อัยการยื่นฟ้อง "ทราย-สมยศ" กับพวก สู้คดี ก่อนศาลให้ประกัน กำหนดเงื่อนไข ห้ามกระทำผิดซ้ำถึงสถาบัน ห้ามออกนอกประเทศ ศาลนัดตรวจหลักฐาน 7 ก.พ. ปีหน้า
25 พ.ย.2564 - เวลา 13.45 น. พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 5 ได้เป็นโจทกยื่นฟ้อง นายอานนท์ นำภา, นายพริษฐ์ หรือเพนกวิน ชิวารักษ์, นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข, น.ส.พิมพ์สิริ เพชรน้ำรอบ น.ส.ณัฎฐธิดา หรือ แหวน มีหวังปลา และน.ส.อินทิรา หรือ ทราย เจริญปุระ เป็นจำเลยที่ 1-6 ต่อศาลอาญา
โดยคำฟ้องโจทก์สรุปว่า จำเลยทั้งหกกับ นายชินวัตร จันทร์กระจ่าง และนายพรหมศร หรือฟ้า วีระธรรมจารี ซึ่งยังไม่ได้ตัวมาฟ้อง ได้ร่วมกันและแยกกันกระทำความผิดต่อกฎหมายหลายบทหลายกรรมต่างกัน กล่าวคือ
เมื่อระหว่างวันที่ 28-29 พ.ย. 2563 เวลากลางวัน จำเลยที่ 1-6 กับพวกได้ร่วมกันจัดการชุมนุม โดยประกาศชักชวนประชาชนมาร่วมชุมนุมทางการเมืองผ่านทางช่องทางต่างๆและสื่อออนไลน์หัวข้อ "ปลดอาวุธศักดินาไทย" มีประชาชนทั่วไปประมาณ 2,000 คน เข้าร่วมปราศรัยเชิญชวนประชาชนให้ร่วมกันต่อสู้เปลี่ยนแปลงแก้ไขรัฐธรรมนูญประเทศและปฏิรูปสถาบันเบื้องสูง บริเวณหน้ากรมทหารราบที่ 11 แขวงอนุสาวรีย์ชัย เขตบางเขน กทม.โดยไม่แจ้งการชุมนุมต่อเจ้าพนักงาน ร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ใช้กำลังประทุษร้ายและกระทำอย่างหนึ่งอย่างใด ให้เกิดความวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง เข้าร่วมกิจกรรมการรวมตัวกันชุมนุมทางการเมือง ปิดการจราจร รื้อรั้วลวดหนาม ของเจ้าหน้าที่ เทสีลงพื้นและขีดเขียนข้อความลงบนพื้น มีเจตนาบิดเบือนใส่ร้ายพระมหากษัตริย์และบิดเบือนเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 ซึ่งเป็นทางสาธารณะและทรัพย์สินต่างๆ ของราชการ
ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 91, 112, 116, 215, 216, 385 ,พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะพ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ พ.ศ. 2558 , พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ. 2522, พ.ร.บ.ควบคุมการโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียง พ.ศ. 2493 มาตรา 4 ,9 , พ.ร.บ.รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ. 2535, พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ พ.ศ. 2548
ศาลประทับฟ้องเป็นคดีหมายเลขดำ อ.2948/2564 และศาลสอบคำให้การจำเลยที่ 3-6 แล้วให้การปฏิเสธ ศาลจึงนัดตรวจพยานหลักฐานในวันที่ 7 ก.พ. 2565 เวลา 09.00 น.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับวันนี้ อัยการโจทก์ได้ฟ้องส่งตัวนายสมยศ น.ส.พิมสิริ น.ส.ณัฎฐธิดา และน.ส.อินทิรา หรือทราย เพียง 4 คนเท่านั้น ซึ่งน.ส.อินทิรา อัยการสั่งไม่ฟ้องข้อหาตามมาตรา 112 ส่วนจำเลยอื่นอีก 7 คนฟ้องทุกข้อหา
ต่อมาเวลา 16.00 น. เศษ ศาลมีคำสั่งอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวจำเลย 4 คน ที่ถูกยื่นฟ้องในวันนี้โดยตีราคาประกันนายสมยศ 2 แสนบาท น.ส.พิมสิริ น.ส.ณัฎฐธิดา คนละ 1 เเสนบาท ส่วนน.ส.อินทิรา 35,000 บาท พร้อมกำหนดเงื่อนไขห้ามกระทำกิจกรรมอันเป็นการเสื่อมเสียต่อสถาบัน เเละห้ามออกนอกประเทศเว้นได้รับอนุญาตจากศาล
ภายหลังได้รับการปล่อยชั่วคราว นายกิตติศักดิ์ กองทอง ทนายกล่าวว่า ตนได้ตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับเงื่อนไขการประกันของ น.ส.อินทิรา ที่ถูกตั้งข้อหา ม.116 แต่กลับใช้เงื่อนไขเดียวกันกับจำเลยที่เหลือที่มีความผิดในข้อหา ม.112, 116 ด้วย จึงไม่เข้าใจว่าศาลมีเหตุผลอะไร
ด้านนายสมยศ เปิดเผยว่า ขอขอบคุณศาลที่วันนี้ให้สิทธิพวกเราได้ประกันตัวเพื่อที่จะได้ต่อสู้คดี พิสูจน์เจตนารมณ์ของกลุ่มราษฎรเป็นไปเพื่อประโยชน์สุขของบ้านเมืองและต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลงในทางที่ก้าวหน้าและเป็นการประกันว่าพวกเราจะมีสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น ตนยังเป็นห่วงหลายคนที่ยังถูกคุมขังอยู่ในขณะนี้ ก็หวังว่าพวกเขาจะได้รับสิทธิในการประกันตัวโดยเร็วที่สุด
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'ชัยธวัช-ปชน.' ผิดหวังสภาคว่ำข้อสังเกตกมธ.นิรโทษฯ สะท้อนรัฐบาลขาดเอกภาพ
ที่รัฐสภา คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการตราพระราชบัญญัตินิรโทษกรรม นำโดย นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการฯ นายชัย
ดร.ณัฏฐ์ เตือนนิรโทษกรรมเหมาเข่ง 112 สารตั้งต้นล่มสลายรัฐบาลแพทองธาร!
สืบเนื่องจากการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 33 สมัยสามัญประจำปีครั้งที่ 1 เข้าสู่วาระพิจารณารายงานของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการตราพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) นิรโทษกรรม เพื่อ
'พิเชษฐ์' สั่งปิดประชุมสภาฯกะทันหัน เลื่อนโหวตรายงานกมธ.นิรโทษฯ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากที่สส.อภิปรายแสดงความคิดเห็นครบทุกพรรคแล้ว นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาฯคนที่1 ซึ่งทำหน้าที่ประธานการประชุม กล่าวสรุปว่าเนื่องจากรายงานของ
พร้อมสู้ ‘ธนกร’ ขวางแก้112 ‘นันทิวัฒน์’ เชื่อหยุดที่คุก!
ไม่ลดเพดานเจอกันแน่! "ธนกร" ลั่นหากพรรคประชาชนยังคิดแก้ ม.112 อีก
พิสูจน์ชัด! สายพันธุ์ 2475 ทำงานพัฒนาประเทศไม่เป็น นอกจากแก้มาตรา 112
นายเถกิง สมทรัพย์ อดีตนายกสมาคมนักข่าววิทยุโทรทัศน์ไทย โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กว่า ในที่สุด…สายพันธุ์ 2475 ก็พิสูจน์ว่า ทำงานพัฒนาประเทศอะไรไม่เป็น
อดีตบิ๊กข่าวกรอง เตือนถ้าไม่ลดเพดานแก้ 112 ก็ไปให้สุดแต่หยุดที่คุก!
นายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า แปะยี่ห้อใหม่