ขอพื้นที่ให้ประชาชน! เปิดเวทีประชุมคู่ขนาน APEC 2022

13  พ.ย.2565 – นายเมธา มาสขาว เลขาธิการคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) กล่าวว่า ในฐานะที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจ APEC 2022 ที่จะมาถึงสัปดาห์หน้านี้ ผม ในฐานะ ครป. และภาคประชาชนไทย มีความเห็นดังนี้ 1.ครป.และเครือข่ายองค์กรภาคประชาชนไทย ขอต้อนรับผู้นำประเทศต่างๆ ทั้ง 20 ประเทศและเขตเศรษฐกิจ เข้าร่วมการประชุมเอเปคด้วยความยินดียิ่ง ประเทศไทยเป็นประเทศแห่งรอยยิ้ม วัฒนธรรม น้ำใจและมิตรภาพ หวังว่าผู้นำประเทศต่างๆ และคณะ จะมีความประทับใจกับการต้อนรับของประชาชนไทย มีความสุขกับอาหารท้องถิ่น การเรียนรู้ทางวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวในประเทศไทย เสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศและระหว่างประชาชนต่อไป

นายเมธา กล่าวว่า 2.แม้ว่าจะน่าเสียดายที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยังเป็นนายกรัฐมนตรีและทำหน้าที่เป็นประธานเอเปคอยู่โดยขาดความชอบธรรมและความเชื่อมั่นจากประชาชน แต่รัฐบาลไทยในฐานะเจ้าภาพในนามของปวงชนชาวไทย จะต้องสนับสนุนให้เศรษฐกิจสังคมและวัฒนธรรมไทยได้รับการส่งเสริมเป็น Soft Power และสัญลักษณ์ในความร่วมมือทางเศรษฐกิจมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการส่งเสริมด้านวัฒนธรรม การท่องเที่ยวและอาหารท้องถิ่น ที่ชุมชนกสิกรรมและภาคแรงงานควรมีส่วนร่วมอย่างกว้างขวาง ดังทีประเทศไทยเป็นเมืองที่น่าอยู่ กรุงเทพฯ เป็นเมืองที่น่าเที่ยวที่สุดในโลก 

“รัฐบาลไทยควรส่งเสริมตลาดสตรีทฟู๊ดให้โดดเด่นมากขึ้นตามชุมชนและสถานที่ท่องเที่ยว เหมือนกับย่านเยาวราชและถนนข้าวสาร ผมเคยพานายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์เดินเที่ยวถนนข้าวสารในสมัยที่ยังเป็น ส.ส. ทุกคนชื่อชอบสตรีทฟู๊ดอาหารไทยที่อร่อยมากๆ เหมือนกับผู้นำอีกหลายประเทศทั่วโลกที่เอ่ยปากชม ซึ่งสามารถทำให้โดดเด่นได้ไม่แพ้สิงคโปร์หรือฮ่องกง” นายเมธา ระบุ

นายเมธา กล่าวว่า 3.รัฐบาลไทยไม่ควรให้กลุ่มทุนเจ้าสัวผูกขาดเป้าหมายกรุงเทพฯ ว่าด้วยเศรษฐกิจสีเขียว หรือ BCG ที่ยังเป็นแค่เปลือกนอก เพราะในคณะกรรมการที่ตั้งขึ้นนั้นไม่มีที่นั่งของเกษตรกร ชาวนาและแรงงานแม้แต่ที่นั่งเดียว เนื่องจากนโยบายทุนนิยมประชารัฐของรัฐบาลไทยนั้น ได้สร้างความเหลื่อมล้ำและเบียดเบียนเศรษฐกิจสีเขียวของชาวนาอย่างกว้างขวาง เกษตรกร ชาวนาและแรงงานสมควรได้รับการส่งเสริมในแนวราบและมีส่วนร่วมกับคณะกรรมการและโครงการของรัฐอย่างเท่าเทียมกันกับกลุ่มทุนใหญ่ ระบบทุนนิยมจากบนลงล่างและระบอบเสรีนิยมใหม่ควรได้รับการทบทวนเงื่อนไขและพิษภัยโลกาภิวัฒน์จากผู้นำโลกที่มาประชุมเอเปค รวมถึงวิกฤตสิ่งแวดล้อมและโลกร้อนที่เป็นภัยคุกคามโลกจากการพัฒนาอุตสาหกรรมในระบบทุนนิยมที่ละโมบจนเกิดสงครามการแย่งชิงทรัพยากร  การพัฒนาสีเขียวที่ยั่งยืนต้องมีที่นั่งของภาคประชาชน ร่วมแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำ คลี่คลายความขัดแย้งทางชนชั้น และส่งเสริมสิทธิแรงงานระหว่างประเทศ

นายเมธา กล่าวว่า 4.รัฐบาลไทยในฐานะเจ้าภาพการประชุมและเป็นประธานเอเปค สามารถมีบทบาททางการทูตที่จะช่วยผลักดันให้เกิดสันติภาพขึ้นได้ จากความขัดแย้งในยูเครน พม่า คาบสมุทรเกาหลีและทะเลจีนใต้ และสมควรทำในฐานะประเทศเป็นกลาง เนื่องจากมีผู้นำโลกหลายชาติที่เป็นคู่ความขัดแย้งมาร่วมประชุมด้วย โดยเฉพาะผู้นำจีน สหรัฐฯ และรัสเซีย ซึ่งเป็นประเทศมหาอำนาจ เพื่อยุติสงครามและความรุนแรงลงตามที่ทุกฝ่ายปรารถนาแต่อาจจะยังหาทางลงไม่ได้ แม้ไทยจะเป็นประเทศเล็กๆ ในสายตามหาอำนาจเปรียบเหมือนราชสีห์กับหนู แต่บทบาททางการทูตไทยได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในการเจรจาเพื่อสันติภาพ หนูก็สามารถช่วยราชสีห์ได้ไม่ต่างจากในนิทานอีสป เพราะเราเป็นกัลยาณมิตรที่ดีกับทุกประเทศ

นายเมธา กล่าวว่า 5.รัฐบาลควรจัดสถานที่ให้ภาคประชาชนจัดการชุมนุมคู่ขนานได้เหมือนในต่างประเทศ เพื่อนำเสนอวาระของประชาชนที่แตกต่างจากรัฐบาลต่อผู้นำโลกที่มาเข้าร่วมการประชุม APEC โดยมีพื้นที่ที่เหมาะสมคือ “สวนป่าเบญจกิติ” ที่ใกล้ที่ประชุมและผู้แทนชาติต่างๆ สามารถเดินทางมารับฟังและพบปะประชาชนไทยได้ง่าย ไม่ควรปิดกั้นการมีส่วนร่วมและการสื่อสารของภาคประชาชน โดยเฉพาะความขัดแย้งทางนโยบายเรื่องแนวทางการพัฒนาและโครงการขนาดใหญ่ของรัฐ และไม่ควรนำนโยบายที่มีความขัดแย้งเสนอต่อผู้นำต่างชาติ เช่น นโยบายให้ต่างชาติถือครองกรรมสิทธิ์ที่ดินได้ซึ่งคนไทยถือว่าเป็นการขายชาติ ขายแผ่นดิน.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

‘ภูมิธรรม’ มั่นใจนายกฯกลับมาประชุมตั้ง ‘เจทีซี’ เสร็จ ชงเข้าครม.19 พ.ย.ทันที

‘ภูมิธรรม’ ระบุ หากนายกฯกลับมา เรียกถก ตั้ง เจทีซี วันนี้ก็ เข้าครม.ทันพรุ่งนี้ โยน กต.เคาะรายชื่อ ลั่น เกาะกูดไม่จบซํ้ารอยเขาพระวิหารแน่ ยัน ไม่มีเหตุผลต้องยกเลิกเอ็มโอยู 44

นายกฯอิ๊งค์ลั่นประเทศไทยต้องยืนหนึ่งบนเวทีโลก

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า “ก่อนการเดินทางกลับประเทศไทยช่วงเวลา 18 นาฬิกาของวันนี้ (วันเสาร์ที่ 16 พฤศจิกายน) ตามเวลาเปรู ซึ่งจะใช้เวลาเดินทางประมาณ 27 ชั่วโมง โดยจะถึงประเทศไทยในวันจันทร์ที่ 18 พฤศจิกายน ประมาณ 11 นาฬิกา ตามเวลาในประเทศไทย นายกรัฐมนตรี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ให้สัมภาษณ์สรุปภาพรวมภารกิจ การประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ครั้งที่ 31 และการประชุมอื่นๆที่เกี่ยวข้อง ณ กรุงลิมา สาธารณรัฐเปรู ดังนี้

'ภูมิใจไทย' นัดหลังปีใหม่ ดินเนอร์พรรคร่วมรัฐบาล

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงการเป็นเจ้าภาพงานเลี้ยงพรรคร่วมรัฐบาลครั้งต่อไป ว่า