ไม่รับผิดชอบ! 'สธ.' อัด 'ชมรมแพทย์ชนบท' ด่ากระทรวงฯรายวัน แต่ดันตอบ ไม่รู้ใครโพสต์

1 ธ.ค.2565- นายแพทย์รุ่งเรือง กิจผาติ หัวหน้าที่ปรึกษาระดับกระทรวง (นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ ระดับ 11) และโฆษกกระทรวงสาธารณสุข ให้ความเห็นหลังจากเพจแพทย์ชนบท เดินหน้าโพสต์วิจารณ์การทำงานของกระทรวงสาธารณสุข แบบรายวัน ระบุว่า

นายแพทย์สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ ประธานชมรมแพทย์ชนบท กับกระทรวงฯ เราไม่ได้มีปัญหา แน่นอนว่าสามารถพูดกันได้ และที่ผ่านมา คุณหมอ ก็มีไมตรีที่ดีกับทางกระทรวงฯ มาโดยตลอด ซึ่งเป็นคนละด้านกับที่เพจชมรมแพทย์ชนบทโพสต์ โดยหลายข่าวเป็นข่าวลือ ข่าวหลอก ข้อมูลเท็จ ประเภทเขาเล่าว่า สร้างความเข้าใจผิดให้กับสังคม สร้างความกังวลกับประชาชน และสร้างบาดแผลทางใจให้คนทำงาน เราเพิ่งได้เชิญหมอสุภัทรมาทำความเข้าใจ เพราะ คำว่าแพทย์ชนบท ซึ่งเป็นชื่อเพจ ก็เหมือนเหรียญ 2 ด้าน ถ้าใช้ให้ถูกต้อง ก็สร้างคุณงามความดีได้มาก แต่ถ้าใช้ผิด ก็สร้างความเสียหายร้ายแรงเช่นกัน แต่คำตอบที่ทางกระทรวงฯ ได้จากหมอสุภัทรคือ “ไม่รู้ใครโพสต์” เป็นคำตอบที่ทำเอาเราตกใจกันหมด ทั้งนี้ เราก็ได้แต่ขอให้หมอสุภัทรช่วยไปหาตัวคนโพสต์ แล้วทำความเข้าใจกับเขาหน่อยว่า กระทรวงสาธารณสุข เราตั้งใจทำงานทุกคน ตั้งแต่รัฐมนตรี ถึงบุคลากรทุกระดับ ถ้าทางแอดมินมีอะไรคับข้องใจ ฝากหมอสุภัทรมาคุยได้

“สรุปแล้ว สถานะของชมรมแพทย์ชนบทคืออะไร นี่คือองค์กรที่ไม่ต้องรับผิดชอบอะไรแล้ว มีสายการบังคับบัญชาแบบไหนกัน เท่ากับว่าที่ผ่านมา ข้อมูลซึ่งเพจชมรมแพทย์ชนบทโพสต์นั้น ออกมาโดยใครก็ไม่รู้ ที่ไม่ใช่หมอ ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญ แต่กลับได้โพสต์ในชื่อของแพทย์ชนบท แล้วสร้างความปั่นป่วนให้กับสังคม ด้วยข้อมูลซึ่งไม่มีที่มาที่ไป แต่ก็ทำให้สังคมแตกแยกสับสน ผมว่านี่คือปัญหาใหญ่ เพราะมีการใช้ชื่อที่ใหญ่โต โพสต์ลงโซเชียลกันแบบไม่สนใจในสิ่งที่ตามมา ซึ่งมันไม่ถูกต้องเลย เท่ากับนี่คือชมทชรมที่ข้างนอกสุกใส ข้างในต๊ะติ๊งโหน่งมากๆ”

จากนั้น ผู้สื่อข่าวได้สอบถามกรณีที่ บางฝ่ายออกมาวิจารณ์ว่านโยบายกัญชาทางการแพทย์เป็นไปเพื่อการนันทนาการมากกว่าการแพทย์ นายแพทย์รุ่งเรืองตอบว่า

นโยบายกัญชาที่กระทรวงสาธารณสุขเดินหน้านั้น เป็นแผนของคนทั้งกระทรวงฯ ที่มุ่งมั่นตั้งใจทำให้สมบูรณ์ที่สุด ไม่ใช่แผนของใครบางคน ตามที่บางคนกล่าวอ้าง แม้ว่านายอนุทิน รัฐมนตรีว่าการสาธารณสุข จะริเริ่ม แต่คนทำงาน ก็คือคนในกระทรวง เป็นหมอ เป็นผู้เชี่ยวชาญ เป็นเจ้าหน้าที่ ที่ศึกษากันมาดีแล้ว ก่อนจะลงมือทำ เรามีคณะกรรมการ ที่รวบรวมคนเก่งของแต่ละสาขา มาช่วยกันขับเคลื่อนเรื่องนี้ ด้วยหวังให้กัญชา เป็นโอกาสด้านการรักษาสุขภาพของคนไทย เพราะผลวิจัยก็มีมากมาย ซึ่งระบุว่า กัญชามีสรรพคุณทางยา เป็นเหมือนสมุนไพร ในส่วนของการนำไปใช้เพื่อนันทนาการนั้น ไม่ได้อยู่ในแผนการของเราเลย เราจึงต้องออกประกาศมาควบคุม ล่าสุด ก็มีประกาศห้ามสูบในสถานประกอบการ วางกฎตีกรอบการจำหน่าย แล้ว มีเสียงท้วงติงจากฝ่ายเอกชนพอสมควร แต่เราต้องเข้าไปคุม เพื่อให้การใช้กัญชาเป็นอย่างถูกต้อง

หมอบางคนเอง ก็ออกมาวิจารณ์นโยบายกัญชา รับลูกเล่นล้อไปกับฝ่ายการเมือง ซึ่งเราต่างก็รู้ว่า แต่ละฝ่ายมีเอเจนด้าเช่นไร เพราะหมอบางคน ก็กำลังสมัครรับเลือกเป็นกรรมการแพทยสภา ต้องการหาเสียง หิวแสง อยากเด่นอยากดัง ขณะที่ชมรมอย่างแพทย์ชนบท ที่ทุกวันนี้ ใครโฑสต์ในเพจก็ยังไม่ทราบได้นั้น ก็เหมือนไม้เบื่อไม้เมากับกระทรวงสาธารณสุขมานาน เพราะถูกเราตรวจสอบเรื่องความไม่ชอบมาพากลในพฤติกรรมของพวกท่าน ซึ่งมันก็น่าเสียใจ เพราะเอเจนด้าของท่านทำเพื่อตัวเอง ทำเพื่อพวกพ้อง แต่ท่านกำลังมาขัดขวางการทำงานของเรา ที่มีเจตนาบริสุทธิ์ ในการหาทางเลือกด้านการรักษาพยาบาลให้ประชาชน

เอาเข้าจริง ถ้าพวกท่านทั้งหลาย มองว่าเรื่องกัญชามันน่าเป็นห่วง ก็ขอให้ไปกระตุ้นฝ่ายการเมืองให้รีบออก พ.ร.บ. มาดูแลเสีย ดีกว่าตีกินกับดราม่าไปวันๆ เช่นที่เป็นอยู่ เพราะเราเอง ก็ไม่สบายใจเลย ที่ความมุ่งมั่นปรารถนาของชาวบุคลากรสาธารณสุข ถูกด่าทอแบบรายวัน โดยพวกมือไม่พาย เอาเท้าราน้ำ พวกที่พยายามสร้างเงื่อนไขให้เกิดปัญหา แล้วนำปัญหานั้น กลับมาวิจารณ์ทิ่มแทงคนทำงาน แบบนี้ มันไม่ถูกต้อง

“ถามว่าพวกผมข้าราชการที่ต้องมาขับเคลื่อนเรื่องนี้ มีใครอยากให้ใช้เพื่อนันทนาการหรือ คำตอบคือเปล่าเลย เราก็ทำออกมา ให้คนไทยมีทางเลือกมากขึ้น แต่ส่วนที่เป็นนันทนาการ ต้องมีกฎหมายควบคุม แล้วเขาก็จะออก พ.ร.บ. ซึ่งก็มีคนมาขวางอีก แล้วใครขวาง พอขวางกันได้ ก็มาบอกว่า กัญชาอนุทินแย่ กัญชาอนุทินเลว จะบอกว่าเรื่องนี้ มันไม่ใช่อนุทิน แต่เราทั้งหมด ทั้งกระทรวงฯ นี่เอง ที่ช่วยกันทำ และทั้งเราและท่าน ก็ต้องการให้ใช้กันอย่างถูกต้อง ถึงได้ออกประกาศมาคุมอยู่เรื่อย ที่สุดแล้ว ก็อย่างที่บอก เราหวังให้ พ.ร.บ. ผ่าน เพื่อให้เกิดความสมบูรณ์ แล้วใครมาขวาง หมอบางคน ชมรมบางชมรม ใช่ไหม ถ้าเป็นห่วงเรื่องนี้กันจริง แทนที่จะมาโพสต์ชื่นชมคนที่ขวาง ก็ช่วยไปบอกเขาหน่อย ว่าเลิกขวางได้แล้ว แบบนี้ จะมีประโยชน์กว่า ส่วนกระทรวงสาธารณสุข บอกเลยนะครับ ว่าเรายินดีที่ได้ทำนโยบายนี้ เพราะเราเจตดี มีความบริสุทธิ์ใจ”