ศูนย์ทนายฯแจงอาการ 'ตะวัน-แบม' ทั้งคู่มีอาการหน้าแดง รู้สึกตัวร้อน ทรมานจากความรู้สึกไม่สบายตัว หัวใจเต้นเร็วกว่าปกติ มีอาการจะอาเจียนตลอดเวลา ยังยืนว่าจะอดน้ำและอาหารต่อไป ต้องการสั่งตัวไปรพ.ธรรมศาสตร์
25ม.ค.2566 - ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ออกคำชี้แจงทนายความเข้าเยี่ยม “ตะวัน - แบม” วันที่ 24 ม.ค. 2566 มีเนื้อหาดังนี้
.
ในวันที่ 24 ม.ค. 2566 ทนายความได้เข้าเยี่ยมตะวันและแบม ตั้งแต่เวลาประมาณ 11.00 น. โดยในช่วงแรกมี พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ นายประกันและผู้กำกับดูแลของตะวัน เข้าเยี่ยมด้วยพร้อมกัน
.
จากการสอบถามอาการได้ความว่า ทั้งคู่มีอาการหน้าแดง รู้สึกตัวร้อน และทรมานจากความรู้สึกไม่สบายตัว สืบเนื่องมาจากสาเหตุใดไม่ทราบ โดยทั้งสองคนได้พยายามล้างหน้าและอาบน้ำ แต่ไม่สามารถบรรเทาอาการทรมานได้ทั้งหมด จึงไม่สามารถนอนหลับได้ตลอดคืนและหลับได้ระยะๆ มีความรู้สึกอยากอาเจียนอยู่ตลอดเวลา แต่ไม่มีสิ่งใดออกมาจากร่างกายอีก ทั้งยังเวียนหัวตลอดเวลา พะอืดพะอืม เรอ และรู้สึกว่าหัวใจเต้นเร็วกว่าปกติอยู่ตลอดเวลา โดยตลอดการเข้าพบกับทนายความ ทั้งคู่มีอาการจะอาเจียนตลอดเวลา แต่ไม่มีสิ่งใดออกมาจากร่างกาย
.
ในเวลาเช้าของวันนี้ ก่อนที่จะมีการเข้าเยี่ยม ตะวันและแบมแจ้งว่าได้มีบุคคลที่แจ้งว่าตนเป็นผู้อำนวยการ นำบันทึกข้อความมาเพื่อให้ทั้งคู่มอบความยินยอมที่จะนำพาตนไปรักษาที่โรงพยาบาลอื่น โดยบุคคลดังกล่าวได้พูดคุยกับทั้งคู่เป็นอย่างดี และมีเจ้าหน้าที่แจ้งประกอบว่าให้เห็นใจพวกตนที่ต้องเฝ้าตะวันและแบมด้วย ตะวันและแบมจึงเกิดความเกรงใจและให้ความยินยอมด้วยการเขียนบันทึกข้อความดังกล่าว ซึ่งไม่มีการระบุว่าเป็นโรงพยาบาลแห่งใด ต่อมาเมื่อทราบว่าทางโรงพยาบาลราชทัณฑ์แจ้งว่าจะส่งทั้งคู่ไปโรงพยาบาลตำรวจ ตะวันและแบมจึงได้ทำการแจ้งว่าขอเดินทางไปที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ เพราะมั่นใจว่าโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ไม่อยู่ภายใต้การควบคุมของกรมราชทัณฑ์
.
ทั้งนี้ ทั้งคู่ยังยืนว่าจะอดน้ำและอาหารต่อไป การเดินทางไปยังโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ หากทางแพทย์ต้องการประสงค์จะดำเนินการไปด้วยการใด จะต้องเป็นไปตามเงื่อนไขและความยินยอมของตะวันและแบมเท่านั้น
.
ทนายความได้แจ้งความประสงค์ของตะวันและแบมต่อโรงพยาบาลราชทัณฑ์เป็นหนังสือ พร้อมทั้งให้ทั้งคู่แจ้งความจำนงถึงความต้องการที่จะเดินทางไปโรงพยาบาลของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ตั้งแต่ช่วงบ่ายของวันเดียวกัน
.
ในวันนี้ ทั้งคู่ได้แจ้งความประสงค์ฝากข้อความถึงพ่อกับแม่ ซึ่งทนายความได้แจ้งแก่แบมว่าพ่อของแบมได้โทรมาหา และฝากข้อความมาว่า “พ่ออยู่ข้างแบมนะ” ซึ่งทำให้แบมร้องไห้ออกมา พร้อมฝากข้อความว่า ในวันที่ตนเดินทางออกจากบ้านมานั้น พ่อได้ตะโกนบอกแบมว่า “ต้องกลับมาหาพ่อให้ได้” และแบมได้สัญญาไว้แล้วว่าจะกลับไป
ด้านตะวัน แจ้งความประสงค์ให้ฝากข้อความถึงพ่อกับแม่ของตนว่า “หนูรู้ว่าพ่อแม่เข้มแข็งมาก หนูไม่ยอมแพ้หรอก หนูยังสู้อยู่นะ อยากให้พ่อแม่รู้ว่าหนูเองก็ยังสู้อยู่ทุกวินาที พ่อแม่ก็รู้ว่าหนูไม่เคยยอมแพ้ไม่ว่ากับเรื่องอะไร เรื่องนี้หนูก็จะไม่ยอมแพ้มันอีกเช่นกัน” พร้อมทั้งร้องไห้เช่นกัน
.
อนึ่ง ทั้งคู่ได้รับทราบว่าหากไม่มีการส่งตัวทั้งสองไปยังโรงพยาบาลแห่งอื่น ทั้งสองเข้าใจว่าจะมีอันตรายถึงชีวิตได้ แต่ยังคงยืนยันเช่นเดิม
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'รังสิมันต์' ลั่นกมธ.มั่นคงฯมีอำนาจตรวจสอบเทวดาชั้น 14 ท้า 'ทักษิณ' บริสุทธิ์จริงต้องมาชี้แจง
'รังสิมันต์' ลั่นกมธ.มั่นคงฯมีอำนาจตรวจสอบเทวดาชั้น 14 ยันไม่ซ้ำซ้อนคณะอื่น รับทำงานลำบากหน่วยงานไม่ให้ข้อมูล ท้า 'ทักษิณ' บริสุทธิ์จริงต้องมาชี้แจง วอนขรก.น้ำดีหากพบพิรุธส่งมาให้กมธ.
'จตุพร' ซัด 'ทักษิณป่วยทิพย์' สุมหัวปล้นยุติธรรม จี้ 'พรรคส้ม' ขยี้ให้จริงไม่ใช่โฉบไปเฉี่ยวมา
นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊กไลฟ์ตำหนิ รพ.ตำรวจและเรือนจำพิเศษกรุงเทพ รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ลุ้น! ศาลไต่สวน-ออกหมายขัง 'นักโทษเทวดา' ใกล้ตกสวรรค์
นายไพศาล พืชมงคล นักกฎหมาย โพสต์เฟซบุ๊กว่าเทวดาที่ไม่ติดคุกแม้แต่วันเดียวใกล้จะตกสวรรค์แล้ว คณะกรรมาธิการความมั่นคงของสภาผู้แทน ได้ตรวจสอบแล้วแถลงเมื่อวานนี้ว่า
ปปช.ขอเวชระเบียนรพ.ตำรวจ 3 ครั้งไม่ให้ ต้องใช้สภาพบังคับตามพ.ร.บ.ปปช. งานนี้ มีติดคุก
นายพิชิต ไชยมงคล แกนนำกลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) โพสต์เฟซบุ๊กว่า ต้องใช้ไม้แข็ง
ชั้น 14 พ่นพิษ จับพิรุธ รพ.ตำรวจ-ราชทัณฑ์ ไม่ส่งเวชระเบียนและภาพถ่าย 'ทักษิณ' ร่อแร่รับกรรม
'จตุพร' ชำแหละ 'ทักษิณ'ป่วยทิพย์ เริ่มปิดไม่ลับ จ่อพ่นพิษให้รับกรรมบั้นปลายชีวิต 'เสรีพิศุทธ์' ชนหนัก เล่าสภาพนักโทษป่วยวิกฤตใส่กางเกงขาสั้น เสื้อเชิ้ต มีเด็กรับใช้คอยบริการเสิร์ฟ ใช้ห้องคนป่วยพิเศษรับแขก จับพิรุธ รพ.ตำรวจ-ราชทัณฑ์ ไม่ส่งเวชระเบียนและภาพถ่าย ส่อไม่มีจริง เตือนเจ้าหน้าที่ลาภมิควรได้แลกกับชีวิตราชการคุ้มกันหรือ?
โฆษกรทสช. มั่นใจขั้วรัฐบาลมีเอกภาพ วอนทุกฝ่ายหนุนร่างพรบ.สร้างเสริมสังคมสันติสุข
โฆษก รทสช. มั่นใจขั้วรัฐบาลมีเอกภาพ สะท้อนจากการลงมติรายงานนิรโทษกรรม วอนทุกฝ่ายหนุนกฎหมายสร้างเสริมสังคมสันติสุขเข้าสภาฯ นิรโทษผู้กระทำผิดทางการเมือง ยกเว้น ม.112 พาประเทศไทยออกจากวังวนของความขัดแย้งห้วง20ปี