'ศรีสุวรรณ' จัดแล้ว ฟ้องศาลปกครองฟัน 'บิ๊กตู่-บอร์ดบีโอไอ' ให้เพิกถอนประกาศให้ต่างด้าวที่มีทุนจดทะเบียน 50 ล้านบาทถือกรรมสิทธิ์ที่ดินได้ 35 ไร่
10 พ.ย.2565 - นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้เดินทางมายื่นคำฟ้องต่อศาลปกครองกลาง เพื่อฟ้อง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วยคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บอร์ดบีโอไอ) ฐานกระทำการโดยมิชอบด้วยกฎหมาย มีลักษณะเป็นการใช้ดุลยพินิจโดยมิชอบ กรณีออกประกาศให้นักลงทุนที่เป็นนิติบุคคลจากต่างด้าวที่มีทุนจดทะเบียนเพียง 50 ล้านบาท ก็สามารถซื้อที่ดินหรือถือกรรมสิทธิ์ในที่ดินในไทยได้ถึง 35 ไร่
ทั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 8 ส.ค.2565 นายกฯ ในฐานะประธานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ได้ออกประกาศอนุญาตให้นิติบุคคลต่างด้าวที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุน สามารถซื้อหรือถือกรรมสิทธิ์ในที่ดินสำหรับเป็นที่ตั้งสำนักงานและที่พักอาศัยในไทยได้ไม่เกิน 35 ไร่ แบ่งเป็นที่ดินสำหรับเป็นที่ตั้งสำนักงานได้ไม่เกิน 5 ไร่ ที่ดินสำหรับเป็นที่พักอาศัยของผู้บริหารหรือผู้ชำนาญการได้ไม่เกิน 10 ไร่ ที่ดินสำหรับเป็นที่พักอาศัยของคนงานได้ไม่เกิน 20 ไร่ โดยที่ดินที่ใช้เป็นที่ตั้งสำนักงานและที่พักอาศัยจะอยู่ในบริเวณเดียวกันกับที่ดินอันเป็นที่ตั้งสถานประกอบการหรือไม่ก็ได้ ซึ่งประกาศดังกล่าวไม่มีการกำหนดระยะเวลาสิ้นสุด อันเป็นการชี้ให้เห็นถึงข้อพิรุธอย่างชัดแจ้ง ซึ่งมติครม.ให้ต่างด้าวซื้อที่ดินอยู่อาศัยได้ 1 ไร่ก่อนหน้านี้ว่าหนักแล้วประกาศนี้อัปยศยิ่งกว่า
“การออกประกาศดังกล่าว ชี้ให้เห็นว่านายกฯ และบอร์ดบีโอไอไม่ยี่หระต่อเสียงคัดค้านของประชาชนเจ้าของประเทศที่แท้จริงเลยหรืออย่างไร หรือต้องการเอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มทุนที่มีที่ดินเก็บไว้ในมือคนเดียวนับแสนไร่ได้ระบายออกได้หรือไม่ เช่น บางตระกูลมีที่ดินมากถึง 630,000 ไร่ ในขณะที่คนส่วนใหญ่ของประเทศกว่า 75%ไม่มีที่ดินเป็นของตนเอง แต่กลับเปิดประตูให้นิติบุคคลต่างด้าวที่มีทุนจดทะเบียนเพียง 50 ล้านบาทเพียงบริษัทเดียวก็สามารถมาซื้อที่ดินในไทยได้ทุกจังหวัดทั่วประเทศได้ถึง 35 ไร่ แบบนี้ไม่ให้เรียกว่าขายแผ่นดินกิน จะให้เรียกว่าอะไรดี”
การส่งเสริมการลงทุนเพื่อดึงดูดนักลงทุนจากต่างประเทศเข้ามาลงทุนในไทยนั้น มีมาตรการที่หลากหลายมากมาย แต่ก็มักจะให้สิทธิ์ในการใช้ที่ดินในประเทศเพียงให้เช่าระยะยาว 30 ปี หรือ 50 ปีก็น่าจะเพียงพอแล้ว โดยให้ไปเช่าที่ดินในพื้นที่ที่เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ ที่มีอยู่ทั่วประเทศในเขตชายแดน ในนิคมอุตสาหกรรม สวนอุตสาหกรรม หรือเขตประกอบการอุตสาหกรรมก็เพียงพอแล้ว ไม่จำเป็นต้องใจดีถึงขนาดให้บริษัทต่างด้าวมาเดินซ็อปปิ้งเลือกพื้นที่ได้ตามใจชอบทั่วประเทศเยี่ยงนี้ หรือว่าหมดความสามารถสิ้นไร้ไม้ตอกแล้วหรืออย่างไร จึงออกประกาศในลักษณะนี้ออกมา
สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย และตัวแทนคนไทยทั้งชาติ คนริมคลอง และคนที่ถูกภาครัฐไล่รื้อบ้านเรือนให้ออกไปจากแผ่นดินเกิด ไม่อาจปล่อยให้นายกรัฐมนตรีและบอร์ดบีโอไอใช้อำนาจได้โดยย่ามใจเพื่อเอาใจบริษัทต่างด้าวเยี่ยงนี้ได้ จึงต้องนำความมาฟ้องร้องต่อศาลปกครอง เพื่อขอให้ศาลมีคำพิพากษาเพิกถอนการประกาศที่เรียกสั้นๆว่าการขายแผ่นดินกินฉบับนี้ในศาลแห่งนี้ต่อไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
นายกฯ สั่งเกาะติด 7จังหวัดภาคใต้ที่เจอฝนถล่มหนัก
นายกฯ กำชับทุกหน่วยงานติดตามสถานการณ์พื้นที่เสี่ยงจากฝนตกหนักในพื้นที่ 7 จังหวัดภาคใต้
นายกฯ อิ๊งค์ฝากติดตามแถลง 12 ธ.ค.ผลงานรัฐบาล 90 วัน
นายกฯอิ๊งค์ ลั่นรัฐบาล มุ่งสร้างโอกาสจับต้องได้ให้ประชาชน ปากท้องอิ่ม ดึงศักยภาพคนไทย ลั่นปรับสมดุลการค้าสหรัฐ-จีน ย้ำ รบ.อยู่ครบเทอม ฝากติดตามแถลงผลงานรัฐบาล 12 ธ.ค.นี้
เปิดโปรแกรมทัวร์ 'ครม.สัญจรอิ๊งค์' นัดแรกที่เมืองเหนือ
เปิดโปรแกรม 'ครม.สัญจรอิ๊งค์' นัดแรก จัดที่แม่ริม เชียงใหม่ 29 พ.ย. ก่อนถก 'คลังสัญจร' เชียงราย ฟื้นฟูพื้นที่เศรษฐกิจ พร้อมพบประชาชน
'เทพไท' วิเคราะห์ชัดๆ 'ทักษิณ-อุ๊งอิ๊งค์' ใครคือนายกฯตัวจริง
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช
'ธนกร' ชี้หลัง 22 พ.ย.ประเทศก็ยังเดินหน้าต่อ!
'ธนกร' มองทุกคดีศาล รธน.ยึดตามหลักกฎหมาย เชื่อการเมืองหลัง 22 พ.ย.นี้ประเทศต้องเดินหน้าต่อ ขอทุกฝ่ายอย่าคาดเดาจนอาจก้าวล่วงอำนาจ ฝากรัฐบาลเร่งทำผลงาน
‘อิ๊งค์’ตีปี๊บผลงาน100วัน
“นายกฯ อิ๊งค์” ต่อสายยินดี “ทรัมป์” พร้อมชวนมาเมืองไทย นายกฯ