23 พ.ย.2564 - ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันที่ 25 พ.ย.นี้ นายนพดล พรหมภาสิต ตัวแทนกลุ่มพสกนิกรปกป้องสถาบัน ซึ่งประกอบไปด้วย 1. เครือข่ายคนออนไลน์รับใช้แผ่นดิน (คคร.) 2. ศูนย์ช่วยเหลือด้านกฎหมายผู้ถูกล่วงละเมิด bully ทางสังคมออนไลน์ ศชอ. 3. ศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส. ) 4. อาชีวะปกป้องสถาบัน 5. ประชาภักดิ์พิทักษ์สถาบัน ปภส. 6. ชุดปฎิบัติการศรีสุริโยไท ปกป้องสถาบัน เตรียมเดินทางเข้ายื่นหนังสือต่อพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อเพื่อให้รัฐบาลเข้ามาตรวจสอบการทางานขององค์กร Amnesty International Thailand ว่ามีพฤติกรรมและการกระทาที่เข้าข่ายกระทบต่อความมั่นคงของประเทศและต่อสถาบันพระมหากษัตริย์หรือไม่ ด้วยเหตุผลดังนี้
เมื่อวันที่ 10 พ.ย.64 ศาลรัฐธรรมนูญได้มีการอ่านคำวินิจฉัยว่าการกระทำของ นายอานนท์ นำภา , นายภาณุพงศ์ จาดนอก , น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล ที่ชุมนุมปราศรัยเมื่อวันที่ 10 ส.ค.63 ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์รังสิต ซึ่งมีการเสนอข้อเรียกร้อง 10 ข้อ ในการ ปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ รวมทั้งเครือข่าย เป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 49 วรรคหนึ่ง จึงมีคำสั่งให้เลิกการกระทำ รวมทั้งกลุ่มองค์กรเครือข่ายเลิกกระทำการดังกล่าวที่จะเกิดขึ้นต่อไปในอนาคตด้วย ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 49 วรรคสอง
แต่ปรากฏว่า แอมเนสตี้ฯ ได้ออกมาประกาศแคมเปญ เขียนจดหมายล้านฉบับ ถึงทั่วโลก จี้ทางการไทยให้หยุดดำเนินคดีกับ รุ้ง ปนัสยา ซึ่งถือได้ว่าองค์กรนี้เข้ามาแทรกแซงกิจการภายในของประเทศ และจงใจที่จะไม่ปฏิบัติตามกฎหมายของประเทศไทย เนื่องจากคำตัดสินหรือคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญนั้นผูกพันทุกองค์กร อีกทั้งการกระทำของแอมเนสตี้ฯ ยังอาจถือได้ว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังและให้การสนับสนุนต่อคนหรือกลุ่มบุคคลให้กระทำการจาบจ้วงสถาบันฯอย่างหลีกเสี่ยงไม่ได้
จากเหตุผลข้างต้นน่าจะเพียงพอแล้วที่รัฐบาลจะต้องให้ความสำคัญกับเรื่องนี้โดยเร่งด่วน ด้วยการให้องค์กรนี้พ้นออกไปจากประเทศไทย หากมีข้อมูลและหลักฐานที่เชื่อได้ว่าองค์กรนี้มีจุดมุ่งหมายที่จะแทรกแซงกิจการภายในของไทย และก่อนที่สถาบันจะถูกล่วงละเมิดไปมากกว่านี้
มีรายงานว่า การยื่นหนังสือครั้งนี้ ดร.เสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี จะเป็นผู้แทนนายกรัฐมนตรี ลงมารับหนังสือด้วยตัวเอง ทั้งนี้ก่อนหน้าที่ ดร.เสกสกล ได้ออกมารณรงค์ให้สังคมผลักดันแอมเนสตี้ฯออกจากประเทศไทย เนื่องจากมีท่าทีแทรกแซงกิจการภายในประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการเรียกร้องให้ยุติการดำเนินคดีกับกลุ่มบุคคลที่กระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ทั่วโลกจับตา! 'คดีตากใบ' สะท้อนไทยล้มเหลว ปล่อยละเมิดสิทธิมนุษยชนซ้ำ
แอมเนสตี้ฯ ประเทศไทย หวั่นคดีตากใบหมดอายุความ กลายเป็นใบเบิกทางละเมิดสิทธิมนุษยชนซ้ำแล้วซ้ำเล่าอีก ชี้ชัด ทั่วโลกจับตาดูอยู่ เชื่อจะเป็นเรื่องที่ถูกพูดถึงบนเวทีสาธารณะระหว่างประเทศต่อเนื่อง
'บิ๊กป้อม' สั่ง สส.พปชร. คว่ำรายงานนิรโทษกรรม ชี้ล้างผิดคดี 112 กระทบปกป้องสถาบัน
นายไพบูลย์ นิติตะวัน เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค ซึ่งมีนโยบายสำคัญที่สุดที่จะต้องปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ให้มั่นคงสถาพรตลอดไป
คลอด 24 กก.บห.พปชร.ชุดใหม่ 'บิ๊กป้อม' นำทัพ 'ไพบูลย์' แม่บ้านพรรค
คลอด 24 กก.บห. พลังประชารัฐ ชุดใหม่ 'บิ๊กป้อม' นำทัพ 'ไพบูลย์' แม่บ้านพรรค ลั่นต่อไปนี้เป็นหนึ่งเดียวไม่มีการแตกแยก เปลี่ยนวิธีบริหารใหม่ ประกาศ 'ปกป้องสถาบัน ทันสมัยเศรษฐกิจ มีชีวิตที่สดใส'
'แอมเนสตี้' ยกเหตุผลทำไมต้องแก้ พ.ร.บ.การชุมนุม
ในช่วง พ.ศ. 2563 - 2565 การชุมนุมทางการเมืองเป็นกิจกรรมที่เกิดขึ้นอย่างแพร่หลายทั่วประเทศไทย ภายใต้หัวข้อการชุมนุมแ
ปตท.ตั้ง 'เสกสกล' อดีตที่ปรึกษานายกฯสมัยรัฐบาลประยุทธ์ นั่งบอร์ด IRPC
นายเสกสกล อัตถาวงศ์ หรือ “แรมโบ้อีสาน” อดีตที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา) และอดีตรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ได้รับการเสนอชื่อจากบริษัท ปตท. จำกัด(มหาชน) ในฐานะ
'พีระพันธุ์' นำลูกพรรคดูหนัง 2475 รุ่งอรุณแห่งการปฏิวัติ ย้ำจุดยืนไม่นิรโทษคดี 112
นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) พร้อมด้วย นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค นายหิมาลัย ผิวพรรณ ผู้อำนวยการพรรค และสมาชิกพรรค