ยื่นอุทธรณ์เพื่อกลั่นแกล้ง ปัญหาใหม่การจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ

5 มี.ค.2566-ดร. มานะ นิมิตมงคล เลขาธิการ องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) โพะสต์เฟซบุ๊กหัวข้อ ยื่นอุทธรณ์เพื่อกลั่นแกล้ง ปัญหาใหม่การจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ ระบุว่า  เพียงปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 มีผู้ยื่นอุทธรณ์การจัดซื้อฯ มากถึง 2,046 เรื่องและมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นทุกปี สิ่งที่น่ากังวลคือ มีเพียง 415 เรื่องหรือ 1 ใน 5 เท่านั้นที่อุทธรณ์แล้วชนะหรือมีเหตุผลฟังขึ้น นอกนั้นเป็นการเข้าใจผิดหรือมีเจตนาไม่สุจริต สร้างความเสียหายต่อรัฐ เกิดความล่าช้าในการดำเนินงานของหน่วยงาน จัดซื้อฯ ไม่ทันต่อความจำเป็นเพื่อบริการประชาชน ใช้เงินไม่ทันปีงบประมาณ ผู้ชนะการจัดซื้อฯ ไม่สามารถเริ่มงานได้ ฯลฯ ทำให้กรมบัญชีกลางต้องเร่งแก้ไข 

ทำไมต้องเปิดกว้างให้มีการอุทธรณ์..พ.ร.บ. จัดซื้อจัดจ้างฯ ได้วางหลักเกณฑ์ให้ผู้ยื่นเสนอทุกรายในการจัดซื้อจัดจ้างโครงการนั้นๆ มีสิทธิ์อุทธรณ์ โดยกำหนดให้มี “คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์และข้อร้องเรียน” ที่มีตัวแทนของภาคประชาชนร่วมเป็นกรรมการด้วย เพื่อสร้างหลักประกันว่า การจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐได้เปิดให้มีการแข่งขันอย่างเสรี เป็นธรรม ผู้ประกอบการทุกรายจะได้รับการปฏิบัติจากเจ้าหน้าที่อย่างเปิดเผยและเท่าเทียม

ปัจจัยที่ทำให้มีการยื่นอุทธรณ์.. 1. ผู้อุทธรณ์เห็นว่า หน่วยงานไม่ปฏิบัติตามทีโออาร์ หรือมีการตีความไม่เป็นธรรม 2. ผู้อุทธรณ์มีเจตนาไม่บริสุทธิ์ ต้องการกลั่นแกล้งผู้ชนะการประมูลหรือเจ้าหน้าที่รัฐ  3. มีการทุจริต การปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรมของเจ้าหน้าที่หรือผู้เกี่ยวข้องในการประมูล 4. ผู้อุทธรณ์ข้องใจว่า การปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ไม่เป็นไปตามขั้นตอน กฎ/ระเบียบ ในช่วงใดช่วงหนึ่งของการประมูล การแก้ไข..

ปัจจัยข้อที่ 1 กรมบัญชีกลางระบุว่า “เกิดจากหน่วยงานของรัฐที่ทำการจัดซื้อจัดจ้างแจ้งเหตุผลในการพิจารณาของคณะกรรมการพิจารณาผลไม่ชัดเจน ซึ่งหากเป็นกรณีที่ผู้ยื่นข้อเสนอผ่านการพิจารณา แต่ไม่ได้รับการคัดเลือกหน่วยงานของรัฐก็จะไม่มีการแจ้งเหตุผลเพิ่มเติมแต่อย่างใด ทำให้ผู้ยื่นข้อเสนอเกิดข้อสงสัยว่าหน่วยงานของรัฐพิจารณาโดยไม่โปร่งใส ไม่สุจริต หรือเอื้อประโยชน์ต่อผู้ยื่นข้อเสนอรายอื่น เป็นเหตุให้ตนไม่ได้รับการประกาศผลเป็นผู้ชนะหรือไม่ได้รับการคัดเลือกเป็นคู่สัญญากับหน่วยงานของรัฐ”

เพื่อลดปัญหานี้ “คณะกรรมการนโยบายจัดซื้อจัดจ้าง” “คณะกรรมการวินิจฉัยปัญหาการจัดซื้อฯ” และกรมบัญชีกลาง จึงได้จัดทำ “การกำหนดแนวทางการร่างขอบเขตของงาน (Terms of Reference : TOR)” ให้ทุกหน่วยงานใช้เป็นแนวทางเพื่อความชัดเจน

ส่วนเรื่องเจตนาไม่สุจริตของผู้อุทธรณ์ในข้อที่ 2 อาจเกิดจากแรงจูงใจได้หลายอย่าง เช่น ขี้แพ้แล้วชวนตี กลั่นแกล้งเพราะพวกตนพยายามล็อกสเปกหรือจัดฮั้วประมูลแต่ฮั้วแตก หรือผู้ชนะการประมูลไม่ใช่พวกของตน เพื่อลดปัญหานี้ทางกรมบัญชีกลางเสนอให้มีการแก้ไข พ.ร.บ. จัดซื้อฯ เพื่อกำหนดมาตรการป้องกัน เช่น ให้ผู้อุทธรณ์ต้องวางเงินประกันจำนวนหนึ่ง เป็นต้น  

บทส่งท้าย..ในระยะยาว ภาครัฐต้องสร้างมาตรฐานในการปฏิบัติหน้าที่ ใช้อำนาจตรงไปตรงมา มีกลไกเปิดเผยข้อมูลอย่างโปร่งใสให้ทุกคนเข้าถึงและตรวจสอบย้อนหลังได้โดยง่าย เชื่อว่าปัญหาและภาระจะลดลง ผลงานตลอด 6 ปีของการใช้ พ.ร.บ. การจัดซื้อจัดจ้างฯ ขอแสดงความชื่นชมต่อ “ผู้บริหารและข้าราชการกรมบัญชีกลาง” ที่ทุ่มเทอำนวยความสะดวก สร้างความเข้าใจอย่างถูกต้องกับทุกฝ่าย พร้อมรับฟังและเปิดกว้างเพื่อการมีส่วนร่วมของภาคประชาชน สามารถพัฒนาระบบให้ทันการณ์ ดูแลกติกาในภาพรวมเพื่อประโยชน์ของแผ่นดินเป็นอย่างดี 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ดร.มานะ ข้องใจบัญชีทรัพย์สิน ‘บิ๊กต่อ-สว.’ หายไปจากหน้าจอ ป.ป.ช.

วันนี้บัญชีทรัพย์สินของ พล.ต.อ. ต่อศักดิ์ เมื่อเข้ารับตำแหน่ง ผบ.ตร. (ข้าราชการ) และ ส.ว. (นักการเมือง) หายไปจากหน้าจอของ ป.ป.ช.

ยังไม่หลุด สส.! ศาลให้ประกันตัว 'ลูกเกด ก้าวไกล' ดิ้นอุทธรณ์ 112

'ลูกเกด ชลธิชา' ได้ประกันตัว 1.5 แสนบาท คดี 112 หลังศาลตัดสินจำคุก 2 ปี ลุยยื่นอุทธรณ์ต่อ ด้าน ’ชัยธวัช’ ชี้ สส.ใหม่ก้าวไกล ส่วนใหญ่โดนคดีก่อนเข้าพรรค

อึ้ง! ปปช. เปิดตัวเลขติดสินบนทั่วโลก เสียหาย 2 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ

'ป.ป.ช.' จัดเสวนาปราบโกง พบทั่วโลกติดสินบนเสียหาย 2 ล้านล้านดอลลาร์ 'ประธานหอการค้าตปท.' ชี้ เสถียรภาพการเมือง-ทุจริต กระทบการตัดสินใจลงทุน