ตำนาน 3 ป. ตอน 2 เปิดที่มา 'บ้านป่ารอยต่อฯ'

17 มี.ค. 2566 – นายไพศาล พืชมงคล นักกฎหมาย และอดีตกรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า 3 ป. ในตำนาน (2) เรื่องป่ารอยต่อ

1.ในวงการทหารและการเมืองของประเทศไทย ทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องย่อมได้ยินได้ฟังเรื่องป่ารอยต่อ 5 จังหวัดอยู่เสมอๆ รวมทั้งชื่อมูลนิธิป่ารอยต่อและสถานที่อันเป็นที่ทำการของมูลนิธิป่ารอยต่อฯ ซึ่งรู้กันทั่วไปว่าที่นี่เป็นสำนักของลุงป้อมที่ใช้ปฏิบัติหน้าที่ทั้งทางทหารการเมืองและบ้านพักในระหว่างเวลาทำงาน

เรื่องราวเป็นมาอย่างไรเกี่ยวข้องกับ 3 ป.อย่างไร ย่อมเป็นที่สนใจของผู้ใฝ่รู้ทั่วกัน

2.พื้นที่ป่ารอยต่อ 5 จังหวัดคาบเกี่ยวทั้งภาคตะวันออก ภาคอีสานและบางส่วนของภาคกลาง เป็นผืนป่าผืนใหญ่ที่สุด

ในยุคลุงป้อมเป็นผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 21รักษาพระองค์ ตกอยู่ในความเสี่ยงที่จะถูกตัดไม้ทำลายป่าจนราบเรียบเหมือนแทบทุกพื้นที่ในประเทศไทย ซึ่งจะก่อเกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติครั้งใหญ่ทั้งในภาคอีสานภาคตะวันออกและภาคกลางด้วย

สมเด็จพระพันปีหลวง ในรัชกาลปัจจุบัน ทรงทราบสภาพอย่างดีและลึกซึ้งมากเป็นที่อัศจรรย์ แสดงถึงน้ำพระทัยรักแผ่นดินของพระองค์ท่าน และความผูกพันในผืนแผ่นดินนี้อันเป็นที่ซึ่งพสกนิกรของพระองค์ได้ใช้เป็นที่อยู่ที่กินและเรือนตาย

จึงทรงมีรับสั่งหาลุงป้อมให้เข้าเฝ้าฯ รับพระราชทานพระราชเสาวณีย์ให้ลุงป้อมรับหน้าที่พิทักษ์รักษาผืนป่ารอยต่อ 5 จังหวัดมิให้เสื่อมโทรมไปกว่าที่เป็นอยู่ และให้หาทางบำรุงฟื้นฟูให้เป็นผืนป่าที่อุดมสมบูรณ์ที่สุดของประเทศชาติ เพื่อให้ดินฟ้าอากาศของบ้านเมืองเป็นปกติสุข แล้วทรงรับสั่งถามว่าจะทำให้สำเร็จได้หรือไม่

ลุงป้อมกราบน้อมรับพระราชเสาวณีย์ ที่จะทำการให้สำเร็จตามพระราชประสงค์ให้จงได้ ทรงรับสั่งย้ำว่าให้ทำเรื่องนี้ต่อไปตราบที่ยังสามารถทำได้ ลุงป้อมก็กราบถวายเป็นคำสัตย์ที่จะสนองพระราชเสาวนีย์ไปตลอดชีวิต

หลังจากนั้นลุงป้อมก็ทุ่มเทใช้กำลังทหารกำลังกึ่งทหารและเจ้าหน้าที่ป่าไม้ อุทยานเข้าทำการปกป้องรักษาผืนป่ารอยต่อทั้ง 5 จังหวัดและช่วยกันฟื้นฟูจนเป็นผืนป่าที่อุดมสมบูรณ์ที่สุดของประเทศผืนเดียวในขณะนี้

และเพื่อปฏิบัติตามรับสั่งให้ยั่งยืนสืบไปในเบื้องหน้า ลุงป้อมจึงตั้งเป็นมูลนิธิป่ารอยต่อ เป็นแกนความร่วมมือภาครัฐและภาคธุรกิจมาร่วมด้วยช่วยกัน

งานนี้ จึงเป็นงานถาวรที่ลุงป้อมจะต้องทำถวายจนกระทั่งทำไม่ได้นั่นแหละ

ชีวิตของลุงป้อมจึงผูกพันและหวงแหนป่ารอยต่อ 5 จังหวัด และเป็นความภาคภูมิใจของลุงป้อมมากที่สุดในชีวิต

ภาระหน้าที่นี้ได้ทำให้ลุงป้อมกับเจ้าหน้าที่ป่าไม้และอุทยานทั้งประเทศ มีความไว้วางใจสนิทสนมและร่วมกันทำงานถวายอย่างต่อเนื่องและลึกซึ้งมาจนถึงวันนี้

ศึกสองสายในกรมอุทยานแห่งชาติอันลือลั่น เบื้องหลังแท้จริงก็คือศึกที่สายหนึ่ง ซึ่งอยู่ในเครือข่ายพิทักษ์รักษาป่ารอยต่อฯ ไม่อาจยอมทนต่อการข่มเหงรีดนาทาเล้นชนิดรีดเลือดกับปูของอีกสายหนึ่งได้อีกต่อไป จึงเกิดเป็นข่าวใหญ่ดังที่รู้กันนั่นแหละ!!!!

ช่วงที่ผมเป็นผู้ช่วยรัฐมนตรี วันหนึ่งนั่งกินข้าวเหนียวไก่ย่างกัน ผมก็แอบถามว่า ชีวิตพี่ป้อมนี่มีอะไรเป็นความภาคภูมิใจที่สุดของ ลุงป้อมก็บอกว่าคือการทำงานถวายเรื่องป่ารอยต่อ 5 จังหวัด ที่พระองค์ท่านไว้วางพระราชหฤทัย ก็จะตั้งใจทำถวายให้ดีที่สุดจนตลอดชีวิต

บ้านป่ารอยต่อฯ ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ฝ่ายทหารนั้น จึงไม่ใช่สำนักงานส่วนตัวของลุงป้อม แต่เป็นของหลวง เพื่อทำงานหลวง และที่นั่นก็อย่าได้แปลกใจถ้าหากได้เห็นเจ้าหน้าที่อุทยานและป่าไม้ไปมาอยู่ตลอด

ติดตามต่อไป ตอนเส้นทางอำนาจ ป.ป้อม.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'บิ๊กป้อม' เมินร่วมวง 'ดินเนอร์ฝ่ายค้าน' แค่ส่งตัวแทน พปชร.

นายไพบูลย์ นิติตะวัน เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงกรณีผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ได้นัดแกนนำพรรคร่วมฝ่ายค้านรับประทานอาหารเย็น ในวันพุธที่ 18 ธ.ค.นี้

'ชัยวุฒิ' ยก 'บิ๊กป้อม' สุภาพบุรุษ ขับก๊วนธรรมนัส เหมือนหย่าเมีย

'ชัยวุฒิ' ยกย่อง 'บิ๊กป้อม' สุภาพบุรุษ เปรียบขับ 20 สส.ก๊วนธรรมนัส พ้นพรรค เหมือนผัวเมียไม่รักแล้วหย่ากัน จบด้วยดี ยืนยัน พปชร. ไม่แตกแยก พร้อมทำหน้าที่ฝ่ายค้านเพื่อ ปชช.

ปูด 3 บอส กำจัด 'บิ๊กป้อม' พ้นวงจรการเมือง-จ้องขโมย สส.

นายไทกร พลสุวรรณ แกนนำคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊กไลฟ์ถึงขบวนการกำจัดพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) พ้นจากการเมือง ว่ามี 3 บุคคล คือ 1.ผู้นำสูงสุดของพรรคเพื่อไทย