ศาลฎีกานัดอ่านคำพิพากษาคดี กนกวรรณ วิลาวัลย์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง กรณีรุกป่าเขาใหญ่ จ.ปราจีนบุรี บ่ายวันพรุ่งนี้
21 ก.พ.2566 - ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันพรุ่งนี้ (22 ก.พ.) เวลา 13.00 น. ศาลฎีกา สนามหลวง นัดฟังคำพิพากษาคดีหมายเลขดำที่ คมจ.2/2565 ระหว่าง คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือป.ป.ช. ผู้ร้อง นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ผู้คัดค้าน เรื่อง การฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง
คดีนี้ ป.ป.ช.ผู้ร้องยื่นคำร้องสรุปว่า เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2545 ผู้คัดค้านดำเนินการขอออกโฉนดที่ดินในพื้นที่หมู่ที่ 15 ตำบลเนินหอม อำเภอเมืองปราจีนบุรี จังหวัดปราจีนบุรี เนื้อที่ 30-2-80.5 ไร่ โดยอ้างว่าซื้อที่ดินแปลงดังกล่าวมาจาก นายทิว มะลิซ้อน เมื่อปี 2533 แต่นายทิวไม่มีตัวตน ทั้งไม่เคยมีการเข้าทำประโยชน์ในที่ดินที่อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ และแนวเขตป่าไม้ถาวรป่าเขาใหญ่ ทำให้รัฐสูญเสียที่ดินในเขตอุทยานแห่งชาติให้แก่ผู้คัดค้าน การออกโฉนดที่ดินเลขที่ 41158 ตำบลเนินหอม อำเภอเมืองปราจีนบุรี จังหวัดปราจีนบุรี จึงมิชอบด้วยกฎหมาย และเป็นความเสียหายร้ายแรง ผู้คัดค้านยังคงยึดถือครอบครองที่ดินต่อเนื่องตลอดมาจนกระทั่งเข้าดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
ป.ป.ช.ผู้ร้องจึงขอให้ศาลฎีกา มีคำพิพากษาหรือคำสั่งว่า ผู้คัดค้านฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง ให้ผู้คัดค้านหยุดปฏิบัติหน้าที่นับแต่วันที่ศาลฎีการับคำร้องจนกว่าจะมีคำพิพากษา ให้ผู้คัดค้านพ้นจากตำแหน่งนับแต่วันหยุดปฏิบัติหน้าที่ เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้คัดค้าน และเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งมีกำหนดเวลาไม่เกินสิบปี ตาม รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มาตรา 235 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 87 และมาตรฐานทางจริยธรรมของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ รวมทั้งผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน และหัวหน้าหน่วยงานธุรการของศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระ พ.ศ. 2561 ข้อ 8 และข้อ 11, 17 ประกอบข้อ 27
โดยเมื่อวันที่ 26 ส.ค.65 ศาลฎีกามีคำสั่งให้รับคำร้องของผู้ร้องไว้พิจารณาวินิจฉัย และมีคำสั่งให้ นางกรกวรรณ ผู้คัดค้านหยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าจะมีคำพิพากษา ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 81 ประกอบมาตรา 87 วรรคสาม และระเบียบที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาว่าด้วยการพิจารณาพิพากษาคดีเกี่ยวกับการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง พ.ศ. 2561 ข้อ12 วรรคสอง และมีการพิจารณาคดีครั้งแรกไปเมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 65 และมีการพิจารณาคดีเรื่อยมาจนเสร็จสิ้นกระบวนการ ศาลฎีกาจึงนัดคู่ความทั้งสองฝ่ายมาฟังคำพิพากษาดังกล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ป.ป.ช. ตั้งที่ปรึกษาองค์คณะไต่สวน คดีเอื้อทักษิณนอนชั้น 14 ให้แจ้งคืบหน้าทุก 1 เดือน
นายสาโรจน์ พึงรำพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. แถลงว่า ในวันนี้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะองค์คณะในการไต่สวนข้อเท็จจริง ซึ่งมีนายเอกวิทย์ วัชชวัลคุ กรรมการ ป.ป.ช. เ
'ทักษิณ' ฟังทางนี้! ลืมหรือเปล่า 4.7 หมื่นล้าน รวยเพราะอะไร
นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต สส.พัทลุง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กในหัวข้อ *คุณ(มึง) รวยจริง" โดยระบุว่า ระยะหลังคุณทักษิณ ชินวัตร ปราศรัยดุเดือด ทั้งหมา ทั้งควาย พรั่งพรูออกมาจากปากคุณทักษิณเป็นฝูงๆ
ประกันสังคม มอบเงินช่วยเหลือ ผู้รับเหมา ผู้ประกันตนที่เสียชีวิตเหตุอาคารถล่ม ปราจีนบุรี แล้ว “พิพัฒน์” กำชับดูแลสิทธิประโยชน์ให้ทายาท
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กำชับหน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงาน ลงพื้นที่ เหตุการณ์อาคารโรงงานถล่มในนิคมอุตสาหกรรม อำเภอศรีมหาโพธิ จังหวัดปราจีนบุรี วันที่ 30 ธันวาคม 2567 ทับคนงานของผู้รับเหมาที่กำลังปฏิบัติงาน เสียชีวิต 5 ราย พร้อมมอบให้สำนักงานประกันสังคม
‘ขิง’ สั่งหยุดกิจการทันทีหลังชั้นลอยโรงงานถล่มในสวนอุตสาหกรรม 304 ปราจีนบุรี เสียชีวิต 5 ราย
30 ธ.ค.2567 - นายพงศ์พล ยอดเมืองเจริญ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และโฆษกกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ได้เกิดเหตุแผ่นคอนกรีตชั้นลอยอาคารของโรงงานบริษัท ไทยยานากาวา จำกัด
แฉอีโม่ง วิ่งเต้นล้มปมชั้น 14 เตือนหยุดทำเถอะ
นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊คไลฟ์ว่า นับตั้งแต่ต้นปี 2568 ให้จับตาดูวันที่ 15 ม.ค.ที่แพทยสภาขีดเส้นตายให้แพทย์รักษาทักษิณ ชินวัตร ชั้น 14 ส่งรายงานการรักษามาตรวจสอบการเอื้อหนีติดคุก แล้วยังต้องติดตามผลตรวจสอบของ ป.ป.ช.กรณีชั้น
‘กรุณพล’ แจงยิบปมตร.ค้นบ้านผอ.พรรคประชาชน ปราจีนฯ พบอาวุธปืน-กระสุนอื้อ
สืบเนื่องจากกรณีตำรวจภูธรภาค 2 ชุดขยายผล กวาดล้างผู้มีอิทธิพลใน จ.ปราจีนบุรี บุกค้นจับกุมบ้านผู้ต้องสงสัยพบอาวุธปืนเถื่อน พร้อมเครื่องกระสุนเป็นจำนวนมา