21 มี.ค.2566- ที่ศาลปกครอง นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. พรรคพลังประชารัฐ เดินทางมาร้องต่อศาลปกครองสูงสุด เนื่องจากเห็นว่าการเสนอพระราชกฤษฎีกายุบสภาไม่ชอบด้วยอำนาจหน้าที่ แม้การยุบสภาเป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรี แต่รัฐธรรมนูญบัญญัติว่าการตราพระราชกฤษฎีกายุบสภาต้องมีเหตุการณ์ การที่รัฐธรรมนูญบัญญัติเช่นนี้เพราะมีเหตุผล การคืนอำนาจให้ประชาชนไปสิทธิเลือกตั้งโดยใช้คำว่าโดยเร็ว ยุบสภามีผล 20 มีนาคม และสภาจะครบวาระวันที่ 23 มีนาคม ซึ่งห่างกันเพียง 3 วัน ทั้งนี้หากยุบสภาจะต้องเลือกตั้งภายใน 45- 60 วัน แต่ถ้าสภาครบวาระต้องเลือกตั้งภายใน 45 วัน อะไรเร็วกว่าประชาชนคงทราบ เหตุที่อ้างต้องการให้ประชาชนเลือกตั้งโดยเร็ว ส่วนตัวไม่เห็นด้วยจึงต้องมาร้องต่อศาลปกครองสูงสุด เพราะอยู่ในอำนาจของศาลปกครองในการพิจารณาเรื่องพระราชกฤษฎีกา ดังนั้นเหตุผลที่นายกรัฐมนตรีอ้างว่าต้องการคืนอำนาจให้กับประชาชนไม่ใช่แน่นอน
นายเรืองไกร ยังกล่าวต้องขออภัยนายกฯและรองนายกรัฐมนตรี วิษณุ จำเป็นต้องร้องจริงๆ แต่ศาลจะพิพากษาของอย่างไรเป็นดุลพินิจของท่าน ซึ่งตนเห็นว่ามีนัยยะที่จะเอื้อประโยชน์ให้กับพรรคการเมืองที่นายกฯไปสมัครเป็นสมาชิกพรรค ท่านเองสมัครตั้งแต่ 9 มกราคม ก็ควรจะรู้อยู่แล้วว่าถ้ายุบสภาท่านจะได้ประโยชน์ จากการย้าย ส.ส. จากพรรคนั้นเข้าพรรคนี้ ฉะนั้นการยุสภามีเหตุผลเดียวที่น่าจะเป็นเหตุผลหลักก็คือต้องการให้ผู้สมัคร หรือ ว่าที่ผู้สมัคร หรืออดีต ส.ส.ย้ายพรรคให้สั้นลง จาก 90 วันเหลือ 30 วัน เหตุผลตรงนี้ถือว่าไม่สุจริต เป็นไปโดยไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญและเป็นการกระทำที่อาจจะขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา 5 ด้วย ดังนั้นจึงต้องให้ศาลพิจารณาว่าพระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ควรจะระงับยับยั้งหรือไม่ ถ้าระงับหรือเพิกถอนไป อีก 3 วัน หรือ 2 วันนับจากนี้ นายกฯและ กกต.ก็ต้องรีบตราพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้ง ส.ส.เป็นการทั่วไป การเลือกตั้งก็จะจัดภายใน 45 วัน เร็วกว่ายุบสภา
“เหตุผลที่ท่านบอกมา มองเป็นอย่างอื่นไมได้เลย ตัวท่านเองก็หวังว่าพรรคที่ท่านไปสังกัดจะเสนอท่านเป็นบัญชีนายกรัฐมนตรี ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญตีความว่าอยู่ได้อีก 2 ปี ท่านคงมีประโยชน์ส่วนตนอยู่ตรงนี้ด้วย ดังนั้นท่านก็จะแสวงหาการที่อยู่ในบัญชีนายกฯ และมีสิทธิให้รัฐสภาเลือกอีกครั้ง พรรคของท่านต้องมี ส.ส.25 คนขึ้นไป ผมมองเห็นเจตนาชัด เข้าใจได้” นายเรืองไกร พร้อมระบุว่าได้ขอให้ศาลไต่สวนฉุกเฉินท้ายคำฟ้อง และขอให้คำสั่งบังคับให้งดใช้พระราชกฤษฎีกายุบสภา
เมื่อถามว่านายกฯ เคยระบุว่า จะใช้วิธียุบสภา เพื่อช่วยพรรคอื่นๆ ในเรื่องเวลาสังกัดพรรค นายเรืองไกร กล่าวว่า ไม่น่าจะใช่เหตุ นายกฯ ควรจะบอกตรงๆ ว่าเพื่อประโยชน์ของพรรครวมไทยสร้างชาติที่สังกัด วันนี้สมาชิกของพรรคต่างๆก็ย้ายพรรคกัน และอย่าอ้างเพื่อช่วยพรรคการเมืองขนาดเล็ก แต่เหตุที่แท้จริงคือวันนี้ท่านอยากอยู่ต่อ ทำแล้วทำต่อ ทำอีก อะไรของท่าน แต่เหตุผลในการตรากฎหมายพอเห็นคำว่าโดยเร็ว มันสะดุด คำว่าโดยเร็ว 45-60 วัน เร็วกว่าภายใน 45 วันได้อย่างไร .
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
นักเขียนค่ายผู้จัดการ มองทางเลือก ‘ทักษิณ’ ยุบสภาล้างไพ่ใหม่ เหตุมั่นใจกระแส ’อิ๊งค์-ตัวเอง’
ทักษิณโชว์ร่วมก๊วนกอล์ฟอนุทิน โดยมีเจ้าสัวพลังงานร่วมด้วย โดยสื่อบอกว่าสยบรอยร้าว2พรรค ซึ่งจริงๆแม้ 2 พรรคจะขบเหลี่ยมทิ่มแทงกันบ้าง ก็ไม่ใช่เป้าหมายที่ทักษิณขู่ฟอด
ดร.ณัฏฐ์ ชี้ชัด 'ประชามติชั้นเดียว' แค่ยกแรก 'แก้รธน.ทั้งฉบับ' เจอด่านหิน-นโยบายขายฝัน!
“ดร.ณัฏฐ์” มือกฎหมายมหาชน ชี้ กลไกแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับผ่านด่านหินยาก แม้เพื่อไทยใช้เทคนิคช่องทางพ้น 180 วัน ผ่านร่าง พรบ.ประชามติ เป็นเพียงนโยบายในฝัน
ศาลปกครองสูงสุด ออกแถลงการณ์ยกคำร้อง 'บิ๊กโจ๊ก' ปิดฉากคัมแบ็กตำรวจ
ศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งในคดีหมายเลขดำที่ ฟ.117/2567 ระหว่าง พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ฟ้องคดี ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่ 1 คณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ ที่ 2
จับสัญญาณยุบสภา! 'ทักษิณ' ตบะแตก ผลักการเมืองไทยสู่จุดพลิกผัน
นายไพศาล พืชมงคล นักกฎหมาย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า การเมืองไทยมาถึงจุดพลิกผัน ก้าวสู่หนทางยุบสภา
เรืองไกร ไล่บี้นายกฯทวงหลักฐานการลาออกจากตำแหน่งกรรมการบริษัท
เรืองไกร ทวงข้อมูลหลักฐานการลาออกจากตำแหน่งกรรมการบริษัทต่าง ๆ จากนายกรัฐมนตรี
'บิ๊กอ้วน' ชี้ 'สนธิ' แค่หนึ่งเสียงการบริหารประเทศไม่ควรโฟกัสแค่คนคนเดียว!
'ภูมิธรรม' ยังไม่เห็นข้อเรียกร้อง 'สนธิ' บอกเป็นแค่ความเห็นหนึ่งต้องรับฟังทุกฝ่าย เปรียบเหมือนมองปี๊บหนึ่งใบ ต้องมองให้รอบด้าน ไม่หมิ่นประมาทม็อบจุดติดหรือไม่