระลึก เหรียญที่ระลึก และเหรียญเฉลิมพระเกียรติ 'ในหลวง' เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ ตั้งแต่ 24 ก.ค.นี้
ไทยร่วมเวทีประชุม HLPF มุ่งพัฒนายั่งยืน
ไทยร่วมการประชุมเวที HLPF มุ่งมั่นในการเร่งรัดดำเนินการตามวาระการพัฒนาที่ยั่งยืน ค.ศ.2030 และบรรลุเป้าหมาย SDGs
รัฐบาลเตือนประชาชนใครมีไซยาไนด์โดยไม่ได้รับอนุญาตเจอคุก!
'เกณิกา' เตือนประชาชน ครอบครอง 'ไซยาไนด์' โดยไม่ได้รับอนุญาต มีโทษทั้งจำทั้งปรับอ่วม
'คารม' แจงยิบยัน 'กยศ.' คิดดอกเบี้ยอัตรา 1%
'คารม' ย้ำ กองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษาคิดดอกเบี้ยอัตรา 1% ตั้งแต่เริ่มกู้จนชำระเสร็จสิ้น ไม่มีการคิดดอกเบี้ยซ้อนดอกเบี้ย ขอให้ผู้กู้ยืมชำระหนี้ตามจำนวนที่แจ้งในหน้าแอปพลิเคชัน กยศ.Connect
'เกณิกา' ตีปี๊บฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดคืนสังคมกว่า 5 หมื่นราย
'เกณิกา' เผยข้อมูลติดตามผู้ป่วยบำบัดยาเสพติด ไม่เสพซ้ำกว่า 5 หมื่นคน ตามนโยบายรัฐบาลเศรษฐา 'ปราบปราม รักษา ฟื้นฟู ดูแล' ให้โอกาสผู้เสพคืนสู่สังคมอย่างมีคุณภาพ
รัฐบาลตีปี๊บ ปชช. ปลื้ม '30 บาท รักษาทุกที่' รับบริการร้านยาชุมชนอบอุ่น
ายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า “นโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่” บริการที่ “ร้านยาคุณภาพ”