27 ต.ค.2565 - นายอัษฎางค์ ยมนาค นักวิชาการอิสระ โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก เอ็ดดี้ อัษฎางค์ ยมนาค โดยมีรายละเอียดดังนี้
อัษฎางค์ ยมนาค
ผมคิดและได้ผลสรุปมานานแล้วว่า ขบวนการสามกีบล้มเจ้าเพื่อล้มล้างการปกครองนี้ มีขบวนการใต้ดินทำกันมานานและต่อเนื่อง
ที่เราเห็น ธนาธร ปิยะบุตร ช่อ พรรณิการ์ และคนอื่นๆ ลงมาเล่นการเมืองตามครรลองประชาธิปไตย
หรือเห็นนักวิชาการ อาจารย์มหาวิทยาลัย ร่วมขบวน นั้นก็เคลื่อนไหวทางการเมืองตามครรลองประชาธิปไตย
หรือเด็กน้อยเด็กงั่กตามท้องถนน นั้นก็เคลื่อนไหวทางการเมืองตามครรลองประชาธิปไตย
แต่ทั้งหมดนั้นมีจุดเริ่มต้นจากอาจารย์ นักการเมืองและนักเคลื่อนไหวทางการเมือง จำนวนหนึ่ง ที่มีแนวคิดต่อต้านการปกครองแบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข
โดยกลุ่มคนชั้นนำเหล่านั้น ได้ปลูกฝังความคิดในการเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองแบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขให้กับบุคคลต่างๆ มากมายซึ่งเราเห็นหน้าได้ยินชื่อเสียงอยู่ในปัจจุบัน
ไม่ใช่ว่า ธนาธร ปิยบุตร ช่อ พรรณิการ์ ฯลฯ จะเป็นคนหลอกลวงประชาชนและเยาวชน แต่ธนาธร ปิยบุตร ช่อ พรรณิการ์ ฯลฯ คือเยาวชนชุดแรกๆ ที่โดนหลอกและถูกล้างสมองมาก่อน
ประชาชนและเยาวชนที่ออกหน้าอยู่ในปัจจุบัน เรียกร้องให้ยกเลิก 112 และปฏิรูปสถาบันฯ ปฏิรูปการปกครอง นั้นเป็นหนึ่งในยุทธ์วิธีทางการเมืองที่จะนำไปสู่การล้มล้างการปกครอง ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญเคยวินิจฉัยเอาไว้
ซึ่งล้วนแต่ถูกปลูกฝัง ล้างสมองมาหลายเจนเนอเรชั่นแล้ว
เวลาผมเห็นธนาธร ปิยบุตร ช่อ พรรณิการ์ ฯลฯ หรืออาจารย์อีกจำนวนมาก ที่ออกมาเคลื่อนไหว หรือสนับสนุน หรือเป็นผู้ปลูกฝัง หรือปลุกระดม หรือยุยง แล้วส่วนหนึ่งโกรธ
แต่ในอีกส่วนหนึ่งลึกๆ เมื่อจิตสงบแล้วผมรู้สึกสงสารพวกเขา เพราะพวกเขาคือหนึ่งในผู้ที่ถูกกระทำ ถูกปลูกฝัง ถูกล้างสมองมาก่อนและทั้งสิ้น
มันเหมือนเรากำลังหนังดูหนังเรื่องหนึ่ง ที่เรารู้ว่าใครเป็นพระเอก ใครเป็นผู้ร้าย ใครหวังดี ใครหวังร้าย ใครกำลังหลอก ใครถูกหลอก คนดีถูกใครใส่ร้ายให้กลายเป็นคนเลว และคนเลวถูกย้อมให้กลายเป็นคนดี
เรานั่งดูหนังอยู่ เราจึงรู้และเห็นหมด ทุกช็อตทุกฉาก แต่เราเข้าไปแก้ไข เปลี่ยนบท ไม่ได้เลย
ไอ้พวกที่เล่นตามบท ถึงจะเป็นตัวโกงที่กำลังทำชั่ว มันก็ไม่รู้ตัวว่ากำลังสร้างบาปสร้างกรรมทั้งกับตัวเองและผู้อื่น
…………………………
เมธี เวชารัตนา วิศวฯ จุฬาฯ 2515
เรื่องของนายเนติวิทย์ ถ้า เกิดขึ้นใน ม. ในเมกา คงไม่ยาวมาถึงขนาดนี้ คงจบไปนานแล้ว
เพราะ ผู้บริหาร ม. คือ President กับ Board of Trustees คงทำสิ่งต่อไปนี้ ทันที ที่มีเรื่องในลักษณะ ที่ทำลายภาพลักษณ์ และขนบธรรมเนียม ของสถาบัน แบบที่นายเนติวิทย์ กับพวกทำกัน
1. นายเนติวิทย์ กับพวก จะถูกไล่ออกจาก การเป็นนักศึกษา ของ มหาวิทยาลัยทันที
2. สโมสรนักศึกษาของจุฬาฯ จะถูกปิดทันที
อย่าลืมว่า ม. มีหน้าที่หลัก ในการสอน กิจกรรมนอกหลักสูตร (Extra Curricular) เป็นเรื่องเสริม นอกระบบการศึกษา ไม่จำเป็นต้องมีก็ได้ เพราะไม่ได้เกี่ยวกับหลักสูตร และ mandate ของ มหาวิทยาลัยเลย
ทำไมเรื่องของนายเนติวิทย์ กับพวก ถึงเกิดขึ้นไม่จบไม่สิ้น ที่จุฬาฯ และ กับระบบ อุดมศึกษา ของไทย
สาเหตุเพราะ ผู้ใหญ่ ผู้บริหาร ของหลายหน่วยงาน และองค์กร ของเรา ไม่รู้หน้าที่ของตนเอง (หรือจงใจลอยตัว)
สิ่งที่ควรจะเกิดขึ้นคือ
1. ผู้บริหาร มหาวิทยาลัย อธิการบดี กับ สภามหาวิทยาลัย ต้อง take serious measure ในกรณีที่เหตุการณ์ ทำลายภาพลักษณ์ ของ มหาวิทยาลัย เกิดขึ้นทันที ถ้าไม่ทำอะไร สิ่งเหล่านี้ จะกลายเป็นตัวชี้ ถึงการขาดคุณสมบัติ และการละเลยหน้าที่ ของทีมผู้บริหาร
2. ในกรณีนี้ จุฬาฯ เป็น มหาวิทยาลัย ของรัฐ ท่าน รมต อว กับ ปลัด อว ก็มีอำนาจ ที่จะจัดการกับผู้บริหาร กับ สภามหาวิทยาลัย
สามารถสั่งปลด ผู้บริหาร และ สภา ทั้งชุด และแต่งตั้ง ผู้บริหารเข้ามาจัดการแก้ปัญหาเหล่านี้
นี่คือวิธี การแก้ปัญหาแบบนี้ ของ ระบบอุดมศึกษา ในเมกา นะครับ
ประเทศที่เน้นย้ำเรื่องประชาธิปไตย กับการเลือกตั้ง
3. การได้ผู้บริหาร ม. หรือ กรรมการสโมสรนิสิต จากการเลือกตั้ง ไม่ได้หมายความว่า พวกเขาจะมีอำนาจ ทำอะไรก็ได้
4. เรื่องแบบนี้ ในเมกา ศาลปกครอง จะไม่เข้ามาก้าวก่ายเลย เพราะ ถือเป็นส่วนหนึ่ง ของการบริหารสถาบันการศึกษา เป็นขบวน การ และระบบ การสอนนักศึกษา
องค์กรใด หรือ บริษัทใด ที่ไม่สามารถ จัดการ หรือบริหาร หรือแก้ไข ปัญหา การทำลายภาพลักษณ์แบบนี้ มีแต่จะถึงจุดล่มสลาย ล้มละลาย เท่านั้น
…………………………
รศ.หริรักษ์ สูตะบุตร อดีตรองอธิการบดีฝ่ายบริหารบุคคล มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก โดยมีใจความตอนหนึ่งว่า
หลังจากการเลือกตั้งเมื่อปี 2562 เป็นต้นมา เราได้เห็นการต่อต้านสถาบันพระมหากษัตริย์ในรูปแบบต่างๆ จากนักวิชาการอิสระ อาจารย์มหาวิทยาลัย องค์การนิสิตนักศึกษามหาวิทยาลัยต่างๆ ลงไปจนถึงระดับโรงเรียน รวมทั้งสำนักข่าวหลายสำนัก
นี่ไม่ใช่เป็นเรื่องบังเอิญ หรือเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นแบบฉับพลัน แต่เชื่อได้ว่าขบวนการนี้ได้มีการวางแผนและดำเนินการมาเป็นเวลานาน จุดเริ่มต้นที่ดีที่สุดคือการครอบงำความคิดคนรุ่นใหม่ที่มีความรู้ เมื่อคนเหล่านี้ได้ไปเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัย พวกเขาก็จะไปครอบงำบ่มเพาะความคิดนิสิตนักศึกษา จัดตั้งกลุ่มการเมืองในสถาบันการศึกษาให้ลงเลือกตั้งเป็นนายก เป็นกรรมการองค์การนิสิตนักศึกษา สภานิสิตนักศึกษา เพื่อเคลื่อนไหวตามแนวทางข้างต้น
เมื่ออาจารย์ครอบงำนิสิตนักศึกษา นิสิตนักศึกษาที่รับการครอบงำเมื่อจบไป ไปเรียนต่อ กลับมาเป็นอาจารย์มหาวิยาลัย กลับมาเป็นครู ก็มาครอบงำนักเรียน นิสิตนักศึกษารุ่นต่อๆ มา คนรุ่นต่อๆ มาก็จะถูกบ่มเพาะให้มีความคิดแบบเดียวกัน
มาถึงวันนี้ ต้องยอมรับว่า ขบวนการดังกล่าวเกิดประสิทธิผลไม่น้อย เราจึงได้เห็นสื่อที่ใช้โอกาสต่างๆ เปิดช่องให้คนที่มีความคิดดังกล่าวเข้ามาแสดงความคิดเห็นลบหลู่ โจมตีสถาบัน เราจึงได้เห็นม็อบที่ล้อเลียน กระทำการจาบจ้วง เย้ยหยัน พระมหากษัตริย์
นี่น่าจะเป็นสาเหตุที่คณะก้าวหน้าและพรรคก้าวไกล ไม่เคยลดละ ล้มเลิก ความพยายามที่จะยกเลิกมาตรา 112
ใครคือผู้ที่บงการจริงๆ และให้การสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง พิสูจน์ได้ไม่ง่าย แต่คนส่วนใหญ่และหน่วยงานรัฐรู้ตัวผู้บงการอย่างดี
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ตั้งป้อมชน 'ระบอบทักษิณใหม่' ประเดิม 18 ธ.ค. บุก ป.ป.ช. หึ่งล็อบบี้หนักล้มคดีชั้น 14
วงหารือฝ่ายต้านรัฐบาล ตั้งป้อมชน 'ระบอบทักษิณใหม่' นำร่อง 18 ธ.ค. บุกตึก ป.ป.ช. หลังได้กลิ่นล็อบบี้หนัก 3 กรรมการฯ ล้มคดีชั้น 14
'ธนกร' ดีดปาก 'ปิยบุตร' เลิกเสี้ยมปม กม.จัดระเบียบกลาโหม
'ธนกร' สวน 'ปิยบุตร' หยุดเสี้ยมปม กม.จัดระเบียบกลาโหม ยัน สส.ฟังเสียงประชาชน ปัดมีใบสั่งจากชนชั้นนำ ย้ำชัด กองทัพเป็นความมั่นคงของชาติทุกมิติ ชี้หากทำผิดก็อยู่ยาก ป้องกันรัฐประหารไม่ได้
เสื้อแดงตาสว่างหรือยัง 'ใบอนุญาต' ประจานทักษิณ-เพื่อไทย!
นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า ได้โพสต์เรื่องใบอนุญาต2ใบในการจัดตั้งรัฐบาล โดยตั้งคำถามว่า ทำไมพรรคการเมืองกลับเลือกใช้วิธี “หมอบ สยบยอม เอาใจ” ผู้ออกใบอนุญาตที่ 2
ดร.นิว อัด ‘ปิยบุตร’ ผุดวาทกรรมพลัง 2 ขั้ว มอมเมาสติปัญญา!
ดร.ศุภณัฐ อภิญญาณ หรือ “ดร.นิว” นักวิจัยภายใต้สถาบันวิจัย MAST Center และ คณ
'ปิยบุตร' อัดเพื่อไทย! ทำเปลี่ยนโครงสร้างอำนาจการเมือง ช้าออกไปอีก 10-20 ปี
นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า โพสต์เฟซบุ๊กว่าแทนที่พรรคการเมืองจะรวมพลัง “ยึด” อำนาจการออกใบอนุญาตที่ 2 ของ
ปชน.ขนทัพใหญ่ หาเสียงทิ้งทวน! หวังปักธง‘สีส้ม’
“ปชน.” ปูพรมโค้งสุดท้าย ขนทัพใหญ่ดาวกระจาย 6 สายทั่วพื้นที่ “ปิยบุตร” ขอโอกาสปักธงสีส้ม “พิธา” เชื่อคะแนนยังสูสี พรรคประชาชนมีโอกาสพลิกชนะ