'ธนาธร' ฟุ้งเป็นคนประนีประนอม! หากสภาหนุน กม.กระจายอำนาจจะได้ทำงานร่วมกัน

พ่อฟ้าร่ายยาวผ่านเฟซบุ๊ก ยก 3 เห็นผลถึงเจตนาบริสุทธิ์แก้ไขเรื่องการปกครองส่วนท้องถิ่น ย้ำไม่ใช่การปฏิวัติ โอ่เป็นคนประนีประนอม เพราะเคยทำธุรกิจทั้งในและต่างประเทศมาแล้ว

01 ธ.ค.2565 - นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้างหน้า โพสต์เฟซบุ๊กในหัวข้อ “ปลดล็อกท้องถิ่น” เพราะโครงสร้างประเทศไทยวันนี้ พาเราไปไกลกว่านี้ไม่ได้แล้วระบุว่า การอภิปรายร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ หมวด 14 การปกครองท้องถิ่นในวันนี้ มีการตั้งประเด็นอภิปรายในหลายข้อสังเกตที่น่าสนใจ ซึ่งผมต้องขอบคุณสมาชิกรัฐสภาทุกคน ทั้งที่สนับสนุน มีความเห็นด้วย ไม่ว่าจะทั้งหมดหรือบางส่วน และยังมีข้อสงสัยอยู่บ้าง

ผมขอชี้แจงประเด็นแบ่งเป็น 3 เรื่องหลักดังต่อไปนี้ เพื่อยืนยันในเจตนาบริสุทธิ์ของพวกเราในการเสนอร่างฯ นี้ขึ้นมา

1.ร่างฯ นี้ไม่ใช่การแบ่งแยกประเทศหรือเปลี่ยนรูปแบบการปกครอง แต่ยอมรับเถอะครับว่าโครงสร้างประเทศทุกวันนี้พาเราไปไกลได้แค่นี้ มันไปไกลกว่านี้ไม่ได้อีกแล้ว ร่างฯ นี้มีหลักใหญ่ใจความสำคัญที่สุดที่การเพิ่มประสิทธิภาพของรัฐ ปลดปล่อยพลังของคนทั้งประเทศที่คอขวดอยู่ที่รัฐราชการ แบ่งภาระและจัดสัดส่วนความรับผิดชอบให้ชัดเจนระหว่างประเทศ จังหวัด และตำบล เพื่อให้ไทยแข่งขันกับโลกได้ และใช้ทรัพยากรที่สำคัญที่สุด คือ งบประมาณ คน และเวลา ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด สร้างโครงสร้างที่จะปลดปล่อยพลังของผู้คนในสังคมออกมาให้ได้

คำถามก็คือโครงสร้างการบริหารประเทศด้วยรัฐราชการรวมศูนย์ในปัจจุบัน มีประสิทธิภาพในการแก้ปัญหาในปัจจุบันอย่างทันท่วงที และพร้อมรับมือกับความท้าทายใหม่ๆ หรือไม่? ถ้าใช่ ปัญหาพื้นฐานต่างๆ ที่ประชาชนต้องประสบพบเจอมาข้ามทศวรรษคงได้รับการแก้ไขไปนานแล้ว

วันนี้ ส.ว.หลายท่านอภิปรายพูดถึงแต่ความหวาดกลัว กลัวว่าถ้าร่างฯ นี้ผ่านจะเกิดอะไรขึ้น มีทั้งความกลัวที่สมเหตุสมผล และที่เกิดจากอคติและจินตนาการ แต่ผมขอถามกลับ ว่าแล้วท่านไม่กลัวหรือ ว่าถ้าร่างฯ ฉบับนี้ไม่ผ่าน ประเทศไทยจะต้องเสียโอกาสเชื่องช้า เหลื่อมล้ำ และก้าวไม่ทันโลกอีกกี่ก้าว? ไม่กลัวหรือว่าประเทศทั้งประเทศจะทำได้ไม่ดีสักเรื่อง ไม่ว่าจะเรื่องการบริการสาธารณะท้องถิ่น หรือการบริหารประเทศที่จะพ่ายแพ้โลกาภิวัตน์

2. ร่างฯ นี้ไม่ใช่การปฏิวัติ หรือเป็นการสุดโต่ง หรือเป็นการเร็วเกินไป

นี่คือสิ่งที่ผู้อภิปรายหลายท่านกล่าวหาพวกเรา ซึ่งผมต้องขอถามท่านกลับ ว่าแล้วสิ่งที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ ไม่ช้าเกินไป ไม่น้อยไปอย่างนั้นหรือ?

ท่านกล้าสบตาครูในจังหวัดจันทบุรี ที่ ส.ส.จันทบุรีมาหารือในสภา ว่าอยากได้สะพานลอยข้ามถนนสี่เลนให้เด็กนักเรียน แล้วต้องรออีกกว่า 834 วันหลังการหารือกว่าที่จะได้สะพานลอยมา ท่านกล้าบอกพวกเขาหรือไม่ ว่าระบบที่เป็นอยู่นี้เหมาะสมแล้ว เป็นการแก้ปัญหาที่เร็วพอแล้ว?
ท่านกล้าสบตาชาวนาทั่วประเทศ แล้วบอกว่าแผนการจัดการชลประทานในปัจจุบันที่กว่าจะครอบคลุมพื้นที่เพาะปลูก 40% ของทั้งประเทศต้องใช้เวลาอีก 15 ปี และกว่าจะครอบคลุมพื้นที่เพาะปลูก 100% ต้องรออีก 83 ปีเป็นการดีพอแล้ว เร็วพอแล้วหรือไม่?

ท่านกล้าสบตาชาวบ้านที่ดงสิงห์ จ.ร้อยเอ็ดที่เขียนโครงการของบประมาณมาปรับปรุงระบบชลประทาน รอมาหลายสิบปีแล้วก็ยังไม่ได้ แล้วบอกพวกเขาว่าให้รอต่อไป นี่เป็นระบบที่เร็วพอแล้ว เหมาะสมแล้วหรือไม่?

ท่านกล้าสบตาชาวบ้านที่ค้อใหญ่ จ.ร้อยเอ็ด บอกว่าน้ำประปาที่พวกเขาใช้กันแบบขุ่นข้นมาหลายสิบปี เป็นเรื่องที่ดีพอแล้ว ขอให้ทนต่อไป อบต.มีงบเท่านี้ทำน้ำประปาที่ดีไม่ได้ เป็นเรื่องที่เหมาะสมแล้วหรือไม่?

สำหรับผม การปล่อยให้ปัญหาพื้นฐานเหล่านี้ ที่ไม่ได้ใช้เทคโนโลยีชั้นสูงในการแก้ปัญหา ต้องเรื้อรังมาเป็นสิบๆ ปี นั่นต่างหากคือความสุดโต่ง

3.ข้อเสนอของผม ต่อสมาชิกสภาทุกคนที่ยังคงมีความสงสัยต่อตัวผมและเพื่อนผู้นำเสนอร่าง

จากที่สมาชิกรัฐสภาหลายท่านได้อภิปรายมาในวันนี้ ผมพบว่าเรายังคงมีช่องว่างในความเคลือบแคลงสงสัยกันอยู่ ถึงขั้นเป็นความระแวงระวังต่อกัน แต่นี่ก็เป็นช่องว่างความสงสัยที่เราสามารถปิดมันลงได้

จากการบริหารองค์กรธุรกิจที่ต้องต่อรองกับผู้คนทั้งในประเทศและคู่ค้าต่างประเทศ ผมเข้าใจดีถึงการประนีประนอม

หากในที่สุดรัฐสภามีมติรับหลักการของร่างฯ นี้ในวาระที่ 1 ผมขอเสนอตัวเองมาทำงานร่วมกับทุกท่านในชั้นกรรมาธิการ ให้ทุกท่านที่ยังสงสัยในตัวผมมาเป็นกรรมาธิการ เพื่อที่เราจะได้ทำงานร่วมกัน รับฟังกัน เข้าใจกันมากขึ้น สัมผัสตัวผมด้วยตัวเอง ไม่ต้องไปสัมผัสจากคำบอกเล่าของคนอื่น

ผมรับรอง ว่าหากเราได้ทำงานร่วมกัน ท่านจะได้เข้าใจว่าผมไม่ใช่คนที่น่ากลัว ไม่ได้สุดโต่งอย่างที่ไอโอ (IO) สายกองทัพปั้นภาพขึ้นมา และผมเป็นคนที่พร้อมประนีประนอมหาข้อสรุปร่วมกันกับทุกคน

ไม่แน่ว่าถ้าเราได้ทำงานร่วมกัน เราอาจจะได้ข้อสรุปที่ทุกฝ่ายยอมรับเห็นตรงกันเพื่อการนำพาประเทศไปข้างหน้าได้ และหากเราทำสิ่งนี้สำเร็จ เมื่อนั้นประชาชนจะเป็นผู้ที่ได้รับประโยชน์สูงสุด

วันนี้ผมหยิบยื่นมือให้ท่านแล้ว ผมหวังว่าท่านจะจับมันครับ

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

‘ธนาธร’ ร้องโอ้โห หลังถูกถามเลือกตั้งหน้าคว้า ส.ส. 300 ที่นั่ง

‘ธนาธร’ ร้องโอ้โห หลังถูกถามเลือกตั้งหน้าคว้า 300 ที่นั่ง เชื่อ ปชช.ไว้ใจ ‘ก้าวไกล’ มากขึ้น ไม่เกี่ยวพรรคถูกยุบ ยัน ไร้งูเห่า เหตุ สส.หนักแน่นในอุดมการณ์

'ก้าวไกล' ไม่ยื่นซักฟอก 'รัฐบาล' เกรงใจหรือกลัวถูกย้อนเกล็ด?

จากการกลับคำของ นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) ว่า "ซักฟอกที่เป็นอภิปรายไม่ไว้วางใจโอกาสมีน้อยมากจริงๆ เพราะรัฐบาลก็เพิ่งมา ยังไม่ได้ใช้งบประมาณที่ตนเองเป็นคนทำเลยแม้แต่บาทเดียว ทำให้ยังไม่มีประเด็นใหญ่มากที่จะเปิดอภิปราย ถ้าเปิดแล้วไม่มีคุณภาพ ไม่เปิดดีกว่า ควรใช้เมื่อเหมาะสม"

อดีตตุลาการศาลรธน. ฟันเปรี้ยง! รู้ทันพวกคิดเปลี่ยนปกครองเป็นปชต.สังคมนิยมคอมมิวนิสต์

นายจรัญ ภักดีธนากุล อดีตตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตอบคำถามในงานสัมมนาในหัวข้อ "ศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญมีความสำคัญต่อประเทศชาติและประชาชนอย่างไร” เรื่องกรรมการองค์กรอิสระชุดนี้ไม่ได้มีที่มาที่ยึดโยงกับประชาชน เพราะได้รับเลือกและแต่งตั้งในยุครัคประหาร

'ธนาธร' เมินเสียงค้านร่วมประชุม กมธ.ถ่ายโอนทรัพย์สินกองทัพ

'ธนาธร' เข้าประชุม กมธ.ถ่ายโอนทรัพย์สินกองทัพฯ หวัง โอนรายได้เข้าคลัง ปั้นกองทัพสมัยใหม่ ยันไม่ได้ปูทางหวนคืนการเมือง เมินคนค้านนั่งกรรมาธิการ ชี้ไม่เคยมีปัญหา