“เรืองไกร” ร้อง “บิ๊กตู่-ครม.” ตรวจสอบสัญญาโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว หลัง ป.ป.ช.มีมติแจ้งข้อกล่าวหาจำนวน 13 ราย “สุขุมพันธุ์-คีรี” ร่วมด้วย
12 มี.ค.2566 – นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตสมาชิกวุฒิสภา เปิดเผยว่า วันนี้ตนเองไปส่งหนังสือด่วนที่สุดทางไปรษณีย์ EMS เพื่อขอให้นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี (ครม.) ตรวจสอบโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวว่า เป็นไปอย่างถูกต้องตามกฎหมาย และหลักการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี รอบคอบ และเป็นประโยชน์สูงสุดต่อประเทศชาติและประชาชน หรือไม่
นายเรืองไกร กล่าวว่า เมื่อวันที่ 11 มี.ค.66 ปรากฏข่าวในเว็บไซต์สื่อมวลชนต่าง ๆ มีการนำเสนอสำเนาเอกสารสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ที่ระบุข้อความไว้ส่วนหนึ่งว่า “คณะกรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะองค์คณะไต่สวน ในการประชุมครั้งที่ 1/2566 เมื่อวันที่ 10 ม.ค.66 มีมติอนุมัติให้แจ้งข้อกล่าวหาแก่ผู้ถูกกล่าวหา จำนวน 13 ราย”
นายเรืองไกร กล่าวว่า จากข่าวดังกล่าวซึ่งเป็นกรณีที่เกี่ยวกับโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ดังนั้น จึงเหตุมีที่ต้องขอให้นายกฯ และ ครม. ตรวจสอบ รถไฟฟ้าสายสีเขียว โครงการส่วนต่อขยายที่ 1 และโครงการส่วนต่อขยายที่ 2 ซึ่งจะต้องดำเนินการตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ฉบับที่ 3/2562 แต่โครงการดังกล่าวยังมีข้อโต้แย้งจาก กระทรวงคมนาคมหลายครั้งว่า เป็นไปอย่างถูกต้องตามกฎหมาย และหลักการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี รอบคอบ และเป็นประโยชน์สูงสุดต่อประเทศชาติ ตามมติ ครม. เมื่อวันที่ 8 ก.พ.65 หรือไม่
นายเรืองไกร กล่าวว่า และเนื่องจากโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว เข้าข่ายเป็นกิจการค้าขายอันเป็นสาธารณูปโภค ตามความในประกาศคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 58 ข้อ 3 (2) ซึ่งต้องได้รับอนุญาตหรือได้รับสัมปทานจากรัฐมนตรี และข้อ 11 ระบุว่า ให้กระทรวงมหาดไทยมีอำนาจและหน้าที่เกี่ยวกับกิจการรถราง ด้วย ซึ่งจากการตรวจสอบในเบื้องต้นพบว่า โครงการดังกล่าว อาจไม่ได้ปฏิบัติตามประกาศคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 58 จึงต้องให้นายกฯ และ ครม.ตรวจสอบด้วยว่า ได้รับอนุญาตหรือได้รับสัมปทานจากรัฐมนตรี ตามประกาศคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 58 โดยถูกต้องครบถ้วนหรือไม่
นายเรืองไกร กล่าวต่อว่า โครงการดังกล่าว มีเหตุต้องยุติการดำเนินการดังกล่าวตามความในคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 3/2562 ข้อ 4 หรือไม่, โครงการดังกล่าว มีการทำสัญญาหรือนิติกรรมใด ๆ โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย หรือไม่ และมีผลให้สัญญานิติกรรมใด ๆ รวมทั้งสิทธิต่าง ๆ เป็นโมฆะ หรือไม่, โครงการดังกล่าว มีเจ้าพนักงานของรัฐ หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ ผู้ใด รวมทั้งเอกชนรายใด ร่วมกระทำการหรือสนับสนุนการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ประกาศคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 58, คำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 3/2562 และมติ ครม.ที่เกี่ยวข้อง หรือไม่, โครงการดังกล่าว มีการก่อให้เกิดความเสียหายต่อรัฐ และขัดต่อวินัยการเงินการคลังของรัฐ หรือไม่
ผู้สื่อข่าวรายงาน เมื่อวันที่ 10 ม.ค. 2566 ที่ผ่านมาคณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้มีมติแจ้งข้อกล่าวหา ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ขณะดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯ กทม.) และพวก รวม 13 คน กรณีว่าจ้าง บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BTSC เดินรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย 3 เส้นทาง ไปจนถึงปี 2585 ซึ่งเป็นการหลีกเลี่ยงและไม่ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ว่าด้วยการให้เอกชนเข้าร่วมงาน หรือดำเนินการในกิจการของรัฐ พ.ศ.2535 และ พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 และเอื้อประโยชน์ให้แก่ BTSC เพียงรายเดียว ตามที่องค์คณะไต่สวนเสนอ
สำหรับผู้ถูกกล่าวหาจำนวน 13 ราย ประกอบด้วย ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ตำแหน่งผู้ว่าฯกทม., นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ ตำแหน่งรองผู้ว่าฯกทม., นายประพันธ์พงศ์ เวชชาชีวะ ตำแหน่งประธานกรรมการบริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด (เคซี),
นายอมร กิจเชวงกุล ตำแหน่งกรรมการ เคซี, นายเจริญรัตน์ ชูติกาญจน์ ตำแหน่งปลัด กทม., นางนินนาท ชลิตานนท์ ตำแหน่งรองปลัด กทม., นายจุมพล สำเภาพล ตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักการจราจรและขนส่ง กทม., นายธนา วิชัยสาร ตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักการจราจรและขนส่ง, นายกฤษณ์ เกียรติพนชาติ ตำแหน่งผู้อำนวยการกองการขนส่ง, นายคีรี กาญจนพาสน์ ตำแหน่งกรรมการบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BTSC), นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา ตำแหน่งกรรมการ BTSC, BTSC ผู้รับจ้างในโครงการบริหารจัดการระบบยนส่งมวลชนกรุงเทพมหานคร ตามสัญญาเลขที่ 1/2555 ลงวันที่ 6 ก.พ. 2555 และผู้บริหารระบบในสัญถญาการให้บริการเดินรถและช่อมบำรุงโครงการระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพมหานคร เลขที่ กร.ส. 006/2555ลงวันที่ 3 พ.ค. 2555
บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการในสัญญาการให้บริการเดินรถและซ่อมบำรุงโครงการระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพมหานคร เลขที่กร.ส…6/2555 ลงวันที่ 3 พ.ค.55
รายงานข่าวแจ้งว่า ผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 13 ราย มีข้อกล่าวหาว่า กระทำทุจริตในการทำสัญญาการให้บริการเดินรถ และซ่อมบำรุงโครงการขนส่งมวลชนกรุงเทพมหานคร ระหว่างบริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด ผู้ว่าจ้าง ในฐานะวิสาหกิจของกรุงเทพมหานคร กับ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BTSC (ในเครือ บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ หรือ BTS) ผู้รับจ้าง เมื่อวันที่ 8 พ.ค.55 ในวงเงินกว่า 190,000 ล้านบาท เพื่อเป็นการจ้างเดินรถไฟฟ้า 3 เส้นทาง ประกอบด้วย 1.ส่วนต่อขยายสายสุขุมวิท (สถานีอ่อนนุช-แบริ่ง) 2. สายสีลม (สถานีสะพานตากสิน-วงเวียนใหญ่) 3.ว่าจ้างเดินรถไฟฟ้าในเส้นทางสถานีหมอชิต-อ่อนนุช และสนามกีฬาแห่งชาติ-สะพานตากสิน ซึ่งจะหมดสัญญาสัมปทานในปี 2572 ออกไปอีก 13 ปี โดยให้สัญญาว่าจ้าง BTSC เดินรถทั้ง 3 เส้นทางดังกล่าว ไปสิ้นสุดพร้อมกันในปี 2585.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ความจริง 'ชั้น 14' ชี้ชะตา 'รัฐบาลอิ๊งค์'
นายดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม ประธานสถาบันสุจริตไทย และอดีตสมาชิกวุฒิสภา (สว.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า อายุรัฐบาลขึ้นกับความจริงบนชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ (รพ.ตร.)
'ทักษิณ-พท.' อย่าเพิ่งตีปีก! ชั้น 14 ป.ป.ช. ใกล้งวด คดีครอบงำยิ่งชัด รอ กกต. เคาะ
รศ.หริรักษ์ สูตะบุตร อดีตรองอธิการบดีฝ่ายบริหารบุคคล มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า หน้าแตกกันไปตามๆ กัน เมื่อได้ทราบผลการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญว่าไม่รับวินิจฉัยคำร้อง
เรืองไกร ร้อง กกต. วินิจฉัย 'แพทองธาร' กับ 'มาริษ' สิ้นสุดความเป็น รมต. หรือไม่?
เรืองไกร ใช้ข้อมูลอิศรา ร้อง กกต. ส่งศาล รธน. วินิจฉัยแพทองธารกับมาริษ สิ้นสุดความเป็น รมต. หรือไม่
คปท.บุกทำเนียบฯ ยื่น นายกฯ-ครม. ค้าน ‘กิตติรัตน์’ นั่งปธ.บอร์ดแบงก์ชาติ
คปท. ยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี คัดค้านการเสนอชื่อนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง เป็นประธานกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ บอร์ดแบงก์ชาติ
‘ภูมิธรรม’ มั่นใจนายกฯกลับมาประชุมตั้ง ‘เจทีซี’ เสร็จ ชงเข้าครม.19 พ.ย.ทันที
‘ภูมิธรรม’ ระบุ หากนายกฯกลับมา เรียกถก ตั้ง เจทีซี วันนี้ก็ เข้าครม.ทันพรุ่งนี้ โยน กต.เคาะรายชื่อ ลั่น เกาะกูดไม่จบซํ้ารอยเขาพระวิหารแน่ ยัน ไม่มีเหตุผลต้องยกเลิกเอ็มโอยู 44
เปิดหนังสือ ‘หมอวรงค์’ ร้อง กกต. สอบ 4 ประเด็นใหญ่ ฟัน ‘ทักษิณ’ ปราศรัยอุดรฯเข้าข่ายผิดกม.
ในการปราศรัยที่อุดรที่ผ่านมา จริงอยู่คุณมีสิทธิ์เสรีภาพที่จะพูด อยากจะปราศรัย เป็นเรื่องของคุณ แต่คุณต้องรับรู้นะครับว่า บ้านเมืองมีขื่อมีแป ถ้าคุณทำให้สงสัยได้ว่า มีความเสี่ยงที่ทำผิดกฏหมาย