โฆษกกอ.ร่วมฯ ชี้กลุ่มผู้ชุมนุมละเมิดกฎหมาย ก่อความวุ่นวาย ทำลายทรัพย์สินของทางราชการ ทำร้ายจนท.จำเป็นต้องบังคับใช้กฎหมาย จับกุมแล้ว 10 ราย โทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท
18 พ.ย.2565 - พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง ในฐานะโฆษกกองอำนวยการร่วมรักษาความปลอดภัยและการจราจรการประชุมเอเปก 2565 กล่าวถึงสถานการณ์การชุมนุมเรียกร้องในช่วงการประชุมเอเปกว่า วันนี้เวลาประมาณ 08.50 น. กลุ่มราษฎรหยุด APEC 2022 ที่ปักหลักชุมนุมลานคนเมือง ยอดผู้ชุมนุมประมาณ 350 คน ได้เคลื่อนขบวนเพื่อเดินทางไปยื่นข้อเรียกร้องต่อการประชุมเอเปก โดยเคลื่อนขบวนฝ่าฝืนข้อกำหนดและเงื่อนไขฯ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เจรจา แจ้งและประชาสัมพันธ์ผู้ชุมนุมให้ทราบอย่างต่อเนื่องแล้วแต่กลุ่มผู้ชุมนุมได้ฝ่าฝืน โดยใช้เคลื่อนขบวนมาถึงบริเวณถนนดินสอเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ใช้เครื่องเสียงประกาศ เจรจา และแจ้งเตือนกับกลุ่มผู้ชุมนุม
แต่ปรากฏว่ากลุ่มผู้ชุมนุมไม่ยินยอม ฝ่าฝืนกฎหมาย และได้ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ ขว้างปาก้อนหิน และสิ่งของ ทำลายรถยนต์กระบะของ ทางราชการเสียหาย มีการใช้กำลังทำร้ายและต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน โดยเจ้าพนักงานดูแลการชุมนุมสาธารณะ สถานีตำรวจนครบาลสำราญราษฎร์ ได้มีคำสั่งที่ 115/2565 ลง 17 พ.ย.65 กำหนดเงื่อน คำสั่ง ในการเดินขบวนหรือเคลื่อนย้ายการชุมนุมฯ โดยมีอัตราโทษ จำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และได้มีหนังสือแจ้งการปฏิบัติในการชุมนุมสาธารณะให้ ตัวแทนทราบตามประกาศดังกล่าวแล้ว แต่กลุ่มผู้ชุมนุมไม่ยอมปฏิบัติตาม ตำรวจจึงมีความจำเป็นต้องใช้กำลังป้องกันตนเองและทำการจับกุมผู้กระทำความผิด จำนวน 10 ราย ที่ฝ่าฝืนเงื่อนไขฯ และกระทำความผิดตามกฎหมายอาญาอื่นๆ และเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บจำนวน 5 นาย ทรัพย์สินเสียหายจำนวนหลายรายการ
โฆษก กอ.ร่วมฯ กล่าวอีกว่า “ การกระทำของกลุ่มผู้ชุมนุมเป็นความผิดตามกฎหมาย โดยฝ่าฝืนเงื่อนไข คำสั่งเจ้าพนักงานฯ มีการพ่นสเปรย์ขีดเขียน ใช้ก้อนหินและไม้ทำร้ายทุบตี ขว้างปาสิ่งของใส่เจ้าหน้าที่ รวมทั้งการทำลายทรัพย์สินของทางราชการและเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่อให้เห็นถึงเจตนาให้เกิดความรุนแรง เกิดความไม่สงบ
เจ้าหน้าที่ตำรวจที่รักษาความปลอดภัยตามกฎหมาย ตามอำนาจหน้าที่ พยายามหลีกเลี่ยงการใช้กำลัง เน้นการเจรจา พูดคุย ทำความเข้าใจทุกฝ่าย หากมีความจำเป็นที่จะต้องใช้กำลัง ได้ใช้กำลังให้น้อยที่สุด เหมาะสมกับสถานการณ์
โฆษก ตร.กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีปรากฎารใช้กระสุนยางของเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งเป็นอุปกรณ์ตามประกาศ สนร. นั้น เจ้าหน้าที่ใช้อุปกรณ์เพื่อการป้องกันตนเองจากผู้ที่จะทำร้ายเจ้าหน้าที่และเพื่อจะจับกุมผู้กระทำความผิดซึ่งหน้า ที่ต่อสู้ขัดขวางและทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ ทั้งหมดเป็นไปตามหลักกฎหมาย ตามยุทธวิธี เพื่อให้เกิดความสงบเรียบร้อย และเป็นไปตามมาตรการรักษาความปลอดภัย ดูแลความสงบเรียบร้อย
ทั้งนี้ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. กำชับให้ตำรวจปฏิบัติตามหลักยุทธวิธีและ ยึดหลักกฎหมาย เพื่อให้เกิดความสงบเรียบร้อย และขอให้ตำรวจผู้ปฏิบัติงานทุกนายปฏิบัติหน้าที่ด้วยความปลอดภัย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ผบ.ตร. สั่งตั้งคณะรวบรวมหลักฐานทุกมิติ คดีตำรวจสันติบาลคลั่ง เชิญอัยการร่วมสอบสวน
พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง โฆษก ตร. เปิดเผยถึงเหตุการณ์สารวัตรตำรวจสันติบาลคลั่งที่สายไหมว่า พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร.ได้แสงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่มีผู้ใดอยากให้เกิดความสูญเสีย
ตร.เตือน พ.ร.ก.อาชญากรรมทางเทคโนโลยีฯใหม่ เปิดบัญชีม้าโทษหนัก
กฎหมายฉบับนี้ ออกมาเพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน จากการถูกหลอกหลวงฉ้อโกงออนไลน์ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. จึงสั่งการตำรวจทั่วประเทศ
เชิญชวนบริจาคเงินเพื่อทุนการศึกษาแก่บุตร 'พ.ต.ต.เอกพงษ์' ตำรวจกล้าพลีชีพตามจับคนร้าย
ผบ.ตร. เชิญชวนข้าราชการตำรวจ ครอบครัวและประชาชน ร่วมบริจาคเงินเพื่อทุนการศึกษาแก่บุตร พ.ต.ต.เอกพงษ์ฯ สารวัตรสืบเมืองยโสธร ตำรวจกล้าที่พลีชีพช่วยลูกน้องตามจับคนร้ายคดียาเสพติด จนจมน้ำเสียชีวิต
เดือน ก.พ. ตำรวจถูกไล่ออกราชการ 13 นาย ปลดออกอีก 1
พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง โฆษก ตร.เปิดเผยว่า กรรมการข้าราชการตำรวจด้านวินัย อุทธรณ์ ร้องทุกข์ และบริหารทรัพยากรบุคคล ได้รายงานข้อมูลการกระทำผิดวินัยร้ายแรง ของข้าราชการตำรวจ เดือน ก.พ.66 มีข้าราชการตำรวจลงโทษทั้งสิ้น จำนวน 14 นาย
ผบ.ตร. ชี้ ‘พล.ต.ท.ปัญญา’ ถูกยิง เหตุส่วนตัวภายในครอบครัว
ผบ.ตร.สั่ง น.1 เร่งคลี่คลายการเสียชีวิต พล.ต.ท.ปัญญา สาเหตุเบื้องต้นพบว่า เป็นเรื่องส่วนตัว
ด่วน! สั่งเด้ง ‘ผกก.ห้วยขวาง’ สังเวยลูกน้องตั้งด่าน รีดเงินดาราสาวไต้หวัน
ผบ.ตร. ได้สั่งการด่วน ให้ ผบช.น.สั่ง พ.ต.อ.ยิ่งยศ สุวรรณโณ ผกก.สน.ห้วยขวาง ช่วยราชการ หลังมีข้อมูลว่ามีตำรวจเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดกรณีนักท่องเที่ยวชาวไต้หวันถูกเรียกรับเงิน