‘ธนาธร’ ลั่น 2566 ปีที่ประเทศไทย ต้องไม่เหมือนเดิม

1 ม.ค.2566-นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก Thanathorn Juangroongruangkit – ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวข้อ “2566: ปีที่ประเทศไทยต้องไม่เหมือนเดิม” ระบุว่า ผ่านพ้นปี 2565 กันแล้ว สองปีที่ผ่านมา โลกขับเคลื่อนด้วยการต่อสู้กับโควิด เรานึกกันว่าปี 2565 สถานการณ์จะดีขึ้น แต่เปล่าเลย ในปีที่ผ่านมา โลกขับเคลื่อนด้วยสงครามยูเครน อาหารและวัตถุดิบแพงขึ้นเพราะสงคราม การเมืองระหว่างประเทศเข้มข้นไปด้วยความพยายามจำกัดอิทธิพลของจีนและรัสเชีย การแบ่งขั้วทางเศรษฐกิจเป็นสองค่ายเริ่มชัดเจนขึ้นในปี 2565 รูปธรรมที่ชัดเจนที่สุดของการ “แกะ” ความเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจออกจากกันคือการที่อเมริกาและยุโรปสกัดไม่ให้จีนเข้าถึงเทคโนโลยีด้านการผลิตชิป ซึ่งเป็นเทคโนโลยีแห่งอนาคตในทุกด้าน เช่นรถยนต์ไฟฟ้า, การสื่อสาร หรืออาวุธสงครามสมัยใหม่ 

รัฐบาลทั่วโลกพยายามควบคุมเงินเฟ้อ ขณะเดียวกับที่รักษาการเติบโตทางเศรษฐกิจ อาจเรียกได้ว่า ปี 2565 เป็นปีสุดท้ายของช่วงเวลาเงินถูก ดอกเบี้ยทั่วโลกในรอบ 10 ปีกว่าที่ผ่านมาอยู่ในระดับต่ำ เพราะการอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบของธนาคารกลางทั่วโลก ยุคสมัยนั้นจบไปพร้อมกับปี 2565 อัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นเร็วมากที่สุดในรอบหลายสิปปีในปี 2565 และจะไม่กลับไปต่ำแบบเดิมอีก ธนาคารกลางทั่วโลกจะปรับเป้าหมายเงินเฟ้อใหม่ ซึ่งอาจอยู่ในระดับ ร้อยละ 4 ต่อปี จากเป้าเดิมที่ร้อยละ 2

ในขณะเดียวกัน ราคาพลังงานทั้งปีผันผวนเนื่องจากความไม่แน่นอนของสงคราม ทุกประเทศต้องชั่งน้ำหนักว่าจะเอาพลังงานที่ “ถูก” หรือ “สะอาด” รัฐบาลหลายประเทศในระยะสั้นหันกลับมาใช้พลังงานดั้งเดิมที่ถูกกว่า ปี 2565 จะถูกบันทึกไว้ว่าเป็นปีที่เป้าหมายของสนธิสัญญาปารีสในการควบคุมอุณหภูมิไม่ให้เพิ่มขึ้นเกิน 1.5 องศาเซลเซียสจากยุคก่อนอุตสาหกรรม ล้มเหลว

เมื่อหันกลับมามองประเทศไทย เผลอเพียงกระพริบตา รัฐบาลปัจจุบันอยู่มาจะครบสี่ปีแล้ว โจทย์เดิมตั้งแต่การเลือกตั้งปี 2562 ที่เป็นปัญหาสำคัญของประเทศ 3 ปัญหา ยังไม่ถูกแก้ไข ความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจยังเป็นปัญหาใหญ่ โควิดยิ่งซ้ำเดิมสถานการณ์ คนจนและคนชั้นกลางมีหนี้สินมากขึ้น ขณะที่บริษัทใหญ่ๆ ไม่ได้ทำกำไรลดลงเลย ช่องว่างระหว่างคนรวยกับคนจนกว้างขึ้นไปทุกที ขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศตกต่ำลงเมื่อเทียบกับโลก โลกาภิวัฒน์พาโลกเดินหน้าไปทุกวัน ประเทศไหนเดินช้ากว่าโลกคือถอยหลัง แต่เรายังคงหาเครื่องยนต์ขับเคลื่อนเศรษฐกิจใหม่ของประเทศไม่เจอ และนั่นนำมาสู่ปัญหาสุดท้าย คือการเมืองที่ไม่เป็นประชาธิปไตย อำนาจสูงสุดยังไม่เป็นของประชาชน พรรคทหารยังพยายามสืบทอดอำนาจ แม้จะแบ่งเป็นสองพรรคก็ตาม อำนาจสมาชิกวุฒิสภาในการเลือกนายกรัฐมนตรี ยังเป็นโจทย์ใหญ่ที่บิดเบือนการตัดสินใจของพรรคการเมืองและประชาชนจนถึงในปัจจุบัน

ประเทศไทยยังไม่หมดหวัง เรายังดีกว่านี้ได้ ผมเชื่ออย่างนั้นมาเสมอ ปีใหม่นี้ก็ยังเชื่อเช่นนั้น ปี 2566 เป็นปีแห่งความหวัง เป็นปีแห่งความเปลี่ยนแปลง ผมหวังอย่างยิ่งว่า ปี 2566 จะนำมาซึ่งสันติภาพในการเมืองโลก และประชาธิปไตยในประเทศไทย

ขอต้อนรับกระต่ายประชาธิปไตย ขอให้พี่น้องประชาชนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ใช้ชีวิตอย่างมีความหวังกำลังใจ มีงานที่ดีทำ มีความมั่นคงในชีวิต พวกเราสัญญาเช่นเดิมว่าจะยืนข้างประชาชนตลอดปี 2566

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'อนุทิน' ถามใครหลอกประชาชนกันแน่ พรรคส้มคิดแก้ ม.112 ชัดเจน แถมยังจะล้างคดีให้ด้วย

นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯ รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ถึงโอกาสในการจัดตั้งรัฐบาล แต่หลายพรรคกลับปฏิเสธไม่ร่วมรัฐบาลกับพรรคกล้าธรรม ทำให้เกิดความกดดันกับพรรคภูมิใจไทยหรือไม่ ว่า ฟังการตัดสินจากประชาชน

พรรค‘ปชน.’ขอโทษจากใจ วอน‘ประชาชน’ไปต่อด้วยกัน

ภาพที่หัวหน้าพรรคสีส้มทุกยุคสมัยมาปรากฏตัวพร้อมหน้าบนเวทีเดียวกันไม่ได้เกิดขึ้นให้เห็นบ่อยนัก เอาเข้าจริงอาจจะยิ่งกว่าเวทีปราศรัยใหญ่ก่อนเลือกตั้งทุกครั้งด้วยซ้ำ เพราะในกิจกรรม

'ธนาธร' กล้าพูด หาก 'พิธา' เป็นนายกฯ สถานการณ์ชายแดนจะไม่มาถึงจุดนี้เด็ดขาด

นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กล่าวในกิจกรรม “ปิกนิก พรรคประชาชนพบประชาชน ขอโทษจากใจขอไปต่อด้วยกัน”

หัวหน้าเท้งเผาบ้านต่อสื่อนอก! บอกไทยไม่ใช่เหยื่อแต่เป็นศูนย์กลางฟอกเงิน

'ณัฐพงษ์-ศิริกัญญา' ร่วมฟังเสวนาชำแหละขุมทรัพย์เจ้าพ่อสแกมเมอร์ พร้อมพูดคุย 'ทอม ไรท์' ขณะ 'เท้ง' ลั่น หาก 'ปชน.' เป็นรัฐบาล จะถือเป็นวาระเร่งด่วน เอาจริงปราบสแกมเมอร์-เปิดโปงเครือข่ายทุนเทาในประเทศ