ภัยออนไลน์หลอกลวงซื้อสินค้ายังครองอันดับหนึ่ง สัปดาห์เดียวถูกหลอก 1,500 เคสเสียหาย 14 ล้านบาท มีทั้งหลอกขายนม ปลอมคิวอาร์โค้ด หลอกเปิดบัญชีม้า
22 มี.ค.2566 - ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานสร้างเสริมภูมิคุ้มกันต้านภัยอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พร้อมด้วยคณะทำงาน แถลงสถิติการรับแจ้งความออนไลน์รอบสัปดาห์และภัยที่เกิดขึ้นใหม่ เพื่อประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้มีภูมิป้องกันภัยออนไลน์และไม่ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ
พล.ต.ท.สมพงษ์เผยว่า ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา (12-18 มี.ค.2566) มีผู้แจ้งความ 4,291 เคส มูลค่าความเสียหาย 351,191,412.31 บาท สถิติการรับแจ้งลดลงจากสัปดาห์ที่แล้ว 1,496 เคส สถิติการรับแจ้งความคดีออนไลน์มากที่สุดยังเป็นคดีเดิมๆ 5 อันดับ ได้แก่ อันดับ 1.คดีหลอกลวงซื้อขายสินค้า 1,500 เคส เสียหาย 14,003,677.05 บาท 2.คดีหลอกลวงให้โอนเงินเพื่อหารายได้จากการทำกิจกรรม 578 เคส เสียหาย 71,469,279.03 บาท 3.คดีหลอกลวงทางโทรศัพท์ที่เป็นขบวนการ(call center) 529 เคสเสียหาย 65,547,808.73 บาท 4.คดีหลอกให้กู้เงินแต่ไม่ได้เงิน 429 เคส เสียหาย 17,113,573.64 บาท และ 5.คดีหลอกเป็นบุคคลอื่นเพื่อยืมเงิน 236 เคส เสียหาย 10,637,571.37 บาท
ภัยออนไลน์ที่น่าสนใจและเกิดขึ้นมากในรอบสัปดาห์ เรื่องที่ 1 คือ คดีหลอกลวงซื้อขายสินค้านม Thai-Denmark โดยมิจฉาชีพสร้างเพจ Facebook “Thai-Denmark นมไทยแท้ ส่งทั่วไทย” คล้ายของจริง เมื่อมีผู้หลงเชื่อมาสอบถามเพื่อขอซื้อนม เพจจะให้ผู้หลงเชื่อโอนเงินให้ก่อนแล้วปิดเพจหนีไป จุดสังเกตของปลอมพบการกดปุ่มโกรธ (angry)จำนวนมาก สถานะของเพจเป็นอสังหาริมทรัพย์เพิ่งเปิดเพจ และผู้จัดการเพจอยู่ต่างประเทศ ส่วนของแท้เป็นธุรกิจท้องถิ่น และเปิดมานานและผู้จัดการเพจอยู่ประเทศไทย จึงขอประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนควรสงสัยไว้ก่อนว่าของดีและถูกเกินกว่าราคาตลาดมากๆ และบัญชีรับโอนเงินบุคคลธรรมดา น่าจะหลอกลวง
เรื่องที่ 2 คดีแก๊งคอลเซนเตอร์ติดต่อร้านอาหารผ่านแอปพลิเคชันไลน์หลอกสั่งข้าวกล่อง และโอนมัดจำให้ร้านค้าก่อน วันต่อมาคนร้ายได้โทรศัพท์บอกให้ร้านอาหารสั่งชุดอาหารพิเศษเพิ่ม 7 ชุด และส่ง QR Code มาให้ร้านแอด และบอกว่าจ่ายเงินเพิ่มให้ภายหลัง และอ้างด้วยว่าเป็น QR Code แอดไลน์เท่านั้น แต่เมื่อแสกน QR Code พบว่า หน้าจอค้างเจ้าของโทรศัพท์จึงรีบเข้าแอปฯ ธนาคาร เพื่อโอนเงินออกไปบัญชีอื่นก่อน และปิดเครื่อง จึงขอประชาสัมพันธ์ให้ตรวจสอบแหล่งที่มาของ QR Code ให้ดีก่อนที่จะ Scan หรือโอนเงิน
เรื่องที่ 3 คดีกลรักออนไลน์(Romance Scam) ถูกหลอกซ้ำซ้อน คือหลอกให้โอนเงิน 2 ครั้ง และหลอกให้ผู้เสียหายเปิดบัญชีม้าโดยไม่รู้ตัว เรื่องนี้คนร้ายได้ติดต่อพูดคุยกับผู้เสียหายทาง Facebook จากนั้นอ้างว่าอยากจะมาอยู่เมืองไทยมาใช้ชีวิตคู่กับผู้เสียหาย และส่งสินค้ามีค่ามาให้ โดยให้ผู้เสียหายโอนเงินชำระภาษี ถือเป็นการหลอกให้โอนเงินรอบแรก จากนั้นจะหลอกว่าต้องการทำธุรกิจร่วมกับผู้เสียหาย แล้วให้ผู้เสียหายเปิดบัญชีไว้สำหรับการลงทุน จากนั้นคนร้ายได้หลอกผู้เสียหายคนที่ 2 และให้โอนเงินเข้าบัญชีผู้เสียหายคนแรก และให้ผู้เสียหายคนแรก ซื้อเหรียญคลิปโตให้คนร้าย ทำให้ผู้เสียหายคนแรกกลายเป็นผู้ต้องหาในคดี
พล.ต.ท.สมพงษ์ เตือนไปยังผู้ร่วมก่อเหตุว่า ฐานความผิด อัตราโทษเปดหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝาก(บัญชีมาหรือซิมม้า) โดยรูหรือควรรูวาจะนําไปใชในการกระทําความผิด มีโทษจําคุกไมเกิน 3 ป ปรับไมเกิน 300,000 บาท หรือ ทั้งจําทั้งปรับ เปนธุระ จัดหา โฆษณา หรือไขขาว เพื่อใหมีการ ซื้อขายบัญชี (บัญชีมาหรือซิมม้า) เพื่อใชในการกระทําความผิดจําคุกตั้งแต 2 ถึง 5 ป ปรับตั้งแต 200,000 ถึง 500,000 บาท หรือทั้งจําทั้งปรับเปนธุระ จัดหา โฆษณา หรือไขขาว เพื่อใหมีการ ซื้อขายหมายเลขโทรศัพทซึ่งลงทะเบียนในนามบุคคลอื่นแลว แตไมสามารถระบุตัวผูใชจริงได จําคุกตั้งแต 2 ถึง 5 ป ปรับตั้งแต 200,000 ถึง 500,000 บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
รัฐบาลเร่งพัฒนาแพลตฟอร์ม สกัดมิจฉาชีพโทร-ส่งข้อความหลอกลวง คาดพร้อมใช้ต้นปี 68
นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลเดินหน้าแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์มิจฉาชีพ และอาชญากรรมข้ามชาติ เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประชาชน
ลุ้นระทึก!ที่ประชุมใหญ่ศาลปกครองสูงสุดถก ปมคดี 'บิ๊กโจ๊ก' ถูกให้ออกจากราชการ
ที่ศาลปกครองกลาง ถนนเเจ้งวัฒนะ นายประสิทธิ์ศักดิ์ มีลาภ ประธานศาลปกครองสูงสุด เป็นประธานการประชุมใหญ่ศาลปกครองสูงสุด
คุก! ศาลไม่ให้ประกัน 'เมียตั้ม ษิทรา' หวั่นหลบหนี
ที่ ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก พนักงานสอบสวนกองปราบปรามนำตัวนายษิทธา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม อายุ 44 ปี ผู้ต้องหาที่ 1 ข้อหา ฉ้
เผยแจ้งความออนไลน์ 1 มี.ค 65 - 31 ต.ค. 67 เฉลี่ยเสียหายวันละ 7.7 ล้านบาท
'รองโฆษกรัฐบาล' เผยสถิติแจ้งความออนไลน์ ตั้งแต่ 1 มี.ค 65 – 31 ต.ค.67 มูลค่าความเสียหายรวม 7.48 หมื่นล้านบาท เฉลี่ย 77 ล้านบาทต่อวัน
'ทนายตั้ม' โผล่ฉายหนังคนละม้วน อ้างปมเงิน 39 ล้านค่าศิลปินจีน เป็นมิจฉาชีพหลอก 'เจ๊อ้อย'
ที่กองบังคับการปราบปราม นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ "ทนายตั้ม" เข้าพบพนักงานสอบสวน ที่ถูกน.ส.จตุพร อุบลเลิศ หรือ เ
ตำรวจสอบสวนกลาง CIB ผสานพลัง AIS ยกระดับเดินหน้าภารกิจปกป้องประชาชน เปิดบริการ *1185# แจ้งอุ่นใจ ตัดสายโจร กดแจ้งเบอร์โทรมิจฉาชีพได้ทันที หลังวางสาย
ตำรวจสอบสวนกลาง CIB จับมือ AIS ยกระดับการปกป้องลูกค้า และ ประชาชน จากมิจฉาชีพต่อเนื่องไปอีกขั้น เปิดตัวบริการ *1185# แจ้งอุ่นใจ ตัดสายโจร