6 ธ.ค.2565 - หลังจากที่ พล.อ.สกล ชื่นตระกูล หรือ บิ๊กแขก สมาชิกวุฒิ ถึงแก่อนิจกรรม ด้วยการติดเชื้อในกระแสเลือด เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ทำให้จำนวนสมาชิกวุฒิสภา ขณะนี้เหลืออยู่ 248 คน สำหรับรายชื่อบุคคลสำรองสำหรับการคัดเลือกให้ดำรงตำแหน่งสมาชิกวุฒิสภา ตามประกาศคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ ฉบับที่ 2/2565 เพื่อนำขึ้นทูลเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นสมาชิกวุฒิสภา แทนตำแหน่งที่ว่าง ในลำดับถัดไป ได้แก่ พลตำรวจโท อำนวย นิ่มมะโน อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล อดีตรองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และอดีตรองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล
ล่าสุด พล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน กรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม ได้โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กว่า สละสิทธิการเป็นสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) เพราะเหตุใด?
ก่อนอื่นต้องขอขอบพระคุณบรรดาเพื่อนพ้องน้องพี่ ที่ได้แสดงความยินดีต่อการที่กระผมจะได้เข้ารับตำแหน่งสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) แทนตำแหน่งที่ว่าง ทันทีที่ได้รับหนังสือแจ้งจากเลขาธิการวุฒิสภา กำหนดให้ตอบรับตำแหน่งภายในวันที่ 6 ธันวาคม 2565 ทำให้กระผมต้องกลับมาคิดว่า ระหว่างการเป็นสมาชิกวุฒิสภาซึ่งถือเป็นตำแหน่งอันทรงเกียรติกับการที่จะเข้าไปเป็นคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) หรือคณะกรรมการอิสระคณะใดคณะหนึ่งตามพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติฉบับใหม่ เพื่อจะได้ช่วยผลักดันให้การปฏิรูปตำรวจเป็นไปตามเจตนารมณ์ของกฎหมายได้อย่างแท้จริง เพราะกระผมเป็นทั้งกรรมการยกร่างและเป็นกรรมาธิการวิสามัญของรัฐสภา เรียกได้ว่าเกี่ยวข้องกับพระราชบัญญัติฉบับนี้มาตั้งแต่เริ่มยกร่างจนกระทั่งผ่านความเห็นชอบของรัฐสภา
ซึ่งตามพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาตินอกจากจะมีคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) แล้ว ยังกำหนดให้มีคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ (ก.พ.ค.ตร.) และคณะกรรมการพิจารณาเรื่องร้องเรียนตำรวจ (ก.ร.ตร.) ซึ่งองค์กรหนึ่งจะมาทำหน้าที่บำบัดทุกข์ให้กับประชาชนในการที่จะพิจารณาเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับความเดือดร้อนหรือไม่ได้รับความเป็นธรรมของประชาชน จากการกระทำหรือไม่กระทำการของตำรวจอันมิชอบ หรือการประพฤติปฏิบัติไม่เหมาะสมและเสื่อมเสียแก่เกียรติศักดิ์ของตำรวจ กระทำผิดวินัยหรือละเมิดประมวลจริยธรรมและจรรยาบรรณของตำรวจ (ก.ร.ตร.) กับอีกองค์กรหนึ่งทำหน้าที่บำบัดทุกข์ให้กับข้าราชการตำรวจ
โดยเฉพาะความเป็นธรรมในการแต่งตั้งและโยกย้าย ให้เป็นไปตามระบบคุณธรรมอย่างแท้จริง (ก.พ.ค.ตร.) เรียกได้ว่ามาตรวจสอบ กำกับดูแล ก.ตร. อีกชั้นหนึ่ง สำหรับองค์ประกอบของ ก.ตร. แม้ว่าจะไม่สามารถสกัดกั้นอำนาจทางการเมืองได้อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด แต่ก็ได้พยายามสร้างองค์ประกอบให้มีการถ่วงดุลให้ได้มากที่สุด โดยกำหนดให้ที่มาของคณะกรรมการตำรวจผู้ทรงคุณวุฒิใน ก.ตร. ซึ่งมาจากการเลือกตั้งก็ได้มีการบัญญัติให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มาจัดการเลือกตั้งแทนสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่จะจัดกันเองเพื่อให้เกิดความบริสุทธิ์ยุติธรรม ผู้ที่ได้รับเลือกจะได้เป็นตัวแทนของข้าราชการตำรวจอย่างแท้จริง ไม่ใช่เป็นการสืบทอดอำนาจไม่ว่าจะภายในหรือภายนอกสำนักงานตำรวจแห่งชาติอย่างเช่นที่เคยเป็นมา.....
กระผมจึงตัดสินใจโดยไม่ลังเลใจแม้แต่น้อย ลงสมัครรับการเลือกตั้งเป็นคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ผู้ทรงคุณวุฒิโดยทันที และได้มีหนังสือฉบับลงวันที่ 6 ธันวาคม 2565 ถึงเลขาธิการวุฒิสภา ขอสละสิทธิ์ไม่ขอรับตำแหน่งสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) แทนตำแหน่งที่ว่าง ด้วยเห็นว่าหากกระผมได้รับการเลือกตั้งเป็นคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) หรือคณะกรรมการอิสระคณะอื่นที่สร้างขึ้นใหม่ กระผมจะสามารถช่วยผลักดันให้พระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติฉบับนี้ เป็นไปในทิศทางที่ถูกต้องตามเจตนารมณ์เพื่อการปฏิรูปองค์กรตำรวจได้อย่างแท้จริง ตัวอย่างเช่น การปฏิรูปงานอำนวยความยุติธรรมในทางอาญา ให้มีความเป็นอิสระปราศจากการแทรกแซง โดยให้งานสืบสวนสอบสวนเป็นกลุ่มงานเดียวกันและเป็นตำแหน่งเลื่อนไหลจนถึง รองผู้บังคับการ ดังปรากฏรายละเอียดตามคำอภิปรายชี้แจงต่อสมาชิกรัฐสภาตามลิงค์ต่อไปนี้“https://www.facebook.com/100035392371733/videos/718083846128054/”
อันจะเป็นการทำให้กระผมได้มีโอกาสทำงานตอบแทนองค์กรตำรวจซึ่งเป็นองค์กรที่รักยิ่งของกระผมโดยตรง และผลจากการที่องค์กรตำรวจได้รับการปฏิรูป ไปในทิศทางที่ถูกต้องจะเกิดผลดีต่อประชาชน สังคม และประเทศชาติดังที่ได้ตั้งความหวังไว้กับการ "ปฏิรูปตำรวจ" จึงขอขอบคุณเพื่อนพ้องน้องพี่ที่แสดงความยินดีและขออภัยที่กระผมสละตำแหน่ง ส.ว. และใคร่ขอให้กลับมาให้กำลังใจกันใหม่ โดยช่วยสนับสนุนให้ได้รับเลือกตั้งเป็น ก.ตร. แทนนะครับผม
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
กระจ่าง! ดร.ณัฏฐ์ นักกฎหมายมหาชน ชี้กรณีคุณสมบัติ 'สว.หมอเกศ'
“ดร.ณัฏฐ์” นักกฎหมายมหาชน ชี้ กรณี สว.หมอเกศ ปริญญาเอกและตำแหน่งศาสตราจารย์ หากไม่จริง เป็นการโชว์เหนือ หลอกลวงเพื่อจูงใจให้ผู้สมัคร สว.ด้วยกัน เข้าใจผิดในคุณสมบัติ ความรู้ ความสามารถของตนเอง
'สว.ชิบ' เค้นรัฐบาล! ใครสั่งโยกคดี 'ดิไอคอน' ให้ดีเอสไอ หวั่นบอสรอดคุก
'สว.ชิบ' ตั้งกระทู้ถามนายกฯ ข้องใจคำสั่งจากใคร ทำให้รัฐบาลโยกคดี 'ดิ ไอคอน' ใส่มือดีเอสไอ หวั่นสรุปคดีไม่ทันเวลา เปิดโอกาสบรรดา 'บอส' รอดคุก
ทั่วโลกจับตา! 'คดีตากใบ' สะท้อนไทยล้มเหลว ปล่อยละเมิดสิทธิมนุษยชนซ้ำ
แอมเนสตี้ฯ ประเทศไทย หวั่นคดีตากใบหมดอายุความ กลายเป็นใบเบิกทางละเมิดสิทธิมนุษยชนซ้ำแล้วซ้ำเล่าอีก ชี้ชัด ทั่วโลกจับตาดูอยู่ เชื่อจะเป็นเรื่องที่ถูกพูดถึงบนเวทีสาธารณะระหว่างประเทศต่อเนื่อง
ชวน 'นายกฯอิ๊งค์' ลงใต้ ฟังความทุกข์ทรมานจากปาก 'เหยื่อ-ครอบครัวผู้เสียชีวิต'
'อังคณา' ชี้รัฐบาลพท.-แพทองธาร ปฏิเสธความรับผิดชอบคดีตากใบไม่ได้ ชวนนายกฯ ลงใต้ ฟังความทุกข์ทรมานจากปากเหยื่อ-ครอบครัวผู้เสียชีวิต เตือนระวังคนรู้สึกไม่เป็นธรรม อาจเข้าร่วมขบวนการก่อเหตุ
สว. ห่วงบีอาร์เอ็นฉวย 'คดีตากใบ' โหมไฟใต้ วอนหน่วยมั่นคงป้องเหตุร้าย
'สว.' ห่วงสถานการณ์ชายแดนใต้ ชี้บีอาร์เอ็นฉวยคดีตากใบโหมไฟใต้ วอนหน่วยความมั่นคงบูรณาการปกครองรับมือ ป้องเหตุร้ายสถานที่ราชการ-ร้านค้า-ปั้มน้ำมัน-ชุมชนไทยพุทธ
'7 บิ๊กขรก.' พึงสังวร! หนีคดีตากใบ ต้องอยู่กับรอยเปื้อนใหญ่ตลอดชีวิต
นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า ผู้ต้องหาที่หลบหนีในคดีตากใบ ล้วนเป็นอดีตข้าราชการระดับสูงทั้งสิ้น อาทิ