26ก.พ.2566-นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีสถาบันแพทย์แผนบูรณาการและเวชศาสตร์ชะลอวัย มหาวิทยาลัยรังสิต ได้โพสต์ข้อความส่วนตัว ตอบโต้นายชูวิทย์ กมลวิศิษฐ์ ที่ออกมาวิพากษ์ วิจารณ์ นโยบายกัญชาถูกกฎหมาย โดยระบุเหตุผลที่ต้องสนับสนุนนโยบายดังกล่าวว่า
การออกมาเคลื่อนไหวที่ผ่านมานั้น ดำเนินกิจกรรมานานแล้ว จนได้เคลื่อนไหวเรียกร้องให้ยกเลิกสิทธิบัตรกัญชาต่างชาติในรัฐบาล คสช.จนสำเร็จ
พร้อมทั้งได้เล่าประสบการณ์ตรงจากการใช้กัญชาทางการแพทย์ รักษา อาการเจ็บป่วย อาทิ บิดา และภรรยานายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ป่วยโรคมะเร็ง แอบใช้น้ำมันกัญชา “อย่างผิดกฎหมาย”ในการระงับอาการทุกข์ทรมานในโรงพยาบาลทำให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น จึงมีแรงบันดาลใจว่าจะต้องหาทางปลดล็อกกัญชาเพื่อให้เกิดเสรีทางการแพทย์ให้ได้
“ก่อนการเลือกตั้งปี 2562 ผมและคณะรวมตัวกันเรียกว่า เครือข่ายประชาสังคมกัญชาทางการแพทย์ ทำหนังสือเพื่อพบทุกพรรคการเมืองให้สนับสนุนกัญชาเสรีเพื่อการแพทย์ก่อนการเลือกตั้ง มีพรรคประชาธิปัตย์เพียงพรรคเดียวที่รับนัดแต่ก็ไม่มีการประกาศนโยบายหาเสียงใดๆ แต่ปรากฏว่ามีพรรคภูมิใจไทยเพียงพรรคเดียวเท่านั้นที่ประกาศจะให้มีเสรีกัญชาทางการแพทย์ การเคลื่อนไหวของผมและคณะ จึงมาก่อนพรรคภูมิใจไทยจะเสนอนโยบายกัญชา จนถึงวันนี้ผมก็ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคภูมิใจไทย และไม่ได้เป็น ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคภูมิใจไทยเลยด้วย”
การปลดล็อกกัญชาออกจากยาเสพติดมีเหตุผลในการรองรับ 5 ประการ 1. กัญชาเสพติดยากกว่าเหล้าและบุหรี่ หรือนับตั้งแต่สูบบุหรี่มวลแรกคนๆนั้นจะมีโอกาสติดบุหรี่สูงสุดร้อยละ 67.5 นับตั้งแต่ดื่มแอลกอฮอล์จะมีโอกาสติดแอลกอฮอล์สูงสุดร้อยละ 22.7 แต่นับตั้งแต่สูบกัญชามวลแรกมีโอกาสติดกัญชาสูงสุดเพียงร้อยละ 8.9 แต่บุหรี่และเหล้าสามารถซื้อและขายได้แม้กระทั่งในร้านสะดวกซื้อ
.
2.กัญชามีประโยชน์ทางการแพทย์ โดยคณะอนุกรรมการพิจารณาข้อมูลเกี่ยวกับการใช้กัญชาทางการแพทย์ แพทยสภา ยอมรับว่ากัญชามีประโยชน์ทางการแพทย์แผนปัจจุบันรักษาได้หลายโรค ในขณะที่กัญชาเป็นสมุนไพรที่ปรากฏอยู่ในตำรับยาแผนไทยของชาติมากถึง 162 ตำรับ
.
3.ผู้ป่วยส่วนใหญ่เข้าไม่ถึงกัญชาทางการแพทย์ในระบบกระทรวงสาธารณสุข ต้องแอบลักลอบใช้เองอย่างผิดกฎหมาย 4.กัญชามีบทบาทต่อการส่งเสริมสุขภาพ ศูนย์ศึกษาปัญหาการเสพติด ได้รายงานผลการศึกษาติดตามสถานการณ์การใช้และการให้บริการกัญชาทางการแพทย์ระยะที่สอง ช่วงปี 2563-2564 พบว่าผู้ที่ใช้กัญชา สามารถลดและเลิกยาแผนปัจจุบันได้ถึงร้อยละ 58 ซึ่งแปลว่าน่าจะมีผู้เสียผลประโยชน์จากยอดขายยาแผนปัจจุบันที่ตกลงด้วย ลดความเสี่งจากการเป็นโรคเบาหวาน และมะเร็ง
.
และ 5.กัญชาช่วยลดปัญหายาเสพติดที่รุนแรง หรือก่อปัญหาความรุนแรง (Harm Reduction) เช่น ยาบ้า ยาไอซ์ เหล้า ฯลฯ
นายปานเทพ กล่าวว่า การศึกษาสอดคล้องกับสถานการณ์จริงในประเทศไทย ในปีงบประมาณ 2562 ซึ่งเป็นปีแรกที่มีการเปิดให้ใช้กัญชาทางการแพทย์ มีผู้ป่วยซึ่งเสพติด “ยาบ้า”ได้เข้ารับการบำบัดรักษาทั้งสิ้น 206,444 คน แต่เมื่อกัญชามีการใช้กันอย่างกันอย่างกว้างขวางในปีงบประมาณ 2565 ปรากฏว่ามีผู้ป่วยติดยาบ้าที่ต้องได้รับการบำบัดลดลงเหลือเพียง 100,454 คน ซึ่งแปลว่ามีผู้ป่วยยาบ้าที่เข้ารับการบำบัดในปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 “ลดลง” จากปี พ.ศ. 2562 จำนวนมากถึง 105,990 คน คือลดการบำบัดรักษายาบ้าไปแล้วกว่าครึ่งหนึ่งหรือคิดเป็นร้อยละ 51.34 และเป็นผลทำให้ยาบ้าราคาตกลงอย่างมากในปัจจุบันอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
.
จากนั้นนายปานเทพ ได้เปรียบเทียบคุณสมบัติของกัญชา กับบุหรี่ไฟฟ้า ว่า
บุหรี่ไฟฟ้าก็ยังไม่สามารถเปรียบเทียบกับกัญชาได้ เพราะกัญชาเสพติดยากกว่าและมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากกว่าบุหรี่ โดยเฉพาะกัญชาเป็นพืชที่ร่างกายมนุษย์มีสารและตัวรับเป็นระบบกัญชาในระบบสารสื่อประสาทและระบบภูมิคุ้มกันในแทบทุกอวัยวะมาตั้งแต่กำเนิดที่เรียกว่า Endocannabinoid System กัญชาจึงมีสรรพคุณต่างจากพืชอย่างอื่นที่ชาวบ้านมีภูมิปัญญาในการใช้ด้วยข้อบ่งใช้ล้ำหน้าและหลากหลายไปมากกว่างานวิจัยที่มีอยู่ในปัจจุบันไปอย่างมากแล้ว
.
สำหรับในวันนี้ความจริง “กัญชาไม่ได้เสรี” เพราะมีประกาศกระทรวงสาธารณสุข ประกาศกระทรวงเกษตร ประกาศกระทรวงศึกษา เป็นกฎหมายมากกว่า 12 ฉบับ เช่น ห้ามจำหน่ายให้เด็กเยาวชน สตรีมีครรภ์ สตรีให้นมบุตร, ห้ามโฆษณา, ห้ามขายในโรงเรียน, ห้ามขายในศาสนสถาน, ห้ามขายออนไลน์, ห้ามใส่ช่อดอกในอาหาร, และห้ามสูบในร้านจำหน่ายกัญชา ยกเว้นเป็นการสูบเพื่อทางการแพทย์โดยแพทย์ ฯลฯ
.
“อย่างไรก็ตาม ประเทศไทย มีกฎหมายห้ามพนันออนไลน์ ห้ามหวยใต้ดิน ห้ามนำเข้าบุหรี่ไฟฟ้า และกฎหมายที่ไม่ให้กัญชาเสรี แต่การที่ยังมีผู้ละเมิดกฎหมายจำนวนมากนั้นไม่ใช่เพราะไม่มีกติกา หรือไม่มีกฎหมาย แต่เป็นเพราะเจ้าหน้าที่รัฐซึ่งเกี่ยวข้องโดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่บังคับกฎหมายอย่างจริงจังเท่านั้น”
.
ในตอนท้านนายปานเทพ ระบุว่า ยังติดตาม เห็นด้วย ชื่นชมและสนับสนุนกับการเปิดโปงเพื่อต่อต้านส่วยตำรวจของคุณชูวิทย์ อย่างกล้าหาญมาโดยตลอด แต่ขออนุญาตแสดงความเห็นแย้งและไม่เห็นด้วยในเรื่องกัญชาของคุณชูวิทย์มาในโอกาสนี้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
สาวไส้ 'ทนายตั้ม' เปลี่ยนพินัยกรรม ตั้งตัวเป็นผู้จัดการมรดก 'เจ๊อ้อย'
ที่กองบังคับการปราบปราม(บก.ป.) นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต เดินทางเข้าให้ข้อมูลกับพนักงานสอบสวนในคดีที่ น.ส.จตุพร อุบลเลิศ หรือ เจ๊อ้อย แจ้งความดำเนินคดีกับ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด ทนายความกับพวก ในข้อหาฉ้อโกง
'หมอธีระวัฒน์' เผยปัจจุบันอยู่ในตำแหน่งใหม่ ใน ม.รังสิต
ศ.ดร.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา โพสต์ข้อความผ่านเฟศบุ๊ก ระบุว่า หมอปัจจุบันนี้ อยู่ในตำแหน่งนี้ครับ แต่งตั้งเป็นทางการจากท่านอธิการบดี มหาวิทยาลัยรังสิต
'เครือข่ายกัญชา' ประกาศเลิกม็อบหน้าทำเนียบฯแล้ว
ความคืบหน้าเครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทย ที่นำโดยนายประสิทธิ์ชัย หนูนวล เลขาธิการเครือข่ายฯ ที่ได้มาปักหลักชุมนุมอยู่บริเวณเชิงสะ
ชี้ กฎหมายกัญชา ฉบับใหม่ล็อกสเป็กเอื้อนายทุนโรงพยาบาล เปิดชื่อคนดังมีเอี่ยวเพียบ
นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต โพสต์เฟซบุ๊ก เปิดเผยว่า ร่างประกาศ
สายเขียวบุกสธ. สมศักดิ์ยืนกราน เป็น‘ยาเสพติด’
"ปานเทพ-หมอธีระวัฒน์-รสนา" นัดยื่นหนังสือถึง รมว.สธ. 16 ก.ค.นี้
'หม่อมโจ้' แฉกลุ่มทุนฮุบกัญชา ขีดเส้น 10.00 น. วันนี้ไม่ได้คำตอบจากรัฐบาล ยกระดับการชุมนุมทันที
ช่วงค่ำวานนี้ (8 กรกฎาคม) เครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทย ที่ปักหลักชุมนุมบริเวณสะพานชมัยมรุเชฐ แยกพณิชยการพระนคร ด้านหน้าทำ