19 ต.ค.2565 - ที่กองบังคับการปราบปราม พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผู้บังคับการปราบปราม (ผบก.ป.) กล่าวถึงตำรวจกองปราบเข้าจับกุมตัวนายนายวีรวิชญ์ รุ่งเรืองศิริผล หรือ ลุงศักดิ์ อายุ 62 ปี ตามหมายจับค้างเก่าในคดี ทำร้ายร่างกาย นายเสกสกล อัตถาวงศ์ อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ของศาลแขวงดุสิต ปี 2564 ว่า การจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับค้างเก่าเป็นหน้าที่ของตำรวจทุกคนอยู่แล้ว เมื่อมีข้อมูลก็ดำเนินการสืบสวนจับกุมตามปกติไม่มีอะไรเป็นพิเศษ หลังจากนี้ก็นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.ดุสิต ดำเนินคดีข้อหาทำร้ายร่างกาย มาตรา 295 ส่วนการประกันตัวสามารถยื่นขอปล่อยตัวชั่วคราวได้ที่ชั้นพนักงานสอบสวน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการจับกุมนายวีรวิชญ์ ครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 19 ต.ค. 2564 ขณะที่ นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และนายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กำลังเชิญแกนนำกลุ่มแรงงานที่ได้รับความเดือนร้อนจากโรงงานผลิตชุดชั้นในปิดตัวลง จนต้องมาจัดกิจกรรมชุมนุมที่บริเวณด้านหน้าทำเนียบรัฐบาล เข้ามาหารือยังชั้น 3 ตึก กพร. ศูนย์รับเรื่องร้องเรียน เพื่อหาทางออกเกี่ยวกับปัญหา ระหว่างนั้น ได้มีนายวีรวิชญ์ ผู้ต้องหารายนี้ซึ่งยืนดักรออยู่ที่ด้านล่างของอาคารเดินตรงปรี่เข้าไปตบหัว และ ชกหน้าอกของ นายเสกสกล ซึ่งหลังเกิดเรื่อง นายเสกสกล จึงส่งตัวแทนเข้าแจ้งความไว้ที่ สน.ดุสิต ท้องที่เกิดเหตุ จนมีการออกหมายจับ กระทั่งนำมาสู่การจับกุมตัวได้ดังกล่าว
จากการสอบสวน นายวีรวิชญ์ ให้การรับสารภาพว่าทำจริง แต่ขอตำหนิเจ้าหน้าที่ตำรวจสักนิดว่า หลังเกิดเหตุครั้งนั้นตนได้ไปมอบตัว พร้อมลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานว่าหากคู่กรณีต้องการจะดำเนินคดีกับตน ให้โทรศัพท์แจ้งตนด้วย จะได้กลับมามอบตัว แต่หลังจากวันนั้นกลับไม่มีการติดต่อใดๆกลับมา และไม่ทราบว่ามีการแจ้งความ หรือ แม้กระทั่งการออกหมายเรียก จนมามีการออกหมายจับดังกล่าว ยืนยันว่าไม่เคยหนี พร้อมมอบตัวอยู่แล้ว
“ส่วนตัวยืนยันว่าไม่เคยมีอคติกับ นายเสกสกล แต่เพราะเคยเป็นคนเสื้อแดง กินข้าวหม้อเดียวกัน เช่นเดียวกับกรณีของนายศรีสุวรรณ ถ้าสิ่งไหนที่ตนทำผิดดำเนินคดีได้เลยว่ากันตามกฎหมาย พร้อมยอมรับผิดอยู่แล้ว เพียงแต่ขอให้มีบรรทัดฐาน อย่าลำเอียง เพราะทุกคนเท่าเทียมกันหมด” นายวีรวิชญ์ ให้การเพิ่มเติม เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จึงนำตัวส่ง สน.ดุสิต ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'อี้ แทนคุณ' นำผู้เสียหายร้องกองปราบเร่งจับตัว 'หมอบุญ' หวั่นคดีเงียบหาย
นายแทนคุณ จิตต์อิสระ และคณะชมรมสันติประชาธรรมพาผู้เสียหายคดี นพ.บุญ วนาสิน หรือ หมอบุญ เข้าร้องขอความช่วยเหลือกับ พล.ต.ท. จิรภพ ภูริเดช
ผบ.ตร. เซ็นโอนคดี 'สจ.โต้ง' ให้กองปราบแล้ว ผลนิติวิทยาศาสตร์เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี
พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาจิ (ผบ.ตร.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้เซ็นโอนคดี นายชัยเมศร์ สิทธิสนิทพงศ์ หรือ สจ.โต้ง ถูกยิงเสียชีวิตในบ้านพักของ นายสุนทร วิลาวัลย์ หรือ โกทร อายุ 86 ปี นายก อบจ.ปราจีนบุรี
เมีย 'สจ.โต้ง' ร้อง ผบ.ตร. โอนคดีให้กองปราบ หลังยื่น บก.ป.แล้วยังเงียบ
นายนิติศักดิ์ มีขวด ทนายความส่วนตัว น.ส.ณภาภัช อัญชสาณิชมน หรือ สจ.จอย ภรรยา นายชัยเมศร์ สิทธิสนิทพงศ์ หรือ สจ.โต้ง ปราจีนบุรี ยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมและขอให้โอนย้ายคดีมาที่กองบังคับการปราบปรามกับ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.)
ตร. รับพิจารณาโอนคดีสังหาร 'สจ.โต้ง' ให้กองปราบ สั่งสอบตำรวจลูกสมุนผู้มีอิทธิพล
พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (โฆษกตร.) เปิดเผยกรณี น.ส.ณภาภัช อัญชสาณิชมน หรือ สจ.จอย ภรรยาของนายชัยเมศร์ สิทธิสนิทพงศ์ หรือ สจ.โต้ง ที่
เมีย สจ.โต้ง ร้องโอนคดีให้กองปราบ ยังไม่เผาศพรอความยุติธรรม
น.ส.ณภาภัช อัญชสาณิชมน (สจ.จอย) ภรรยา สจ.โต้ง ทนายเอี้ยง” นิติศักดิ์ มีขวด และ นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์อเข้ายื่นหนังสือต่อพล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช
'บิ๊กอ้อ' ลุยปราจีนฯ คุมสางคดีฆ่า 'สจ.โต้ง' มั่นใจหลักฐานพอ ไม่พึ่งวงจรปิด
'บิ๊กอ้อ' บินสางปมยิง 'สจ.โต้ง ปราจีน' เชื่อชนวนเหตุสังหารจากการเมืองท้องถิ่น มั่นใจหลักฐานเพียงพอ แม้วงจรปิดที่เกิดเหตุเสีย