ผบ.ตร. ยันไม่มีการช่วยเหลือ ส.ว.ดัง รับเรียกชุดทำคดีเข้ามาสอบถามรายละเอียด

14 มี.ค. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงความคืบหน้าในการดำเนินคดีกับสมาชิกวุฒิสภาชื่อดังรายหนึ่ง หรือ สว.ทรงเอ กรณีการตกเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีเครือข่ายยาเสพติดทุนมินลัต หลังจากที่นายรังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคก้าวไกล ไปติดตามความคืบหน้าคดีดังกล่าวที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ว่า หลังจากมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจและมีการเปิดเผยข้อมูลเอกสารคำชี้แจงของตำรวจที่ไปขอหมายจับในคดีดังกล่าว ได้เรียกตำรวจชุดที่ทำคดีในปัจจุบันมาสอบถามถึงข้อเท็จจริงและรายละเอียดต่างๆ ว่ามีการดำเนินการไปถึงขั้นใดอย่างไรบ้าง พร้อมยังกำชับให้กองบังคับการตำรวจปราบปรามยาเสพติด 3 และอัยการสูงสุดประสานข้อมูลการทำคดีและเปิดเผยข้อมูลเท่าที่สามารถทำได้เพื่อทำความเข้าใจให้กับประชาชนและสื่อมวลชนได้รับทราบไปในทิศทางเดียวกัน โดยยืนยันว่าคดีดังกล่าวไม่ได้มีการให้การช่วยเหลือผู้ต้องสงสัยรายดังกล่าว

ส่วนกรณีที่เมื่อวานนี้ (13 มี.ค.) ส.ส. รังสิมันต์ โรม ตั้งข้อสังเกตว่าคดีดังกล่าวมีการดำเนินการทางคดีโดยไม่มีการออกหมายเรียกหรือหมายจับนานจนเกินไป จนอาจทำให้มีผลต่อรูปคดี พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า ไม่สามารถไปวิพากษ์วิจารณ์หรือก้าวล่วงได้ว่าการทำงานของอัยการ และตำรวจที่ทำคดีช้าเกินไปหรือไม่ แต่จากการตรวจสอบข้อมูลทางคดีทราบว่าคดีนี้จำเป็นต้องมีการตรวจสอบเส้นทางการเงินและบัญชีทั้งในและต่างประเทศมากกว่า 500 บัญชี และต้องแปลเอกสารจำนวนมากกว่า 1,000 หน้า ซึ่งเป็นของกลุ่มผู้ต้องหาพูดคุยกับผู้ต้องสงสัย ตามที่ สว. คนดังกล่าวได้ร้องขอความเป็นธรรมต่อสำนักงานอัยการสูงสุดและได้รับมอบหมายให้มาตรวจสอบเรื่องดังกล่าว จึงทำให้ไม่สามารถออกหมายเรียกหรือหมายจับได้ในขณะนี้ ส่วนการดำเนินการดังกล่าวจะล่าช้าเกินไปหรือไม่นั้น ได้สั่งการให้ชุดจเรตำรวจและคณะกรรมการตรวจสอบดูในรายละเอียดเรื่องนี้แล้ว

สำหรับกรณีที่ ส.ส.รังสิมันต์ โรม กล่าวถึงกรณีที่มีตำรวจยศระดับสูง นอกราชการ ซึ่งมีชื่อขึ้นต้นด้วย ส. เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องในการตัดข้อมูลและชื่อของสว.คนดังกล่าวออกจากสำนวนคดีนี้ ผบ.ตร. กล่าวว่า รายละเอียดดังกล่าวได้ให้คณะกรรมการตรวจสอบเรื่องนี้อย่างละเอียดด้วยว่าตำรวจนายนี้เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่

เมื่อถามต่อว่าจำเป็นต้องเรียกตำรวจระดับสูงเข้ามาให้ข้อมูลกับทางจเรตำรวจหรือคณะกรรมการหรือไม่ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า อยู่ระหว่างให้จเรตำรวจดำเนินการ

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

‘ผบ.ตร.’ สั่งตำรวจเข้มงวดดูแลชีวิตและทรัพย์สินประชาชนช่วงปีใหม่

"ผบ.ตร."กำชับมาตรการเข้ม ดูแลชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน ช่วงเทศกาลคริสต์มาส -ปีใหม่ ระดมกวาดล้างอาชญากรรม ลดอุบัติเหตุฟัน 10 ข้อหาหลัก

'สันธนะ' หอบหลักฐานเด็ดให้ 'บิ๊กต่าย' มัดคนฆ่า สจ.โต้ง ไม่ใช่ 'โกทร'

นายสันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตตำรวจสันติบาล พร้อมทีมงาน ประสานเข้าพบ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.)

'บิ๊กต่าย' ยันไม่ได้ลอยตัว ปม ป.ป.ช. รับไต่สวนจนท.รัฐ เอื้อทักษิณนอนชั้น 14 พร้อมทำตามกฎหมาย

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ( ผบ.ตร.) เปิดเผยกรณีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ  ป.ป.ช. มีมติให้ตั้งองค์คณะไต่สวนเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์และแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ รวม12 ราย

ผบ.ตร. เซ็นโอนคดี 'สจ.โต้ง' ให้กองปราบแล้ว ผลนิติวิทยาศาสตร์เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาจิ (ผบ.ตร.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้เซ็นโอนคดี นายชัยเมศร์ สิทธิสนิทพงศ์ หรือ สจ.โต้ง ถูกยิงเสียชีวิตในบ้านพักของ นายสุนทร วิลาวัลย์  หรือ โกทร  อายุ 86 ปี นายก อบจ.ปราจีนบุรี

นายกฯ มอบนโยบาย ป.ป.ส. ขันนอตผู้ว่าฯทั่วประเทศ เป็น 'ซีอีโอ' ปราบยาเสพติด

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมศูนย์ปฏิบัติการติดตามเร่งรัดการบำบัดรักษา ฟื้นฟูสภาพทางสังคม ป้องกัน และปราบปรามยาเสพติด ครั้งที่ 2/2567 โดยมีพ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ

ทลายเครือข่ายค้าไอซ์ข้ามชาติ ของกลาง 483 กก. จับ 2 ผู้ต้องหารับจ้างขนผักตลาดชื่อดัง

ป.ป.ส. ร่วมภาคี 3 เหล่าทัพ ทลายเครือข่ายค้าไอซ์ข้ามชาติ จับ 2 ผู้ต้องหา ชาย-หญิง พร้อมของกลางไอซ์ 483 กิโลกรัม พฤติการณ์ปกติรับจ้างขนผักผลไม้ตลาดใหญ่ชื่อดัง