ออกสู่สนามรบ 'เอ็ดดี้' แจ้งแฟนคลับ ออกรายการทีวี สัปดาห์ละ 1 ครั้ง

25 ม.ค.2566 - นายอัษฎางค์ ยมนาค นักวิชาการอิสระ โพสต์ข้อความผ่าน แฟนเพจเฟซบุ๊ก เอ็ดดี้ อัษฎางค์ ยมนาค มีเนื้อหาดังนี้

อัษฎางค์ ประกาศ

มีเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ แฟนคลับ มักกรุณาให้ความชื่นชม ยกย่องว่าผมเป็นผู้มีอุดมการณ์ เป็นผู้เสียสละ แต่เรียนตามตรงว่า ผมไม่ได้มีอุดมการณ์ยิ่งใหญ่อะไร ไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองต้องเสียสละอะไร ที่ผมทำอยู่ทุกวันนี้มีเหตุผลอยู่เพียง 2 ข้อ คือ

1 มีพระราชดำรัสของในหลวงรัชกาลที่ 9 อยู่มากมาย แต่มีอยู่ข้อหนึ่งที่เหมาะสมกับยุคสมัยนี้ นั้นคือ พระองค์ตรัสว่า
"...ถ้าประชาชนไม่มีที่พึ่ง ไม่มีผู้ใดเอาใจใส่ พอพึ่งทางราชการไม่ได้ ก็ต้องหันไปพึ่งผู้กว้างขวาง ผู้มีอิทธิพลจึงเป็นหน้าที่ของทาง ราชการที่จะปฏิบัติงาน เพื่อให้การบริการของ ราชการได้เข้าถึงประชาชน โดยทั่วถึงและทำด้วยความสุจริต..."
"...ในบ้านเมืองนั้นมีทั้งคนดีและคนไม่ดี ไม่มีใครจะทำให้คนทุกคนเป็นดีได้ทั้งหมด การทำให้บ้านเมืองมีความปรกติสุขเรียบร้อย จึงมิใช่การทำให้ทุกคนเป็นคนดี หากแต่อยู่ที่การส่งเสริมคนดี ให้คนดีได้ ปกครองบ้านเมืองและควบคุมคนไม่ดีไม่ให้มีอำนาจไม่ให้ก่อความเดือดร้อนวุ่นวายได้..."

ดังนั้น ผมขอตามเบื้องพระยุคลบาท ด้วยการขอสนับสนุน ส่งเสริมคนดี ให้ได้ปกครองบ้านเมือง จะได้ควบคุมคนไม่ดีไม่ให้มีอำนาจไม่ให้ก่อความเดือดร้อนวุ่นวาย

2. ครั้งหนึ่งเมื่อในหลวงรัชกาลที่ 10 เสด็จพระราชดำเนิน มีประชาชนไปเฝ้ารอรับเสด็จเป็นจำนวนมาก ผมเห็นภาพจากทีวี ที่มีรับสั่งกับพี่หมอรงค์ หัวหน้าพรรคไทยภักดี ซึ่งตอนนั้นยังไม่ตั้งพรรค ว่า “ให้เอาความจริงออกมา”
เนื่องจากในปัจจุบัน ปัญหาใหญ่ที่สุดปัญหาหนึ่งที่ทำให้ประเทศชาติวุ่นวายคือ สังคมที่มีแต่ข่าวเท็จ ข้อมูลที่ถูกบิดเบือน ดังนั้นพระราชกระแสรับสั่งว่า “ให้เอาความจริงออกมา” ที่ตรัสกับหมอรงค์นั้น ผมถือว่า พระองค์ตรัสผ่านหมอรงค์มาถึงคนไทยทุกคน ดังนั้นผมจึงรับใส่เกล้า และ”ตั้งใจจะเอาความจริงออกมาสู่สังคม” นั้นคือสิ่งที่ผมทำมาตลอดและจะทำต่อไป

สรุปว่า ผมขอตามรอบเบื้องพระยุคลบาท ด้วยการสนับสนุนคนดีให้ได้ปกครองประเทศและจะนำข้อเท็จจริงออกมาสู่สังคม นั้นคือเป้าหมายที่ผมจะทำ ไม่ใช่ว่าผมมีอุดมการณ์หรือเสียสละ ผมไม่เคยคิดว่าตัวเองเสียสละอะไรเลย ผมแค่ทำตามพระราชดำรัสของในหลวงทั้ง 2 รัชกาล เท่านั้น
……………………………………………………………….
ออกสู่สนามรบ
ความจริงมีคนชวนสัมภาษณ์จากสื่อค่ายต่างๆ อยู่เนืองๆ แต่ขอเรียนว่าเดิมๆ ผมไม่อยากเปิดหน้าหรือเปิดตัว ซึ่งหลายคนคงไม่ทราบว่า เป็นเพราะผมถลำตัวเข้าเขียนเรื่องการบ้านการเมือง ทำให้ชีวิตส่วนตัวถูกคุกคามหนักบ้าง เบาบ้าง และบางครั้งหนักเสียจนคุณๆ คาดไม่ถึงแน่นอน

ดังนั้นผมจึงปฏิเสธการออกทีวีเสมอมา เพราะอยากแยกกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการเมืองซึ่งทำในโลกออนไลน์ออกจากชีวิตจริงจะได้มีความเป็นส่วนตัว

มีครั้งเดียวที่ไปออกรายการคุณต้น ที่ Top news ซึ่งเป็นครั้งแรกและครั้งเดียวที่ออกรายการทีวี (หลังจากนั้นรายการคุณต้นยังคงติดต่อมาขอสัมภาษณ์อยู่)

นอกจากเหตุผลเรื่องไม่อยากเปิดหน้า เปิดตัวแล้ว อีกเหตุผลหนึ่งคือ เวลาไม่ตรงกัน คือเป็นเพราะผมอยู่ต่างประเทศ เวลาจึงไม่ตรงกับทางเมืองไทย เวลาที่บันทึกเทปหรือสัมภาษณ์สดออกอากาศของทางสถานีไม่ตรงกับเวลาว่างของผม
ล่าสุดที่มาตกร่องปล่องชิ้นกับ Blue sky ก็เพราะ อ.พี่ลูกกบ ทักมา ซึ่งผมนับถือและเกรงใจ อ.พี่กบ รวมทั้งเวลาที่อัดรายการหรือสัมภาษณ์สดนั้นว่างพอดี ก็เลยรับปากไป ซึ่งตอนแรกเข้าใจว่า สัมภาษณ์คุยกันสั้นๆ ครั้งเดียวจบ

แต่ปรากฏว่า น้องโปรดิวเซอร์ บอกมาว่า ขอเป็นแขกประจำ ออกอากาศสัปดาห์ละ 1 ครั้ง ทุกสัปดาห์ โดยให้ผมเลือกวันที่สะดวกและหัวข้อที่จะสนทนาได้เลย

ซึ่งมาประจวบเหมาะกับช่วงหลังๆ ผมประสบกับปัญหาในเรื่องการถูกปิดกั้นบทความของผมในโลกโซเชี่ยล จึงมาทบทวนว่า นี่เป็นโอกาสดีที่จะมีอีกหนึ่งช่องทางในการสื่อสารกับสังคม

“จะได้นำข้อเท็จจริงออกมาสู่สังคม ซึ่งจะเป็นการช่วยสนับสนุนคนดีให้ได้ปกครองบ้านเมืองและควบคุมคนไม่ดีไม่ให้มีอำนาจไม่ให้ก่อความเดือดร้อนวุ่นวายได้” ตามพระราชดำรัสที่ผมรับใส่เกล้าเอาไว้
จึงเรียนมาเพื่อทราบ
อัษฎางค์ ยมนาค

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

แก๊งล้มเจ้าใช้ 'ปลาหมอคางดำ' แซะปลานิลจิตรลดา ยิ่งบิดเบือนก็ต้องศึกษาข้อมูล ยิ่งประทับใจในพระปรีชาสามารถ

นายนิธิพัฒน์ พันธุ์ธุมจินดา นักธุรกิจฟาร์มปลาสวยงาม โพสต์เฟซบุ๊กว่า ในช่วงสามสี่วันมานี้ มีคนบางคนพยายามใช้กรณีปลาหมอคางดำ เพื่อนำมาแซะโครงการปลานิลจิตรลดาในพระราชดำริ ซึ่งก็ทำให้ผมต้องไปนั่งอ่านงานวิจัยที่มาที่ไปของโครงการดังกล่าว

ยกผลงาน Citi Identity ของ 'อภิรักษ์' เทียบ 'ชัชชาติ' ไม่แปลกโดนวิพากษ์ยับเยิน

นายอัษฎางค์ ยมนาค  หรือ  เอ็ดดี้  นักวิชาการอิสระ โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กถึงเรื่องสติกเกอร์“กรุงเทพฯ Bangkok” ที่ติดอยู่บริเวณบนคานรถไฟฟ้า BTS เพื่อสร้าง City Branding หรือ Citi Identity ว่า

ห้ามพลาด สารคดีชุด 'ก้าวเพื่อชัยชนะ' เรื่องราวการพลิกชีวิตของผู้คนจากความยากจนไปสู่ความกินดีอยู่ดี

สารคดีชุด "ก้าวเพื่อชัยชนะ" เป็นเรื่องราวการพลิกชีวิตของผู้คนทั่วประเทศ จากความยากจนไปสู่ความกินดีอยู่ดี ตามแนวทางการช่วยเหลือของมูลนิธิชัยพัฒนา ที่ในหลวงรัชกาลที่ 9