'ดร.อานนท์' ข้องใจจะเขียนเหตุผลอะไรในพระราชกฤษฎีกายุบสภา

'ดร.อานนท์' สุดมึนบอกรอติดตามอ่านพระราชกฤษฎีกาด้วยใจจดจ่อ เนื่องจากไม่รู้ว่าจะอ้างเหตุผลอะไรมายุบสภา เพราะปิดไปแล้ว ความขัดแย้งก็ไม่มี ทำไมไม่ปล่อยให้หมดวาระ

16 มี.ค.2566 - ผศ.ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ อาจารย์ประจำคณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า ผมมีความสงสัยว่าจะเขียนเหตุผลอย่างไรในพระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎร เพราะสภาผู้แทนราษฎรก็ปิดไปแล้ว ความขัดแย้งอะไรก็จบไปหมดแล้ว กฎหมายอะไรสำคัญที่จะไม่ผ่านก็ไม่ผ่านไปหมดแล้ว ปกติจะยุบสภาผู้แทนราษฎรได้ต้องมีเหตุผลและมีวิกฤติหรือความขัดแย้งพอสมควร
ผมเลยสงสัยในใจว่าจะเขียนเหตุผลในการยุบสภาผู้แทนราษฎรว่าอย่างไร ก่อนนำไปขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ผมเดาว่า อาจารย์วิษณุ เครืองาม คงมีความสามารถมากมายที่จะเขียนเหตุผลในการยุบสภาผู้แทนราษฎรได้

ที่ต้องยุบสภา ปล่อยให้หมดอายุตามวาระไม่ได้ก็เพราะเงื่อนไขย้ายพรรค 90 วัน จะไม่ทันกัน นี่ถ้ายุบสภาย้ายพรรคใน 60 วันทำได้ เลยต้องพยายามยุบสภาเพื่อต้อน ส.ส. หรือซื้อ ส.ส.เข้าคอก เข้ามุ้งกันใช่หรือไม่ แต่จะเขียนเหตุผลแบบนี้ก็ไม่ได้เป็นการทำเพื่อบ้านเมือง

หรือว่าจะมีพรรคร่วมรัฐบาลเล่นใหญ่ รัชดาลัยเธียเตอร์ ประกาศถอนตัวจากการเข้าร่วมรัฐบาลเพื่อให้รัฐบาลมีเหตุผลจะเขียนในการยุบสภาผู้แทนราษฎร

เอาเป็นว่าผมรอฟังเหตุผลในการยุบสภาผู้แทนราษฎรของจริงที่เขียนในพระราชกฤษฎีกาก็แล้วกันครับ จะได้มีความรู้เพิ่มขึ้นว่าจะให้เหตุผลอย่างไร และจะเขียนว่าอย่างไร

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

นายกฯ พยักหน้ารับเตรียมพระราชกฤษฎีกายุบสภารอไว้แล้ว!

'อนุทิน' ย้ำร่าง พ.ร.ฎ.ยุบสภารอไว้แล้ว แต่ยุบหรือไม่ต้องประเมินสถานการณ์ พร้อมสวนพวกหลุดจากตำแหน่ง ทำใจไม่ได้ หลังแซะภาพเปิดตัวผู้สมัคร สส. ขัดสถานการณ์แก้ปัญหาชายแดน

นิด้าโพลเผยคนภาคกลางหนุน ‘เท้ง’ นั่งนายกฯเหนือ ‘อนุทิน’

ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลการสำรวจ เรื่อง “กระแสการเมือง ภาคกลาง” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 10 - 13 พฤศจิกายน 2568 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป และมีสิทธิเลือกตั้งในภาคกลาง (จำนวน 17 จังหวัด ประกอบด้วย

นิด้าโพลเช็กกระแสคนภาคเหนือ หนุน ‘เท้ง’ นั่งนายกฯ นำห่างอนุทิน

ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลการสำรวจ เรื่อง “กระแสการเมือง ภาคเหนือ” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 30 ตุลาคม - 4 พฤศจิกายน 2568 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป และมีสิทธิเลือกตั้งในภาคเหนือ (จำนวน 17 จังหวัด ประกอบด้วย เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ลำปาง ลำพูน เชียงราย น่าน พะเยา แพร่ ตาก พิษณุโลก เพชรบูรณ์ สุโขทัย อุตรดิตถ์ กำแพงเพชร นครสวรรค์ พิจิตร และอุทัยธานี