แนะแก้กม.เพิ่มโทษ 'ทุจริตรีดสินบน' จำคุกตลอดชีวิตถึงประหาร พร้อมยึดทรัพย์

29 ธ.ค.2565 - ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม  ก่อนเข้าสู่วาระเปิดให้สมาชิกหารือปัญหาความเดือดร้อน นายพิสิฐ ลี้อาธรรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ หารือถึงการแก้ปัญหาการเรียกรับผลประโยชน์ในการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการ ภายหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจและป.ป.ช.เข้าจับกุมอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชว่า การแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการกลายเป็นสินค้าซื้อขาย เป็นโควตาผู้มีอำนาจ ต้องจัดระบบแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการให้ถูกต้อง เป็นธรรมและโปร่งใส กฎหมายปราบทุจริตต้องเข้มข้นมากกว่านี้ มีบทลงโทษรุนแรง เช่น ประเทศจีนมีโทษสูงสุดประหารชีวิต ขอเสนอแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา กำหนดโทษผู้เรียกรับทรัพย์หรือรับผลประโยชน์ จากเดิมจำคุกไม่เกิน 5ปี ปรับไม่เกิน 100,000บาท เป็น จำคุก 15-20ปี หรือจำคุกตลอดชีวิต ปรับตั้งแต่ 100,000 -400,000 บาท หรือมีโทษประหารชีวิต และแก้ไขประมวลกฎหมายอาญาเพิ่มเติม ให้ศาลมีคำสั่งยึดทรัพย์สินให้ตกเป็นของแผ่นดินเว้นแต่จะพิสูจน์ได้ว่า ไม่เกี่ยวกับการทำความผิด รวมถึงแก้ไขกฎหมายป.ป.ช. มาตรา34 การให้รางวัลสินบนนำจับแก่ผู้แจ้งเบาะแสตามระเบียบ 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'บัญญัติ' รับได้ฉายา 'ประชาธิเป๋' บอกอีกสักพักก็แข็งแรงเดินตรงมากขึ้น

นายบัญญัติ บรรทัดฐาน สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงฉายาที่สื่อรัฐสภา ตั้งให้กับสภาผู้แทนราษฎรว่า “เหลี่ยม(จน)ชิน ว่าตรงกับที่ตนวิเคราะห์แล้วว่ารัฐบาลนี้ก็อยู่ด้วยการช่วงชิงกันมาตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว

‘อภิสิทธิ์’ ปัดข่าวลือซุ่มตั้งพรรคใหม่ ย้ำหาก ‘ปชป.’ ยังเป็นแบบนี้ ไม่มีทางคัมแบ็ก

ขณะนี้ ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคการเมืองใด  ที่ก็ไม่แปลกเพราะขณะนี้หาพรรคการเมืองที่เราคิดว่าเราสนิทใจในการที่จะเป็นสมาชิกพรรคไม่ได้อยู่แล้ว

'อดีตแม่ยกปชป.' ฟันธงเลือกตั้งนายกอบจ.นครฯแค่เริ่มต้น เลือกตั้งใหญ่จะบาดเจ็บสาหัสกว่านี้

นางกาญจนี วัลยะเสวี หรือ ติ๊งต่าง เจ้าของฉายาไฮโซสปอร์ตคลับและแกนนำกลุ่ม ชาวไทยหัวใจรักสงบ อดีตแม่ยกพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก ระบุว่า

'จิราพร' ยันไม่ล่าช้า เพิกถอนใบอนุญาต 'ดิไอคอน' รอข้อสรุปกฤษฎีกา 20 พ.ย.นี้

น.ส.จิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ กล่าวความถึงความคืบหน้าถอนใบอนุญาตคดี ดิไอคอนกรุ๊ปว่า สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค หรือ  (สคบ.) แสวงหาข้อมูลเพื่อประกอบการพิจารณาว่าสมควรถอนใบอนุญาตหรือไม่