'เจี๊ยบ' ควง 'ช่อ' รำลึก 14 ตุลา โวยประชาธิปไตยไทยไม่ตรงปก

‘ก้าวไกล-ก้าวหน้า’ รำลึก 14 ตุลา ​’เจี๊ยบ’ ชี้เป็นเหตุการณ์ทั้งชนะและแพ้ ประชาธิปไตยไม่ตรงปก ‘ช่อ’ เสริมไล่เผด็จการคนหนึ่งไปคนใหม่ก็มา ต้องปฏิรูปทุกสถาบัน

14 ต.ค. 2565 – นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล พร้อมด้วย น.ส.พรรณิการ์ วานิช กรรมการบริหารคณะก้าวหน้า เดินทางไปยังอนุสรณ์สถาน 14 ตุลา แยกคอกวัว ร่วมรำลึกเหตุการณ์การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองครั้งใหญ่ของประเทศไทย วัน 14 ตุลา มหาวิปโยค ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 14 ต.ค. 2516 โดยมีมวลชนจำนวนมหาศาลเข้าร่วมต่อต้านเผด็จการในเวลานั้น โดยกิจกรรมวันนี้มีทั้งญาติวีรชนเหตุการณ์ ประชาชน นักกิจกรรมต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย นักการเมืองเข้าร่วมงาน

นางอมรัตน์​ กล่าวว่า เป็นทั้งชัยชนะและความพ่ายแพ้ โดยที่กล่าวเช่นนั้นเพราะว่าเหตุการณ์ 14 ตุลา สามารถขับไล่เผด็จการที่ครองอำนาจไว้ได้ แต่ขณะเดียวกันภายในเวลา 3 ปีเท่านั้นเผด็จการกลับมาของอำนาจและกลับมามีบทบาทในช่วงเหตุการณ์ 6 ตุลา 2519 ซึ่งเป็นอีกหนึ่งครั้งของความรุนแรงที่ก่อโดยรัฐ ที่ปัจจุบันยังไม่มีผู้กระทำผิดได้รับโทษ

“ไม่ว่าจะเป็น 14 ตุลา 2516 6 ตุลา 2519 หรือเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ จนถึงเหตุการณ์ความรุนแรงเมื่อปี 2553 ซึ่งทั้งหมดสะท้อนให้เห็นว่า เราไม่สามารถขับไล่เผด็จการและมีชัยชนะเบ็ดเสร็จเด็ดขาดได้ เป็นเพราะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงโครงสร้างทางการเมืองความคิดของประชาชนทั้งหมดได้ ดังนั้นการขับไล่เผด็จการยังไม่เพียงพอต่อการเปลี่ยนแปลงประเทศแต่ต้องเป็นการเปลี่ยนแปลงในระดับโครงสร้างและในระดับรัฐบาล เราต้องเปลี่ยนที่โครงสร้างของประเทศ เอากองทัพออกไปจากการเมืองยุติการเข้ามาของอำนาจนอกรัฐธรรมนูญ หรือมือที่มองไม่เห็นหยุดการแทรกแซงทางการเมืองจากองคาพยพที่ไม่เกี่ยวข้อง” นางอมรัตน์ ระบุ

ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล กล่าวด้วยว่า ปัจจุบันเป็นเวลากว่า 90 ปีแล้วที่มีการเปลี่ยนแปลงการปกครองมาสู่ระบอบประชาธิปไตย แต่ประเทศไทยยังไม่ตรงปกประเทศรัฐธรรมนูญเสียที ดังนั้นการเปลี่ยนแปลงประเทศให้เป็นประชาธิปไตยโดยสมบูรณ์เป็นภารกิจสำคัญที่ต้องทำ

ด้าน น.ส.พรรณิการ์ ตัวแทนจากคณะก้าวหน้าที่เดินทางมาพร้อมกัน กล่าวเสริมถึงเหตุการณ์ 14 ตุลาว่า ไม่ควรมีใครต้องต่อสู้เรียกร้อง และล้มตายเพื่อประชาธิปไตย และเหตุการณ์ 14 ตุลา เป็นทั้งชัยชนะและความพ่ายแพ้ เพราะเป็นการตื่นตัวของนิสิตนักศึกษา มวลชน กรรมกร ชาวนา ครั้งใหญ่ ทั่วประเทศลุกฮือกัน ไม่ใช่เพียงเฉพาะกรุงเทพมหานคร แต่ชัยชนะในครั้งนั้นกลายเป็นความพ่ายแพ้เพราะไม่ใช่ชัยชนะที่ยั่งยืน บทเรียนจาก 14 ตุลา สอนให้รู้ว่า ไล่เผด็จการออกไป เผด็จการคนใหม่ก็เกิดขึ้นเสมอ ตราบใดที่เราไม่เปลี่ยนโครงสร้างของประเทศให้รับใข้ประชาชนอย่างแท้จริง และปฏิรูปทุกสถาบันให้อยู่ใต้รัฐธรรมนูญ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'พิธา' ทวงบุญคุณเอ็มโอยูยกเก้าอี้ประธานสภาให้จี้เร่งทำ 3 เรื่อง

'พิธา' ทวงสัญญาพรรคการเมือง-ครม. กลางสภายกเอ็มโอยูตั้ง รบ.ไม่สำเร็จ แต่ขอให้ผลักดัน 3 ข้อ รัฐสภาก้าวหน้า-นิรโทษฯ-ปฏิรูปกองทัพ

'นักวิชาการ' วิเคราะห์ผลการเลือกสว.จะเป็นผลดีต่อประเทศชาติ มากกว่าเป็นผลเสีย

รศ.หริรักษ์ สูตะบุตร อดีตรองอธิการบดีฝ่ายบริหารบุคคล มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า

'ไอติม' ยันก้าวไกลไม่ได้หนุน 'บิ๊กแจ๊ส' ชิงนายก อบจ.ปทุมธานี

นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณี สส.ของพรรคก้าวไกล โพสต์แสดงความยินดีกับ นายชาญ พวงเพ็ชร์ ผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี (อบจ.ปทุมธานี) ที่ชนะการเลือกตั้ง

ปารีณาเจออีก! กกต. สั่งฟันคดีอาญาซื้อเสียงช่วยพี่ชายเลือกตั้ง สส.ราชบุรี

สำนักงานกกต.เผยแพร่คำวินิจฉัยกกต.สั่งให้มีการดำเนินคดีอาญาน.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ อดีตสส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ และนางนุสรา บุญสวัสดิ์ ตาม พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.)​ ว่าด้วยการเลือกตั้งสส. 2561มาตรา73(1)

เหนื่อยแน่! เพื่อไทย รับต้องปรับยุทธศาสตร์ หลังผลโพลตามหลังก้าวไกล

นายสรวงศ์ เทียนทอง สส.สระแก้ว และเลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ถึงผลนิด้าโพลเปิดผลโพลในไตรมาส 2 ที่ ปรากฏว่านายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) และ พรรค

'พิธา' อัด กกต. อย่าสองมาตรฐานคดียุบพรรค เชื่อ ก้าวไกล มีสิทธิรอด

'พิธา' บอก ยังไกลไปเยอะ หาก 'ก้าวไกล' รอดถูกยุบ แล้วฟ้องกลับ 'กกต.' มอง ตีความแยกมาตรา 92-93 ทำให้เกิดสองมาตรฐาน มั่นใจ คดี 44 สส. ยื่นแก้ ม.112 อธิบายได้ ย้ำ ต้องให้โอกาสในการพิสูจน์ เหตุคดีก็ยังไม่ถึงที่สิ้นสุด