'ณัฐวุฒิ' ผิดคิวทำปืนลั่น! ชาวเน็ตเชียร์ขุดอย่าหยุดปม 'ตู้ห่าว'

2 ธ.ค.2565 - นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก มีรายละเอียดดังนี้

ปรับครม.ของพี่คนน้องคน ประชาชนไม่ได้อะไร ?

สังคมไทยวันนี้กำลังติดตามจับตาความเป็นไปของ 2 เครือข่าย 1) เครือข่าย “ตู้ห่าว” 2) เครือข่าย “ตู่หาว”

เอาที่ “ตู้ห่าว” ก่อน ชายคนนี้เป็นคนสัญชาติจีน เข้ามาทำมาหากินมีครอบครัวในประเทศไทย ถ้าโปร่งใสตรงไปตรงมาไม่ว่ากันนะครับ แต่นี่เข้ามาทำธุรกิจใต้ดินกลิ่นไม่ดี มีพิรุธ และกำลังถูกดำเนินคดีตามกฎหมายอยู่ในเวลานี้ เรื่องมันแดงขึ้นมาสาวไส้ออกมาก็ยิ่งเห็นภาพชัดว่ามันมีเครือข่ายอิทธิพลนอกระบบใหญ่โต ซึ่งขบวนการทุนข้ามชาตินอกระบบพวกนี้เข้ามาเดินยืดอยู่ในประเทศไทยได้มันมีเหตุผลเดียวเท่านั้นแหละครับ เขาต้องมีสัมพันธภาพที่ดีกับผู้มีอำนาจทางการเมืองและเครือข่ายกลไกรัฐ ซึ่งเครื่องมือเดียวที่จะทำให้สัมพันธภาพนี้ดีขึ้นมาได้ก็คือผลประโยชน์เป็นเม็ดเงิน

เฉพาะ “ตู้ห่าว” เครือข่ายเดียว มีการตรวจค้นมีการเจาะลึกทำให้คนไทยทั้งประเทศตกตะลึงว่า 8 ปีที่ผ่านมาของพล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งบอกว่าเป็นรัฐบาลคนดี เข้ามาปฏิรูปประเทศ จะบังคับใช้กฎหมายอย่างเด็ดขาด แล้วบ้านเมืองมาถึงวันนี้ได้ยังไง?

นายกรัฐมนตรีประยุทธ์ปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ล่ะครับ เพราะตลอดเวลา 8 ปีที่ผ่านมาเรายังนับไม่ถูกเลยว่าเครือข่ายใต้ดินพวกนี้เข้ามาแล้วสร้างความเสียหายให้กับประเทศไปแล้วขนาดไหน? ยาเสพติดเต็มบ้านเต็มเมืองทุกตรอกซอกซอย แต่คนพวกนี้กำลังยืนอยู่ในจุดบนสุดของสังคม มีเงินมีทองจับจ่ายใช้สอยได้ตามอำเภอใจ

พูดถึงเรื่องนี้ก็นึกถึงภาพย้อนหลังไปเราจะเห็นว่า “ตู้ห่าว” คนนี้ นอกจากทำมาหากินสีเทาใต้ดินแล้ว ยังเข้าไปเป็นผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการให้พรรคพลังประชารัฐ เป็นผู้บริจาคเงินเข้าบัญชี มีหลักฐานในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา เฉพาะที่มีหลักฐานก็สามล้านนะครับ แล้วใครจะกล้าฟันธงมั้ยว่าไม่มีการให้กันนอกระบบ ไม่มีการเติมเงินให้พรรคการเมืองนี้เอาไปใช้จ่ายในสนามเลือกตั้ง

นี่ไงครับ! คนพวกนี้ถึงเข้ามาก่อการอยู่ในประเทศไทยได้ แล้วพอพลังประชารัฐเป็นรัฐบาลมาสามปีกว่า ๆ ที่เพิ่งด่ากันจบไปหยก ๆ ไงครับ กรณีรัฐบาลจะแก้ประกาศกระทรวงมหาดไทยให้ชาวต่างชาติเข้ามาลงทุนได้ 1 ล้านดอลลาร์ แล้วซื้อที่ดินได้ 1 ไร่ ถ้าผ่านไปบังคับใช้ ใครครับจะมาก่อน? ก็คนพวกนี้ไงครับ ตัวอย่างที่เป็นรูปธรรม หมู่บ้านหรู ๆ หลายแห่งในกรุงเทพมหานคร ราคา 30 ล้าน 60 ล้าน 100 ล้าน คนพวกนี้ยกโขยงกันมาซื้อยกโครงการ ที่ซอยลาซาล หมู่บ้านมี 66 หลัง เครือข่าย “ตู้ห่าว” และพวก ซื้อไปแล้ว 50 หลัง โดยนอมินีเป็นคนไทย คอนโดบางแห่งซื้อยกชั้น ยกสองชั้น ยกสามชั้น บ้านเดียวบางหลังราคา 100 ล้าน ใช้นอมินีคนไทยไปเป็นผู้ซื้อ

นี่ถ้าชาวบ้านไม่ช่วยกันด่า เป็นไปได้อย่างยิ่งว่าเครือข่ายทุนสีเทานอกระบบเหล่านี้จะครอบครองเป็นเจ้าของที่ดินผืนใหญ่ในประเทศไทยไว้มากมาย ก็ให้นอมินีคนไทยซื้อต่อ ๆ กัน คนละไร่ ๆ 50 ไร่ 100 ไร่ เขาทำได้!

คนในรัฐบาลชุดนี้นอกจากจะกินเงินสกปรกจากขบวนการสกปรกแล้ว ส่อว่าคิดถึงขั้นจะขายแผ่นดินให้กับพวกใต้ดินด้วย!!!

ไหนล่ะครับการปฏิรูป? ไหนล่ะครับการบังคับใช้กฎหมาย?

พล.อ.ประยุทธ์ จะอ้างว่าก็กำลังปราบอยู่นี่ไม่ได้นะครับ ท่านมีอำนาจมา 8 ปี เฉพาะรัฐบาลนี้ก็อยู่มา3 ปีกว่า ๆ เรื่องเพิ่งเข้าหูเข้าตาเอาวันนี้เหรอครับ? เพิ่งคิดจะตาม คิดจะจับเอาวันนี้เหรอครับ?

นี่คนยังมองกันอยู่เลยว่าส่วนหนึ่งน่ะ เป็นเกมการเมือง ท่านต้องการจะเด็ดปีกเด็ดหางผู้ช่วยสำคัญคนหนึ่งของพล.อ.ประวิตร ใช่หรือไม่? และนั่นหมายความว่า ถ้าไม่มีความขัดแย้งกันทางการเมือง คนพวกนี้ก็ยังคงจะขยายอิทธิพลต่อไปเรื่อย ๆ หรือยังไง?

8 ปีแล้วนะครับที่ลูก ๆ หลาน ๆ หลายคนที่คิดต่างเห็นไม่ตรงกับฝ่ายผู้มีอำนาจต้องพาตัวหลบภัยไปใช้ชีวิตต่างแดน ในทางกลับกัน ขบวนการทุนข้ามชาติพวกนี้ทำอีลุ่ยฉุยแฉกไว้ที่ไหนก็ตาม กลับเข้ามาเดินอย่างสง่างามในประเทศไทย มันหมายความว่ายังไงครับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่รัฐ ที่ท่านกำลังทำงานกันอย่างเข้มข้น ถ้าโปร่งใสตรงไปตรงมา ท่านเดินหน้าไปเลยนะครับ ประชาชนเขาเอาใจช่วย เขาให้กำลังใจ

อีกเครือข่ายหนึ่งก็ “ตู่หาว” หมายถึงคนชื่อ “ตู่” ผู้มีอำนาจบาตรใหญ่เวลานี้คงกำลังนั่งหาวล่ะครับ เพราะทำยังไงคะแนนนิยมก็ไม่กระเตื้องขึ้นซะที จัดเอเปคก็แล้ว กระแสก็ยังตกต่ำอยู่อย่างเก่า ยิ่งต้องแยกตัวออกจากพล.อ.ประวิตร มาเป็นพรรครวมไทยสร้างชาติ แทนที่ผู้เห็นเหตุการณ์จะวิจารณ์ว่านี่คือการแตกมาเพื่อโต กลับกลายเป็นว่าใครก็ตามที่พูดเรื่องนี้ฟันธงตรงกัน 100% ว่ายิ่งแยกตัวจะยิ่งเล็กลง แบบนี้ “ตู่” จะไม่หาวได้ยังไงกันล่ะครับ

ส่วนคำถามที่ว่าเมื่อไหร่ พล.อ.ประยุทธ์ จะสมัครเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ ในทัศนะผม ถ้าพอมีสำนึกยางอายอยู่บ้างจะไม่เห็นการสมัครเป็นสมาชิกจนกว่าจะยุบสภา แต่ก็ไม่แน่นะครับ เห็นเนติบริกร ดร.วิษณุ แกตีไพ่ให้รายวันอยู่เหมือนกัน บอกว่าแม้ว่าจะเป็นแคนดิเดตนายกฯ จากพลังประชารัฐ ก็สามารถสมัครสมาชิกรวมไทยสร้างชาติได้ ไม่ผิดกฎหมาย นี่พูดอีกก็ถูกอีกล่ะครับ กฎหมายมันไม่ได้เขียนห้าม แต่ถามว่ามนุษย์มนาธรรมดาเขาจะคิดทำกันแบบนี้มั้ย? ก็ตัวคุณเป็นแคนดิเดตนายกฯ จากพรรคพลังประชารัฐ หมายความว่าได้ตำแหน่งนี้มาจากประชาชนที่เลือกพลังประชารัฐ แล้วส.ส.พลังประชารัฐยกมือให้ อยู่ 3 ปีกว่า ไม่คิดจะสมัครเป็นสมาชิก วันดีคืนดีไปสมัครสมาชิกพรรคอื่นซะอย่างนั้น แบบนี้จะเดินลอยหน้าลอยตาอยู่ได้ยังไง? ไอ้กฎหมายน่ะไม่ผิด จะไปเทียบกับคุณหญิงสุดารัตน์กับผู้ว่าฯ ชัชชาติ ไม่ได้ล่ะครับ เพราะว่าสองคนนั้นแม้ว่าจะเป็นแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคเพื่อไทย แต่วันนี้เดินออกจากพรรคไปไม่ได้มีตำแหน่งทางการเมืองใด ๆ จากคะแนนเสียงหรือส.ส.ของพรรค ต่างกับพล.อ.ประยุทธ์

ใครที่คิดว่าจะทำได้แบบที่ ดร.วิษณุ อธิบาย ไม่ใช้แค่แม่นกฎหมายนะครับ ต้องหน้าด้านด้วยถึงจะทำ!!!

ส่วนสถานการณ์การเมืองหลังจากนี้ก็คงเดินหน้าไปสู่การเลือกตั้งแล้วล่ะครับ เพราะล่าสุดศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยกฎหมายลูก 2 ฉบับ ผ่านฉลุย! เชื่อว่าไม่น่าจะมีเกมพิศดารใด ๆ จะขัดขวางหรือล้มการเลือกตั้งได้ ทุกพรรคเขาก็ขยับตัวไปสู่สนามเลือกตั้งแบบเดียวกันนะครับ รัฐบาลเพิ่งปรับคณะรัฐมนตรี มีรัฐมนตรีใหม่ขึ้นมา 3 คน เห็น 3 รายชื่อนี้ทำให้วิเคราะห์ได้ว่า นี่คือสัญญาณที่แม้ 2ป จะแยกทางกันไปกันคนละพรรค แต่สุดทางหลังการเลือกตั้งสามารถจะกลับมาจับมือกันได้ตลอดเวลา เพราะ 3 รายชื่อรัฐมนตรีหน้าใหม่คือการประนีประนอมกันของอำนาจ เพราะชื่อ 3 คนนี้มันชัดเลยนะครับ ว่าแม้ 2ป จะเหยียบตาปลากัน แต่ไม่ถึงขั้นควักลูกตากันครับ เขายังคุยกันรู้เรื่อง

ของประชาธิปัตย์ คุณนริศ ไม่มีปัญหาล่ะครับ เขาปรับกันตรง ๆ ให้ตำแหน่งที่ว่าง แต่อีก 2 เนี่ย คุณธนกร ก็แน่ ๆ ว่าเป็นสายตรงพล.อ.ประยุทธ์ ถึงวันนี้คงแยกจากกลุ่มสามมิตรไปแล้วล่ะครับ มารับตำแหน่งรัฐมนตรี ส่วนคุณสุนทร ปานแสงทอง อันนี้ถือว่าเป็นชื่อใหม่แบบม้ามืดของเวทีการเมืองระดับชาติ เขาคนนี้คือรองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการ รองจากคุณนันทิดานั่นแหละครับ ที่เป็นม้ามือมาแรงแซงทางโค้งได้ เหตุผลเดียวครับ เป็นการปรับยกเก้าอี้รัฐมนตรีให้ส.ส.ปากน้ำตามที่พล.อ.ประวิตรเคยรับปากไว้ก่อนหน้านี้ ก็พี่ป้อมได้คน น้องตู่ได้คน ส่วนประชาชนไม่ได้อะไรล่ะครับ

คือผมไม่ได้ปรามาสรัฐมนตรีใหม่ทั้ง 3 ท่านนะครับ แต่เวลาที่เหลืออีกแค่ 2-3 เดือนน่ะ ท่านคงจะทำอะไรกันได้ไม่มาก และแม้ว่ากติกาเลือกตั้งจะออกมาเป็นบัตร 2 ใบ หาร 100 กองเชียร์คอการเมืองทั้งหลายก็อย่าเพิ่งนิ่งนอนใจว่าแบบนี้ฝ่ายประชาธิปไตยมาแน่ เพื่อไทยแลนด์สไลด์ชัวร์ ๆ ยังครับ! เพราะว่าโจทย์มันคนละอย่าง

“เพื่อไทย” จำเป็นต้องแลนด์สไลด์ เพื่อเปลี่ยนข้างรัฐบาลเป็นของประชาชนให้ได้ แต่ฝ่ายพล.อ.ประยุทธ์กับพวก เขาไม่จะเป็นแบบนั้น เขาต้องการเพียง 100 กว่า 200 เสียง บวกกับ ส.ว. 250 คน ตั้งพล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ ก่อน แล้วเอาตำแหน่งนายกฯ นี่แหละครับไปตกงูเห่า เขาคิดกันแบบนี้

ดังนั้น ประชาชนผู้รักประชาธิปไตยและต้องการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลจริง ๆ ประมาทไม่ได้แม้แต่นาทีเดียว การตัดสินใจเด็ดขาดเอาฝ่ายประชาธิปไตยเป็นรัฐบาล ยังคงต้องเป็น “ธงนำ” ในการเลือกตั้งคราวนี้ ไม่งั้นพวก 2-3ป เอาไปกินแน่ครับ!

ส่วนฝ่ายค้านก็เห็นเขาขยับพยายามแต่งเนื้อแต่งตัวกันอยู่นะครับ “พรรคก้าวไกล” ก็ทยอยประกาศนโยบายออกมา ส่วน “เพื่อไทย” วันที่ 6 ธันวาคมนี้ก็จะมีการประชุมใหญ่ ข่าวเขาบอกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงกรรมการบริหารพรรคหลายตำแหน่ง ก็ไม่ต้องไปวิเคราะห์อะไรให้มันลึกซึ้งยาวความล่ะครับ เรื่องมันง่าย ๆ ว่าเขาทำเพื่อความคล่องตัวในการเดินหน้าในสนามเลือกตั้ง เอาส.ส.เขตซึ่งต้องประจำพื้นที่ออกจากกรรมการบริหาร แล้วเอาคนที่ไม่ใช่ส.ส.เขตเข้าไปทำหน้าที่แทน เวลาจะประชุม เวลาจะออกมติในสถานการณ์เลือกตั้ง มันทำได้คล่องตัวกว่าทำนั้นเอง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บนหน้าเพจ"นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ"ได้มีชาวเน็ตเข้าไปคอมเมนต์เป็นจำนวนมาก เช่น ทำปืนลั่น 555555 ,รู้สึกตัวหรือยัง สงสัยยังไม่รู้ตัว ,ขุดเยอะๆอย่าหยุดนะคะ เรารักคุณค่ะ,แล้วหมู่บ้านที่ซื้ออยู่เป็นของใครละในสมัยนั้น

ขอบคุณมากๆนะครับ ที่ขุดเรื่องนี้ทั้งที่คนเพื่อไทยเงียบทั้งพรรค ขุดต่อนะครับ คุณชูวิทย์ก็ให้รายละเอียดมากพอควร ขุดให้ถึงที่สุดนะครับ เอารายชื่อมาแฉเลยครับ ทุนพวกนี้มันชั่ว ขายชาติ , แอบหวังอยู่ว่าเต้นจะไม่ลบโพสต์นี้ทิ้งนะ รอให้ขุดเยอะไป ผลประโยชน์ได้กับประชาชนฯลฯ เป็นต้น

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ตอกยํ้าดีลฮ่องกง ลิ่วล้อแจงแทนนาย ‘พรรคส้ม’ ยากเป็นรัฐบาล

ตอกย้ำดีลฮ่องกงเหลว! "ณัฐวุฒิ" ขยายความ "ทักษิณ" คุย "ธนาธร" แค่เล่าชะตากรรม ไม่มีการพาดพิง ม.112 กับก้าวไกล เผยตั้งแต่โหวต "พิธา"

ที่ปรึกษาของนายกฯ โผล่ทำเนียบฯ สแกนแล้ว​ไม่มีม็อบการเมือง มีแต่ม็อบปากท้อง

นายณัฐวุฒิ​ ใสยเกื้อ​ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ว่า ความจริงได้มีโอกาสเข้ามาที่ทำเนียบฯหลายครั้งเพื่อมาพูดคุยกับทีมงาน แต่ยัง