โดนอีก! 'สนธิญา' ร้องกกต. สอบ เพื่อไทย ปม 'เศรษฐา' ให้ประชาชนรับเงินซื้อเสียง

14 มี.ค.2566- นายสนธิญา สวัสดี อดีตที่ปรึกษากรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร เข้ายื่นคำร้องต่อกกต.ขอให้ตรวจสอบการจัดปราศรัยของพรรคเพื่อไทย ที่จ.พิจิตร เมื่อวันที่ 11 มี.ค. ที่ผ่านมา รวมถึงคำปราศรัยของนายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ว่าเข้าข่ายผิดกฎหมายเลือกตั้งหรือไม่

โดยนายสนธิญา กล่าวว่า ในการปราศรัยที่จ.พิจิตร พบว่าประชาชนนับหมื่นคนที่มาร่ามฟังปราศรัย ต่างสวมเสื้อสีแดง ที่สกรีนข้อความเดียวกัน แตกต่างจากเวทีปราศรัยของพรรคการเมืองอื่น ที่จะพบว่าประชาชนไปที่ไปร่วมฟังต่างสวมเสื้อหลากสี จึงมีคำถามว่าคนต่างจังหวัดที่ทำนา ทำไร จะมีกำลังทรัพย์นำเสื้อไปสกรีนและใส่เข้าร่วมฟังการปราศรัยเหมือนกันทั้งหมดเป็นไปได้หรือ หรือเป็นการให้ เพื่อจูงใจหรือไม่ จึงต้องการให้กกต.ตรวจสอบ

นอกจากนี้ยังพบว่าในการปราศรัย วันดังกล่าว นายเศรษฐา กล่าวตอนหนึ่งขณะปราศรัยว่า “ถ้ามีการแจกเงินก็ได้ให้รับไปจะกาเบอร์นั้นหรือไม่อย่างไรก็แล้วแต่ แต่ในส่วนของพรรคเพื่อไทยจะใช้นโยบายเป็นหลัก “ คำกล่าวนี้เข้าข่ายเป็นการส่งเสริมให้เกิดการเลือกตั้งที่ไม่สุจริต เที่ยงธรรมหรือไม่ จึงต้องนำ 2 ประเด็นนี้มาร้องให้กกต.ตรวจสอบเพราะไม่ต้องการให้การเลือกตั้งเกิดความไม่สุจริต เที่ยงธรรม

เมื่อถามว่าจะมีการร้องเรื่องการแจกเสื้อของพรรครวมไทยสร้างชาติในการปราศรัยหรือไม่ นายสนธิญา กล่าวว่า ที่ตนร้องพรรคเพื่อไทย ไม่ได้ร้องว่าพรรคแจกเสื้อ เพียงแต่ตั้งข้อสังเกตว่าตั้งแต่ก่อนมีการเปิดตัวพรรครวมไทยสร้างชาติ การปราศรัยของพรรคเพื่อไทย ประชาชนที่มาฟังต่างสวมเสื้อสีแดง ไม่มีสีอื่นเลย และตรวจสอบการสกรีน ก็พบว่าเป็นข้อความเดียวกัน จึงต้องการให้กกต. กลางสั่งไปยังกกต.จังหวัดเพื่อดำเนินการตรวจสอบ เพราะตนไม่เชื่อว่าคนเป็นหมื่นคนอยู่บ้านนอกจะเอาเสื้อหนึ่งตัวไปสกรีนแล้วใส่มา นอกจากได้รับแจก ซึ่งถ้าเกิดขึ้นกับพรรคอื่น ตนก็จะยื่นตรวจสอบเช่นกัน เพราะที่ทำไม่ได้มีความแค้นเคืองอะไรเป็นพิเศษกับพรรคเพื่อไทย

ทั้งนี้การยื่นคำร้องครั้งนี้นายสนธิญา ยังได้นำความเห็นนักกฎหมายมหาชนที่เห็นว่า นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย ซึ่งถูกตัดสิทธิทางการเมือง ไม่สามารถดำรงตำแหน่งผู้ช่วยหาเสียงได้ มามอบเป็นหลักฐานเพิ่มเติมให้กับกกต.กรณีเมื่อวันที่ 7 มี.ค. ตนเองได้มายื่นร้องต่อกกต.ขอให้ดำเนินการตรวจสอบพรรคเพื่อไทยว่ากระทำการเข้าข่ายขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 258 ที่กำหนดให้พรรคการเมืองต้องคัดเลือกคนที่มีความรู้ความสามารถเข้ามาดำรงตำแหน่งทางการเมือง แต่นายณัฐวุฒิเป็นผู้ถูกตัดสิทธิทางการเมือง พรรคจึงไม่ควรนำมาเกี่ยวข้องหรือทำงานกับพรรค อย่างไรก็ตามกรณีนี้ หากกกต.เห็นว่าการนายณัฐวุฒิไม่สามารถยุ่งเกี่ยวกับพรรคการเมืองได้ สิ่งที่นายณัฐวุฒิไปช่วยพรรคเพื่อไทยหาเสียงก็จะทำให้พรรคเพื่อไทยเข้าข่ายต้องถูกยุบพรรค เพราเหตุให้บุคคลซึ่งมิใช่สมาชิกพรรค ชี้นำ ครอบงำ ตามมาตรา 28,29 พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง

เมื่อถามว่านายณัฐวุฒิ ยืนยันว่าเป็นผู้มีสิทธิเลือกตั้ง นายสนธิญา กล่าวว่า ส่วนตัวยังเห็นว่าเมื่อนายณัญวุฒิ ถูกตัดสิทธิทางการเมือง ก็ไม่สามารถมีสิทธิเลือกตั้ง หรือลงประชามติได้ ซึ่งกกต.ควรจะทำเรื่องนี้ให้ชัดเจน หากไม่สามารถวินิจฉัยได้ควรส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเพื่อให้ได้กรอบในการปฏิบัติว่า สิ่งที่ไหนที่คนถูกตัดสิทธิทางการเมืองทำได้หรือไม่ได้

อย่าไงรก็ตามนายสนธิญา ยังระบุว่าได้รับหนังสือจากกรรมการไต่สวนของกกต.ให้มาให้ถ้อยคำกรณีที่ได้ยื่นร้องขอให้กกต.พิจารณาสั่งยุบพรรคเพื่อไทยจากเหตุน.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย เกิดทางไปพบนายทักษิณ ชินวัตรที่ฮ่องกง ว่าเข้าข่ายให้บุคคลอื่นที่ไม่ใช่สมาชิกพรรคชี้นำ ครอบงำ พรรค.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

นายกฯอารมณ์ดี บอกลงภูเก็ตพรุ่งนี้ ดูปัญหาน้ำท่วม ดินสไลด์ สนามบิน

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เดินทางออกจากอาคารรัฐสภา โดยนายกฯกล่าวกับผู้สื่อข่าวอย่างอารมณ์ดีว่า วันที่ 5 ก.ค. จะเดินทางไปปฏิบัติราชการที่จังหวัดภูเก็ต ไปตรวจดูเรื่องของดินสไลด์ ถนน และสนามบิน

'บิ๊กต่อ' บอกปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการ ปม 'โจ๊ก' ฟ้องนายกฯผิด ม.157

พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร. ไปยื่นต่อ ป.ป.ช.เอาผิดนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กรณีแต่งตั้ง พล.ต.อ.ต่อศักดิ์เป็น ผบ.ตร. โดย พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ยิ้มพร้อมป

'เศรษฐา' ลั่นพร้อมตอบกระทู้สภา ไม่เคยหนี บอกเทียบกับนายกฯคนอื่น ตัวเองโอเคแล้ว

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าร่วมการประชุมสภาผู้แทนราษฎร สมัยประชุมสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง พ.ศ. 2567 โดยนายกฯให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าร่วมการประชุมกรณี นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส